นายกฯร่วมงานวันตร.ขอยึดมั่นอุดมการณ์ดูแลปชช.

นายกรัฐมนตรี ร่วมงานวันตำรวจ กล่าวขอให้ตำรวจยึดมั่นอุดมการณ์ ดูแลประชาชน ไม่คล้อยตามในสิ่งที่ถูกต้อง ยัน รัฐบาลดูแลเท่าเทียมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวให้โอวาทเนื่องในวันตำรวจ ประจำปี 2558 ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ข้าราชการตำรวจทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความทุ่มเท เสียสละ อดทน สร้างความน่าเชื่อถือไว้วางใจ เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งขอชื่นชมและขอขอบคุณข้าราชการตำรวจทุกคน อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องมีมาตรการเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการทำงานเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน โดยขอให้ข้าราชการตำรวจทุกคน ยึดมั่นในอุดมการณ์ มีคุณธรรม ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้สมกับความไว้วางใจ ด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

ทั้งนี้ สำหรับปัญหาที่สำคัญคือการสร้างความเข้าใจซึ่งต้องยึดหลักการทางกฎหมาย และต้องมีเกียรติยศไม่คล้อยตามในสิ่งที่ถูกต้องและไม่อยู่ข้างใดที่ไม่มีความชอบธรรม ทั้งนี้ เราต้องร่วมคืนเกียรติยศและศักดิ์ศรีให้แก่ข้าราชการตำรวจ และขอให้ข้าราชการทหารและตำรวจ มีความเป็นหนึ่งเดียวกันทุกเหล่าทัพ ซึ่งยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลข้าราชการอย่างเท่าเทียม

 

นายกเป็นประธานเนื่องในวันตำรวจ13ต.ค.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันตำรวจ 13 ตุลาคม 2558 ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมภริยา ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ มีบุคคลสำคัญเดินทางเข้าร่วมภายในงานอาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมทั้งคณะทูตานุฑูตจากประเทศต่างๆ และตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ร่วมงาน

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีภารกิจสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นในสังคม และการธำรงความยุติธรรมในด้านต่างๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ข้าราชการตำรวจทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความทุ่มเท เสียสละ อดทน สร้างความน่าเชื่อถือไว้วางใจ เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริงได้ในทุกโอกาส 

ปัจจุบันสังคมโลกไร้พรมแดนและมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ทำให้เกิดปัญหาที่ซับซ้อน การป้องกันและการแก้ไขต้องอาศัยทั้งประสบการณ์และความรู้ที่หลากหลาย  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงต้องมีมาตรการเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการทำงานเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในการป้องกัน  การปราบปราม และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการอื่นให้ประสบผลสำเร็จในทุกด้าน และขอให้ข้าราชการตำรวจยึดมั่นในอุดมการณ์ มีคุณธรรม ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์และทักษะต่างๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ให้เกิดผลลัพธ์สุดท้ายคือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้สมกับความไว้วางใจ ด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

โดยปัญหาสำคัญของประเทศไทยในขณะนี้คือ การเป็นประชาธิปไตย ข้าราชตำรวจจะต้องยึดมั่นในหลักการ และเจตน์จำนงให้แน่ชัด ประเทศชาติจะต้องได้รับการปกป้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่เช่นนั้นจะถูกดูหมิ่น ดูแคลน สิ่งสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการตอนนี้คือ การกู้คืนศักดิ์ศรีของข้าราชการตำรวจกลับคืนมา ซึ่งรัฐบาลจะให้ความดูแลข้าราชการทุกหมู่เหล่าอย่างเท่าเทียม แต่ขอให้ข้าราชการตำรวจยึดมั่นในศักดิ์ศรี รักใคร่กลมเกลียมกัน และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะต้องเป็นผู้สร้างเสริมสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันว่าตัวเองจะยึดมั่นตามกฎหมาย อนาคตข้าราชการตำรวจ ทหาร จะต้องไม่เลือกเข้าข้างฝ่ายผู้กระทำความผิด ในเหตุการณ์ความขัดแย้งต่างๆ เพียงเท่านี้ศักดิ์ศรีของการเป็นข้าราชการตำรวจจะกลับคืนมา โดยยืนยันอีกว่า ตัวเองไม่เคยคิดทำลายเกียรติยศของข้าราชการตำรวจ และบอกอีกว่า "ผมต้องรักตำรวจ เพราะผมลักลูกสาวเขามา"

ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ซึ่งงานเลี้ยงในวันนี้เป็นการเลี้ยงขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะเป็นการสร้างสรรค์งานของตำรวจไทยเจริญยิ่งขึ้นไป