ปลัดฯกลาโหมยันส่งทหาร 2 กองร้อยเข้าคุ้มกันทำเนียบ

ปลัดฯกลาโหมยันส่งทหาร 2 กองร้อยเข้าคุ้มกันทำเนียบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(31ม.ค.) เวลา 17.00 น. พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานเปิดงานแสดงดนตรี84พรร ษาประชาสมานฉันท์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษาถึงกรณีที่ที่อาจจะย้ายไปจัดงานที่ จ.อุดรธานี กับ จ.เชียงใหม่ว่า ตนมีความคิดเหมือนกัน เพราะโครงการดังกล่าวมุ่งทำให้เกิดความสมานฉันท์ และมุ่งทำให้พระองค์ท่านเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้พระองค์ท่านที่จะทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา ในอีก 3 ปีครั้งหน้า ซึ่งโครงการดังกล่าวจะทำต่อไปเรื่อย ๆ

เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง พล.อ. อภิชาต กล่าว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงไม่น่ามีปัญหา เพราะเท่าที่ทราบยอดผู้ชุมนุมยังไม่มาก และยังไม่เป็นไปตามเป้าที่แกนนำตั้งไว้ เบื้องต้นทราบว่า มียอดผู้ชุมนุม 8,000 คน แต่แกนนำได้มีการกำหนดว่า 21.00 น. อาจจะตัดสินใจอีกครั้งว่า จะเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ ทั้งนี้ทหารยังจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้ามาดูแลสถานการณ์และสภาพปัญหา ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีมือที่สามเข้ามาสร้างความวุ่นวาย แต่จะต้องระมัดระวังเรื่องนี้พอสมควร ซึ่งเราเป็นห่วงอยู่

เท่าที่ทราบแกนนำประกาศจะชุมนุมอย่างสงบสุข คงจะไม่สร้างปัญหาอะไร ซึ่งทางตำรวจพยายามจะสกัดกั้นเป็นขั้นตอนและมีการชี้แจงโดยตลอด อาจจะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปไม่ถึงทำเนียบก็ได้ ซึ่งเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่พยายามทำให้เกิดความรุนแรง แต่จะพยายามรักษาสถานการณ์ ทั้งนี้ทางตำรวจยังไม่มีการประสานขอกำลังสนับสนุนจากฝ่ายทหาร แต่ทหารได้เตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปช่วยดูแล ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่เข้าไปในทำเนียบรัฐบาลปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าว

เมื่อถามว่า จะบอกประชาชนอย่างไรว่า ทหารไม่ได้เลือกข้าง เพราะขณะนี้ทหารเข้าไปรักษาความเรียบร้อยในทำเนียบรัฐบาลแล้ว พล.อ.อภิชาต กล่าวพร้อมหัวเราะว่า รมว.กลาโหมบอกแล้วว่า เป็นนโยบายของแต่ละรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้สั่งให้ทหารเข้าไปดูแลในทำเนียบ แต่ครั้งนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการทำงานขึ้นอยู่กับแนวทางของรัฐบาล

ต่อข้อถามที่ว่า การประกาศใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดถูกมองว่ามีการใช้ 2 มาตรฐาน พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะรมว.กลาโหม ชี้แจงไปว่า เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแนวความคิดหรือแนวการปฏิบัติจะต้องเปลี่ยนไป ทั้งนี้ตนอยากขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมอย่าทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น ขอความกรุณาทำเพื่อประเทศชาติ และทำเพื่อประชาชนส่วนรวม

อย่างไรก็ตามการชุมนุมสามารถทำได้ ซึ่งประชาชนบางส่วนกำลังเฝ้าจับตาดูอยู่ว่า สิ่งที่ท่านเรียกร้อง เป็นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติหรือไม่ ถ้าเพื่อประโยชน์ส่วนรวมทุกคนคงจะเห็นด้วย แต่ถ้าเรียกร้องเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง คงไม่ใช่สิ่งที่ทำเพื่อส่วนรวม

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการทำงานของรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองอย่างไร พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ไม่อยากวิพากษ์ วิจารณ์ แต่ในส่วนของกระทรวงกลาโหมดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลที่ผ่านมาที่นายกฯควบรมว.กลาโหมทำให้ท่านไม่มีเวลาเข้ามาดูแลงานในกระทรวงกลาโหมได้เต็มที่ แต่ขณะนี้มีรมว.กลาโหมที่ไม่ได้ควบนายกฯ จึงมีเวลาทำงานให้กระทรวงกลาโหม จึงทำให้งานเดินได้เร็วขึ้น มีกฎหมายหลายฉบับผ่านไปสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และไปสู่ที่ประชุมสภา

ไม่อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมล่วงล้ำเข้าไปในสถานที่ราชการ ซึ่งกำลังตำรวจคงไม่เพียงพอจึงได้มีการขอกำลังทหารจำนวน 2 กองร้อยเข้าไปดูแลในทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าไปเสริมการทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเชื่อว่า จะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น และผมอยากเห็นความสามัคคีของคนในชาติ ทั้งนี้เราทำงานไม่ได้เลือกปฏิบัติ และไม่ได้มีวัตถุประสงค์นำไปสู่ความเกลียดชังคนใดคนหนึ่ง ถึงเวลานานแล้วที่คนไทยจะไม่ต้องแบ่งสี เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้บ้านเมืองเราไม่มีโอกาสพัฒนาไปข้างหน้า ควรหันมาจับมือกัน สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด พล.อ.อภิชาติ กล่าว

รายการคมชัดลึกตอน-แกนโลกเหวี่ยง สัญญาณเตือนธรรมชาติวิบัติ

หลัง ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลว่า แกนโลกหมุนเอียงผิดปกติ ทำให้เกิดความวิตกกังวลกันว่าในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศไทยอาจประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น รายการคม ชัด ลึก ประจำวันศุกร์ที่ 30 มกราคม ตอน แกนโลกเหวี่ยง สัญญาณเตือนธรรมชาติ ได้หยิบยกประเด็นร้อนดังกล่าวมาสนทนาในรายการเพื่อหาข้อเท็จจริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook