พลิกแฟ้ม 5 เสือกองสลาก สุดอู้ฟู่ ไม่มีอีกแล้วโควตา "บิ๊กแดง"นำถกบอร์ด ปิดตำนาน!

พลิกแฟ้ม 5 เสือกองสลาก สุดอู้ฟู่ ไม่มีอีกแล้วโควตา "บิ๊กแดง"นำถกบอร์ด ปิดตำนาน!

พลิกแฟ้ม 5 เสือกองสลาก สุดอู้ฟู่ ไม่มีอีกแล้วโควตา "บิ๊กแดง"นำถกบอร์ด ปิดตำนาน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี "บิ๊กแดง" พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานคณะกรรมการสลากฯ ทุบโต๊ะไม่ต่อโควตาสลากฯ ให้นิติบุคคลทั้งหมด รวมทั้งองค์กร หรือมูลนิธิต่าง ๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้พิการ รวมทั้งสิ้นกว่า 2,495 แห่ง รวมทั้งสิ้น 15.8 ล้านฉบับ หรือคิดเป็น 7.9 ล้านคู่ โดยให้มีผลตั้งแต่งวดวันที่ 1 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ส่งผลต่อจากนี้ จะไม่มี 5 เสือกองสลากฯ ในตำนาน อีกต่อไป

จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ ดูสภาพความเป็นไปใน 5 บริษัท เราได้พบข้อมูล ดังนี้

1. บริษัท ไดมอนด์ ลอตโต จำกัด
จดทะเบียน 24 พฤศจิกายน 2537
ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน (บาท) 8,000,000 บาท
ประเภทธุรกิจ จำหน่ายสลากกินแบ่ง (92001)
ผู้มีอำนาจทำการ นาย ธีรวุฒิ อัศววุฒิพงษ์
ผู้ถือหุ้นใหญ่ นายสมเกียรติ อัศววุฒิพงษ์ 99.9975%

2. บริษัท สลากมหาลาภ จำกัด
จดทะเบียน 24 พฤศจิกายน 2537
ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน (บาท) 4,000,000 บาท
ประเภทธุรกิจ จำหน่ายสลาก - ค้าส่ง (92001)
ผู้มีอำนาจทำการ น.ส.สะเรียง อัศววุฒิพงษ์
ผู้ถือหุ้นใหญ่ น.ส.สะเรียง อัศววุฒิพงษ์ 99.9950%

3.บริษัท หยาดน้ำเพ็ชร จำกัด
จดทะเบียน 6 ธันวาคม 2537
ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน (บาท) 1,000,000 บาท
ประเภทธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (92001)
ผู้มีอำนาจทำการ นางปลื้มจิตต์ กนิษฐสุต
ผู้ถือหุ้นใหญ่ นางปลื้มจิตต์ กนิษฐสุต 80.0000%

4. บริษัท แอดวานซ์ เทคโนโลยี ซิสเต็มส์ จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท ปลื้มวัฒนา)
จดทะเบียน 12 ธันวาคม 2537
ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน (บาท) 25,000,000 บาท
ประเภทธุรกิจ 1. ประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนโดยการขายและให้บริการผ่านสื่ออิเล็คทรอนิคส์ อีคอมเมิร์ซ ตู้เอทีเอ็ม (63113)
ผู้ถือหุ้น 1.นางปลื้มจิตต์ กนิษฐสุต 50.0000% 2. น.ส.ปลื้มใจ ศศะรมย์ 49.4000% 3. น.ส.ขวัญฤดี กนิษฐสุต 0.2000%
ผู้มีอำนาจทำการ นางปลื้มจิตต์ กนิษฐสุต

5. หจก.ขวัญฤดี
จดทะเบียน 24 พฤษภาคม 2550
ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน (บาท) 3,000,000 บาท
ประเภทธุรกิจ จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล - ค้าปลีก (92001)
ผู้มีอำนาจทำการ น.ส.ขวัญฤดี กนิษฐสุต
ผู้ถือหุ้น 1.น.ส.ขวัญฤดี กนิษฐสุต 2.นายธรรมนัส พรหมเผ่า 3.นายสุธี พงษ์เพียรชอบ

ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมืองใหญ่กับกลุ่ม 5 เสือกองสลากนั้น มันคืออะไรกัน เรื่องนี้คงต้องย้อนไปในสมัยรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ตอนนั้น กระทรวงการคลัง โดยนายวราเทพ รัตนากร รมช.คลัง พยายามแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา โดยบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2549 ไม่ต่อสัญญากับตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ 5 ราย ซึ่งเป็นตัวแทนสำนักงานสลากฯ มายาวนาน รู้จักกันดีในนาม "5 เสือกองสลาก" แต่ละรายได้รับโควต้าขายสลากบริษัทละ 1 ล้านฉบับต่อ 1 งวด เนื่องจากทำผิดกติกาและเงื่อนไขต่างๆ จนทำให้สลากมีราคาแพง

เจ้าของบริษัททั้ง 5 แห่ง กว้างขวางมากในวงการลอตเตอรี่ และแนบแน่นกับฝ่ายการเมืองทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ได้แก่ บริษัท สลากมหาลาภ, บริษัท ปลื้มวัธนา (ชื่อใหม่ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ซิสเต็มส์), บริษัท ไดมอนด์ ล็อตโต้ เป็นของ "เจ๊แดง" หรือนางปลื้มจิตต์ กนิษฐ์สุด ขณะที่บริษัท หยาดน้ำเพชร และบริษัทบีบี เมอร์ชานท์ เป็นของ "เจ๊สะเรียง" น.ส.สะเรียง อัศววุฒิพงศ์ ขณะที่ ผู้กองธรรมนัส หรือ ผู้กองตุ๋ย หรือ นายธรรมนุส นั้นเข้ามาเป็นหนึ่งในห้าเสือ เพราะได้เข้าไปเทคโอเวอร์ ห้างหุ้นส่วนจำกัดขวัญฤดี ซึ่งเป็นของลูกสาวเจ้แดง เมื่อ 7 ปีก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังจากยกเลิกสัญญากับทั้ง 5 บริษัทไปแล้ว ปรากฏว่าสำนักงานสลากฯ ไม่ได้ออกหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อเปิดให้มีตัวแทนจำหน่ายรายใหม่เข้ามาทำสัญญาจำหน่ายสลาก เนื่องจากสถานการณ์การเมืองไม่นิ่ง ขณะเดียวกันก็ยังจำเป็นต้องมีตัวแทนจำหน่าย จึงกลายเป็นว่าสิทธิจำหน่ายสลากยังคงอยู่ในมือทั้ง 5 บริษัทต่อไป โดยไม่มีสัญญาทางกฎหมายผูกพัน

จากข้อมูลของสำนักงานสลากฯ พบว่าจำนวนที่พิมพ์จำหน่ายทั้งสิ้น 46 ล้านฉบับนั้น จะจัดสรรให้รายย่อยส่วนกลาง 107,356 เล่ม รายย่อยภูมิภาค ซึ่งจัดสรรผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดและคลังจังหวัด 192,649 เล่ม และนิติบุคคล 6 หมื่นเล่ม

แต่ที่สุดแล้วไม่ว่าจะกระจายสลากอย่างไร จำนวนสลากดังกล่าวก็วนกลับมาที่ผู้จำหน่ายกลุ่มนิติบุคคล โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นโควต้าของผู้ว่าฯ และคลังจังหวัด เพราะไม่มีคนจำหน่าย รวมถึงรายย่อยอื่นๆ ที่ได้รับโควต้า แต่ไม่ต้องการขายปลีก จึงเลือกขายให้รายใหญ่ทันที ดังนั้น จำนวน 46 ล้านฉบับ จึงน่าจะยังอยู่ในมือของเครือข่าย 5 เสือเป็นส่วนใหญ่

ปรากฏว่าการที่รายย่อยขายต่อให้รายใหญ่ หรืออาจจะมีขบวนการไปรวบรวมซื้อสลากจากรายย่อย โดยให้ราคามากกว่าส่วนต่างที่ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยได้รับจากกองสลากคู่ละ 6 บาท ทำให้น่าสงสัยอีกว่าเมื่อได้สลากครบแล้วจึงทำให้สามารถนำมาจัดรวมกลุ่มเลขสวย เลขเรียง หรือที่เป็นหมวดหมู่ได้หรือไม่ ประการสำคัญอาจมีส่วนทำให้ราคาขายส่งที่มาจากตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่จึงออกมาในราคาสูงกว่า 85 บาทต่อชุด และเมื่อมาถึงผู้ค้ารายย่อยจึงทำให้ราคาสลากสูงขึ้นไปถึง 110-120 บาทต่อชุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook