แม่จริงเผยตามหาลูก 4 ปี หลังถูกลักพาตัว ลั่นสู้ยิบตาให้ได้ลูกคืน

แม่จริงเผยตามหาลูก 4 ปี หลังถูกลักพาตัว ลั่นสู้ยิบตาให้ได้ลูกคืน

แม่จริงเผยตามหาลูก 4 ปี หลังถูกลักพาตัว ลั่นสู้ยิบตาให้ได้ลูกคืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่ตัวจริงเผยทั้งน้ำตาดีใจที่สุดหลังตามหามานานกว่า 4 ปี พร้อมโชว์ใบเกิดของลูกสาวที่แจ้งไว้ก่อนถูกขโมย จะสู้ยิบตาเพื่อให้ได้ลูกคืน แม้ไม่ร่ำรวยแต่สามารถเลี้ยงดูได้ พร้อมยอมรับมติกรรมการสหวิชาชีพ เพราะแคร์ความรู้สึกลูกเป็นที่สุด

(6 พ.ย.) จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 ได้ติดตามจับกุม นางอัญชุลี ผู้ต้องหาลักทารกแรกเกิด อายุ 2 วันบุตรสาวของ นางกัลย์สุดา อายุ 30 ปี ชาวบ้านดอนบม อ.เมืองขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อเดือนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554 และ พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ได้แถลงข่าวผลการจับกุม และได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยคดีนี้ได้รับความสนใจและมีกระแสสังคมถึงผลกระทบต่อเด็กเป็นอย่างมาก และมีกระแสว่าจะมีการจ่ายเงินให้กับแม่ที่แท้จริงเพื่อขอเอาเป็นลูกบุญธรรม

ความคืบหน้าล่าสุด นางกัลย์สุดา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้ มีคามพยายามติดตามหาลูก มาโดยตลอดทั้ง ทั้งจากทางตำรวจและโดยตัวเอง แต่ก็ไม่เคยได้ข่าวคราว จนกระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคม ตำรวจโทรมาหาและบอกว่าน่าจะพบลูกสาวที่หายไปแล้ว จึงได้ร่วมเดินทางไปที่จังหวัดชัยภูมิ เมื่อตำรวจถามว่าจำลักษณะพิเศษของลูกได้หรือไม่ ก็ตอบได้ทันทีว่าหูของลูกมีติ่งแหว่งข้างซ้าย เมื่อเปิดดูก็มีจริงๆ และมีการตรวจดีเอ็นเอ จนสุดท้ายก็มีผลออกมาว่า เป็นลูกของตัวเองจริงๆ

ครั้งนั้นเป็นการเจอหน้ากันครั้งแรกหลังจากที่ลูกหายไปจากอ้อมอก รู้สึกดีใจมากๆ แต่ก็รู้สึกสะท้อนในใจเพราะลูกไม่มีความคุ้นเคย แต่ความรู้สึกผูกพันของความเป็นแม่ไม่เคยจืดจาง ต้องยอมรับว่าครอบครัวทางโน้นรักและเลี้ยงดูเป็นอย่างดีโดยเฉพาะปู่กับย่าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

ที่ผ่านมาแทบจะเสียผู้เสียคน ต้องอาศัยพึ่งยาคลายเคลียด คิดมากทั้งต้องพลัดพรากจากลูก และยังถูกสังคมประนามต่างๆนานา บ้างก็ว่าขายลูก บ้างก็ว่ายกลูกให้คนอื่น ซึ่งไม่มีใครเข้าใจหรอกว่าหัวอกคนเป็นแม่จะเจ็บแค่ไหน ตอนนี้อยากให้ลูกกลับมาอยู่กับครอบครัว ที่บ้านนี้แม้จะไม่ร่ำรวยแต่ก็มีรายได้ พอเลี้ยงดูแลให้การศึกษา ไม่ต้องการเงินของใคร ลูกทั้งคนไม่เคยคิดจะขาย แม่แต่แมวหมาที่เลี้ยงไว้ยังรักเลย นี่ลูกทั้งคน ก็คงจะสู้ถึงที่สุด แต่ทั้งนี้ก็จะต้องทำตามวิธีการของคณะกรรมการสหวิชาชีพที่เข้ามาดูแล เพื่อไม่ให้กระทบกับความรู้สึกของลูกที่สุด

อย่างไรก็ตามก็กังวลเพราะก่อนหน้านี้ว่าจะให้ทางเราเทียวไปเพื่อทำความคุ้นเคยกับลูกเป็นระยะเวลาประมาณ 1-2 ปี หรือให้ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านกับลูกที่ชัยภูมิประมาณ 1 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่ลำบากใจมากเพราะไม่ใช่ญาติ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

และมีข่าวว่าจะมีการจ่ายเงินเพื่อปลอบขวัญและให้เพื่อขอไปเป็นลูกบุญธรรมนั้นก็ไม่เคยคิดจะยกให้ เพราะลูกมีแม่ที่แท้จริง ใบเกิดก็แจ้งไว้แล้วตั้งแต่วันหลังคลอดก่อนที่หมอจะอนุญาตให้กลับบ้านแต่ลูกก็มาหายไปเสียก่อน ที่สำคัญคิดว่าคนที่ทำผิดก็ควรจะรับผลที่ก่อขึ้น เพราะที่ผ่านมาคนที่เป็นแม่ต้องสูญเสียต้องจมอยู่กับความทุกข์มานานกว่า 4 ปี ไม่ใช่แค่ตนเองเท่านั้นแต่ทุกคนในบ้านต่างก็เฝ้ารอให้มีวันนี้

ซึ่งจากที่ดูความเป็นอยู่ของครอบครัวนางกัลย์สุดา สภาพบ้านเป็นบ้านไม้สองชั้นครึ่งปูน บริเวณโดยรอบกว้างโล่ง อยู่ติดริมถนนทางเข้าหมู่บ้าน และมีบ้านญาติอยู่ใกล้กัน โดยในบ้านมีคนอาศัยรวมกัน 5 คนนางกัลย์สุดาบอกว่า ปัจจุบันมีอาชีพรับจ้างที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ส่วนปู่ก็เป็นข้าราชการบำนาญ

และรายงานแจ้งว่า ในวันที่ 9 พ.ย.กรรมการ สหวิชาชีพ ขอนแก่น รวมทั้ง นางกัลย์สุดา และญาติ จะเดินทางไปร่วมประชุม กับฝ่ายครอบครัวของผู้ต้องหาที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อหาข้อยุติและข้อปฏิบัติที่ทุกฝ่ายจะต้องทำเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเด็กหรือมีก็น้อยที่สุด รวมทั้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เป็นแม่ที่แท้จริงด้วย

ด้านการดำเนินคดี พ.ต.อ.พิสิฐ หลวงเทพ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าของคดี บอกว่า สำนวนได้มีการตั้งแต่ปี 2554 เพียงแต่มีการสอบสวนเพิ่ม และขณะนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังที่เรือนจำกลางขอนแก่น และรอหลักฐานเพิ่มเติมเล็กน้อย คาดว่าจะสามารถส่งฟ้องได้ภายใน 15 วันนี้

ขณะเดียวกันได้รับแจ้งว่า ญาติของนางอัญชุลี ได้มีการยื่นเรื่องขอประกันตัวต่อศาล โดยทางศาลให้ประกันได้ด้วยหลักทรัพย์ค้ำประมาณ 180,000 บาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook