หมอฟันเตือน! คนไข้ติด HIV ไปจัดฟันเถื่อนมา-เสี่ยงแพร่เชื้อต่อ

หมอฟันเตือน! คนไข้ติด HIV ไปจัดฟันเถื่อนมา-เสี่ยงแพร่เชื้อต่อ

หมอฟันเตือน! คนไข้ติด HIV ไปจัดฟันเถื่อนมา-เสี่ยงแพร่เชื้อต่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

(24 พ.ย.) แม้จะมีทั้งทันตแพทย์ สื่อออนไลน์ และหลายหน่วยงานออกมาเตือนถึงภัยร้ายที่มาจากการจัดฟันแฟชั่นกับคลินิกเถื่อน ที่อาจเกิดการติดเชื้อในช่องปากจนบางรายอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่บรรดาแม่ค้าร้านจัดฟันเถื่อนเหล่านี้ก็ยังไม่หมดไป

ล่าสุด ทันตแพทย์ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Taksid Charasseangpaisarn ได้ออกมาโพสต์เตือนกันอีกครั้ง หลังพบว่าคนไข้ที่มารื้อเครื่องมือจัดฟันแฟชั่น เป็นผู้ที่ติดเชื้อ HIV ที่น่าห่วงคือคนไข้คนนี้ไปทำฟันแฟชั่นที่ไหนมา และแม่ค้าที่ทำฟันให้มีการจัดการฆ่าเชื้อตามหลักที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะมีความเสี่ยงทั้งตัวแม่ค้า และลูกค้าที่มาใช้บริการต่อ

"วันนี้ครับ... เจอคนไข้จัดฟันแฟชั่นมาถอดเครื่องมือออก จริงๆแล้วก็คงจะไม่มีอะไร มารื้อเครื่องมือแฟชั่นออก ขูดหินปูนให้ อุดฟันที่ผุให้ ตามปกติ

แต่... สิ่งที่ต่างออกไปคือ คนไข้เป็นคนไข้ที่ติดเชื้อ HIV ทานยาต้านไวรัส พบแพทย์สม่ำเสมอ ดูแล้วก็เหมือนคนปกตินี่แหละ ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ (ใช่แล้ว.. เหมือนน้องพละนั่นแหละ)

แล้วยังไงต่อ.. ตอนให้การรักษาก็ universal precaution อยู่แล้ว... ทำไมต้องเอามาบอก.....?

คำถามที่ถามคนไข้คือ.. คนไข้ไปทำที่ไหนมา แน่นอนว่าไม่ใช่คลินิกทำฟันที่มีระบบการฆ่าเชื้อตามหลัก.... แต่เป็นห้องพักคอนโดของแม่ค้า สิ่งที่น่ากังวลคือ แม่ค้าที่ทำจัดฟันเถื่อนให้รู้หรือเปล่าว่าในเลือดน้องมีเชื้ออยู่? ถ้าเกิดมีแผลเลือดออกในปากเชื้อก็ออกมา (คิดว่าคงไม่รู้ ถ้ารู้คงไม่ทำให้) เครื่องมือที่เอามาทำเสร็จแล้วไปไหน? คนที่มาทำต่อเป็นใคร? ขยะปนเปื้อนที่เอาไปทิ้งหายไปไหน?

สิ่งที่หมอกับสื่อต่างๆพร่ำบอกสม่ำเสมอว่า การทำปลอดเชื้อเป็นเรื่องสำคัญ ร้านพวกนี้ส่วนมากไม่มีระบบการฆ่าเชื้อ ของที่ใช้ก็วนล้าง อย่างมากก็ต้ม แน่นอนว่าแค่นั้นเชื้อพวกนี้ไม่ตายแน่นอน ทั้งแม่ค้า ลูกค้า(รายต่อไป) คนเก็บขยะ ล้วนมีความเสี่ยงในการติดเชื้อทั้งนั้น แล้วมีใครติดเชื้อไปจากเคสนี้หรือเปล่า (หวังว่าคงไม่มี) 

คิดต่อไปอีก.... เชื่อเถอะคนที่ไปทำ เราไม่รู้หรอกว่าใครมีเชื้ออะไรในตัวหรือเปล่า ไม่ใช่แค่ HIV หรอกที่น่ากังวล (คนเป็นส่วนมากมีความรู้และเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น)

แต่เชื้อที่น่ากังวลและติดได้ง่ายกว่าคงจะเป็น Hepatits หรือโรคตับอักเสบ ถ้าติดแล้วอนาคตมีโอกาสเป็นมะเร็งตับ แม่ค้ารู้หรือเปล่า ลูกค้าที่ไปทำรู้หรือเปล่า ว่าเชื้อพวกนี้มันส่งต่อได้
สุดท้ายตอนนี้ก็คงจะ.. กรรมใครกรรมมัน ทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้ความรู้ตามโอกาสหล่ะนะ"

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ไม่ใช่บุคคลน่ารังเกียจและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ต้องระวังการแพร่เชื้อต่อ ซึ่งสถานที่จัดฟันเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีเชื้อโรคร้ายแรงแฝงตัวอยู่ก็เป็นได้ ฉะนั้น การทำทันตกรรมใดๆ จึงควรทำกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook