ทหารจ่อส่งมอบ2ผตห.ม.112จ้องป่วนคนสำคัญ

'พล.ต.ต.ชยพล' เผย ทหารเตรียมส่งมอบตัว 2 ผตห. คดีมั่นคงให้ ตร. ในวันนี้ หลังเตรียมก่อเหตุรุนแรง - จ่อฝากขังภายในวันนี้ ขณะที่ ปปง. มีมติอายัดทรัพย์สิน พ.ต.ต.ปรากรม, พ.อ.คชาชาต เพิ่มอีก 44 ล้าน

พลตำรวจตรี ชยพล ฉัตรชัยเดช หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูง ระบุว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ทหารเตรียมควบคุมตัวเบื้องต้น 2 ผู้ต้องหา ในคดีความมั่นคง ฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังควบคุมตัวได้ในพื้นที่ภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีพฤติกรรมเตรียมก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จัดกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร โดยพุ่งเป้ามาที่กรุงเทพมหานคร และบุคคลสำคัญของประเทศ

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุความไม่สงบในจังหวัดขอนแก่น เมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีการวางแผนเป็นขั้นตอนซึ่งตำรวจจะเร่งติดตามขยายผล แต่เชื่อว่าน่าจะมีมากกว่า 2 คน

ส่วนขั้นตอนการควบคุมตัวมาในวันนี้ ก่อนส่งมอบตัวผู้ต้องหา แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย เพื่อเป็นหลักฐานว่าผู้ต้องหาไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างควบคุมตัว ก่อนจะให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ ดำเนินคดีพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา หลังจากนั้นจะนำผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลทหารฝากขังภายในวันนี้

ชยพลยันศาลออก7หมายจับ6ผตห.โยงคดีม.112

พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูง ยืนยันว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ศาลทหารกรุงเทพ และศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูง รวม 6 คน 7 หมาย โดยประกอบด้วย นายทหารยศพลตรี และอดีตตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกออกหมายจับ เป็นการสอบสวนขยายผล และพบว่ามีความผิดจริง เกี่ยวข้องต่างกรรมต่างวาระกับ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด พร้อมยืนยันสำนวนคดีหมิ่นเบื้องสูง ยังคงมีเพียง 16 สำนวน เท่านั้น

ส่วนจะมีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

ปปง.อายัดทรัพย์สิน44ล.แก๊งหมอหยอง

พันตำรวจเอก สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยผลการตรวจสอบข้อมูลทางการเงิน ของ พันตำรวจตรี ปรากรม วารุณประภา กับพวก ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นสถาบันฯ โดยปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า พันตำรวจตรี ปรากรม กับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ อาทิ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร สิทธิเรียกร้องในตั๋วแลกเงิน และห้องชุด และปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าทรัพย์สินดังกล่าว ได้มาในระหว่างที่กระทำความผิด คณะกรรมการธุรกรรม จึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 11 รายการ พร้อมดอกผล รวมกว่า 44 ล้านบาท ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากของ นางสาวสุรีวรรณ ชาญยุทธิ์, ของนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์, ของพันเอก คชาชาต บุญดี และของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ รวมกว่า 21 ล้านบาท ตั๋วแลกเงิน 20 ล้านบาท ห้องชุดพหลโยธินปาร์ค 2 ห้อง รวมมูลค่า 2.8 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559