คกก.สอบราชภักดิ์เร่งวางกรอบงานจ่อเชิญผู้เกี่ยวข้องแจง

โฆษกกระทรวงกลาโหม เผย ที่ประชุมคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงปมราชภักดิ์ เร่งกำหนดแนวทางการดำเนินงานและขอเวลาเพื่อความรอบคอบ พร้อมเตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ภายหลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น ล่าสุดเมื่อ 27 พฤศจิกายน 58 พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ประธานคณะกรรมการฯ ได้เรียกประชุมหารือคณะกรรมการฯ กำหนดแนวทางและกรอบการดำเนินงาน โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสาร และหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากทุกส่วนราชการ พร้อมทั้งเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องภายในกระทรวงกลาโหม มาให้ข้อมูลถึงการดำเนินโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ในทุกขั้นตอน รวมถึงทุกเรื่องที่เป็นประเด็นทางสังคม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและสร้างความกระจ่างกับสังคมโดยเร็ว จึงขอเวลาให้คณะกรรมการชุดนี้ได้ทำงานอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความกระจ่างในข้อเท็จจริงร่วมกันต่อไป

ทั้งนี้ หากมีกลไกรัฐอื่นที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ เข้ามาตรวจสอบการดำเนินโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมพร้อมให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดความชัดเจนและร่วมกันสร้างความจริงให้กับสังคมได้รับรู้

โฆษกทบ.ขอณัฐวุฒิระวังไปราชภักดิ์สุ่มเสี่ยงโยงการเมือง

พันเอก วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. จะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า ความจริงมีหลายโครงการสำคัญ ที่ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินไปเป็นจำนวนมาก แต่ นายณัฐวุฒิ เลือกสนใจอยู่โครงการเดียว ซึ่งอาจถูกสังคมมองว่าไม่ค่อยเป็นปกติ ขณะเดียวกัน โครงการนี้อยู่ในระหว่างการไขความกระจ่างในข้อกังวลจากหลาย ๆ ส่วนอย่างเป็นทางการแล้ว และที่ผ่านมา สังคมอาจได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ มีโครงการอีกจำนวนมากที่ส่งกระทบความเดือดร้อนของประชาชน แต่ไม่เห็นท่าทีใด ๆ ในลักษณะนี้ของ นายณัฐวุฒิ และในหลาย ๆ โครงการได้มีข้อสรุปที่สามารถกล่าวหา หรือมีการชี้มูลโดยหน่วยงานตามกฎหมายแล้วด้วยซ้ำ จึงอยากให้ใช้ความระมัดระวัง เพราะการเคลื่อนไหวในบางลักษณะอาจสุ่มเสี่ยงที่จะถูกมองว่าพยายามโยงให้เป็นการเมือง หรืออาจมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงได้

อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าว ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ หากอยากได้ข้อมูลควรจะเข้าสอบถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากกว่าการมาดำเนินการเองในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวขอให้ใช้วิจารณญาณในการบริโภคข่าวสาร และควรเชื่อในสิ่งที่ผ่านกระบวนการหรือมีข้อพิสูจน์ที่สมบูรณ์แล้วเป็นหลัก เพราะการนำเสนอข้อมูลใด ๆ แบบไม่ครบใจความ หรือการตั้งข้อสังเกตใด ๆ ที่มีผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กร ทำให้อาจมีผู้เสียหายพิจารณาใช้มุมทางกฎหมายเข้าดำเนินการจึงไม่ใช่เพียง นายณัฐวุฒิ ที่จะไม่ยอมให้โครงการฯ แปดเปื้อน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารโครงการ ฯ รวมถึงผู้สนับสนุนทุกคนก็ไม่ยอมให้มีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับโครงการนี้เช่นกัน