สุเทพนยันแค่กล่าวอวยพร ไม่ได้แจกทุนการศึกษา

(1ก.พ.) เวลา 10.30 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่ กกต. ส่งสำนวนคดีแจกทุนการศึกษาในการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) สุราษฎร์ธานี ซึ่งนายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ ถูกให้ใบเหลือง ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนมีการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาตนเป็น ส.ส. สุราษฎร์ธานี เขต 2 ต่อเนื่องมา 30 ปี แต่ครั้งนี้มีที่ว่างในเขต 1 พี่น้องประชาชนอยากให้ตนลงสมัครที่เขต 1 ตนจึงได้ลงสมัคร จึงถือเป็น ส.ส.ใหม่ เมื่อเวลามีงานเทศกาล ชาวบ้านก็อยากให้ตนร่วมด้วย และเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการเชิญตนไปร่วมงาน ทั้งนี้ในช่วงที่มีพิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ตนได้กล่าวเพียงคำอวยพรตามประเพณี ไม่ได้มีการพูดปราศรัยทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แต่ก็มีคนไปร้องเรียน เพราะน้องชายตนกำลังลงสมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี และกล่าวหาว่าสิ่งที่ตนไปในวันสงกรานต์นั้น เป็นผลได้ผลเสียต่อการเลือกตั้งของน้องชาย ทั้งที่ในวันดังกล่าว น้องชายตนก็ไม่ได้ไปด้วย และ ส.ส.ที่ไปร่วมงานก็ไม่มีใครหาเสียงใดๆ เลย อีกทั้งเรื่องนี้ไม่น่าจะมีผลอะไรต่อคะแนนเสียงของน้องชายตนด้วย เพราะในการเลือกตั้งน้องชายได้คะแนนเสียงกว่า 192,000 คะแนน แต่ผู้ที่มาร่วมงานในวันนั้นมีเพียง 1,000 กว่าคนเท่านั้น

เมื่อถามว่ามีการอ้างว่ามีการแจกทุนการศึกษานั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นการกล่าวอ้างที่ผิด เพราะตนไม่เคยแจกอะไรที่เกาะสมุย หรือที่ไหนก็ไม่เคยแจกเหมือนกัน เนื่องจากในช่วงหลังนี้มีกฎหมายเลือกตั้งที่เคร่งครัด เมื่อก่อนตนก็เคยส่งเสียให้ทุนการศึกษาเด็กเรียน 48 คน แต่ตอนนี้ต้องเลิกไป เพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่ กกต. ต้องสรุปสำนวนเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอุธรณ์ หากศาลพิจารณาให้ใบเหลือง และให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ จากนั้นจึงจะถึงคดีอาญา ซึ่งตนขอยืนยันจะสู้คดีอย่างถึงที่สุด สู้กันทั้ง 3 ศาล เชื่อว่าเรื่องคงอีกยาว เพราะไม่เข้าใจว่าการที่ไปงานประเพณีจะผิดกฎหมายอย่างไร

ต่อข้อถามว่า กรณีนี้จะสร้างมาตรฐานทางการเมืองอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเป็นปัญหาที่ต้องตีความกันอยู่ ซึ่งตนคงไม่ไปสร้างอะไรที่พิสดารอย่างนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องการทุจริตหรือคอรัปชั่น รวมทั้งกรณีนี้ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับกรณีของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลในคดีรถดับเพลิงได้ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน เพราะเรื่องรถดับเพลิงเป็นเรื่องการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลเราอาจต้องพิจารณา แต่กรณีของตนไม่ใช่อย่างนั้น

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ว่าหากถูกคดีอาญาจะต้องหลุดจากตำแหน่ง นายสุเทพ ยืนยันว่า ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะต้องดูว่าคดีอะไร เพราะคดีอาญามีหลายแบบ ขับรถชนคนตายก็เป็นคดีอาญา ไม่จำเป็นต้องออกจากตำแหน่ง แต่กรณีของตนก็อยากให้ไปพิสูจน์ในศาล

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้ได้ชี้แจงให้นายกฯ ได้รับทราบหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อคืนตอนที่ตนได้รายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เรียนให้นายกฯ รับทราบสั้นๆ ว่าตนไปร่วมงานประเพณีสงกรานต์เท่านั้น แต่กกต.บอกว่าผิดก็ต้องสู้คดีกันในศาล ซึ่งนายกฯ ก็เข้าใจดี อย่างไรก็ตามเรียนว่าที่ผ่านมา กกต. ไม่เคยเชิญตนไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวเลย เป็นเรื่องที่แปลกมาก แต่ก็ไม่อยากมองว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งข้อสังเกตอะไรหรือไม่ เพราะ กกต. มีมติ ตั้งแต่ 18 พ.ย. แต่เพิ่งมีการเปิดเผย จะมีเจตนาอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนไม่คิดอะไรมาก

ผมไม่สงสัยอะไรทั้งสิ้นต่อเรื่องนี้ เพราะ กกต.ท่านคงจะงานเยอะเลยสับสน เลยจำเรื่องไม่ได้ทั้งหมด รวมทั้งไม่สงสัยคุณสดศรี(สัตยธรรม) เพราะไม่ใช่คนที่ชอบสงสัยคนอื่น ส่วนเรื่อง กกต. เสื้อแดงอย่าไปคิดเลย ว่าจะเสื้อสีอะไร นายสุเทพ กล่าว

รายการคมชัดลึกตอน-แกนโลกเหวี่ยง สัญญาณเตือนธรรมชาติวิบัติ

หลัง ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลว่า แกนโลกหมุนเอียงผิดปกติ ทำให้เกิดความวิตกกังวลกันว่าในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศไทยอาจประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น รายการคม ชัด ลึก ประจำวันศุกร์ที่ 30 มกราคม ตอน แกนโลกเหวี่ยง สัญญาณเตือนธรรมชาติ ได้หยิบยกประเด็นร้อนดังกล่าวมาสนทนาในรายการเพื่อหาข้อเท็จจริง