ภรรยาทนายสมชายมั่นใจศาลฎีกาให้ความเป็นธรรม

ภรรยา ทนายสมชาย นีละไพจิตร มั่นใจศาลฎีกา จะให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว ในการติดตาม นายสมชาย หลังสาบสูญนานกว่า 11 ปี

นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยา นายสมชาย นีละไพจิตร นักสิทธิมนุษยชน ที่หายตัวไป เดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยเปิดเผยก่อนเข้าฟังคำพิพากษาในคดีที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ต.เงิน ทองสุก อดีต สว.กอ.รมน. ช่วยราชการกองปราบปราม, พ.ต.ท.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ อดีตพนักงานสอบสวนกองกำกับการ4 กองปราบปราม, จ.ส.ต.ชัยเวง พาด้วง อดีตผบ.หมู่งานสืบสวน แผนก 4 กองกำกับการ 2 ตำรวจท่องเที่ยว,
จ.ต.อ.รันดร สิทธิเขต อดีตเจ้าหน้าที่ธุรการกองกำกับการ 4 กองปราบปราม และ พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน อดีตรองผกก.3 กองปราบปราม (ยศในขณะนั้น) ในฐานความผิดร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดและร่วมกันข่มขื่นใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย จากกรณีการอุ้มหายตัวไปของ นายสมชาย เมื่อปี 2547 โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก 3 ปี พ.ต.ต.เงิน ทองสุก จำเลยที่ 1 เพียงคนเดียว

ขณะที่จำเลยคนอื่นศาลยกฟ้อง ส่วนศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งยกฟ้องจำเลยทั้งหมด ขณะที่ พ.ต.ต.เงิน ทองสุก ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลสาปสูญ และในวันนี้ ศาลอาญา รัชดา นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งถือเป็นกระบวนการสุดท้ายของคดี โดย นายอังคณา นีละไพจิตร ภรรยา นายสมชาย ระบุว่ามีความมั่นใจว่าศาลฎีกาจะกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ให้ครอบตรัวร่วมเป็นโจทก์ฟ้อง เพื่อความเป็นธรรมกับครอบครัว หลังจากที่ต่อสู้มา 11 ปี 9 เดือน ถึงแม้ว่าคดีนี้จะไม่พบตัว นายสมชาย นีละไพจิตร ทำให้การต่อสู้ยากลำบาก แต่ก็เชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาเป็นบวกหรือลบ ได้เตรียมใจไว้แล้ว หากออกมาเป็นบวกต้องขอขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม แต่หากออกมาเป็นลบจะศึกษารายละเอียดคำพิพากษาเพื่อเดินหน้าหาคนรับผิดชอบ