นายกฯถามแจกปฏิทินทักษิณเหมาะไหมปัดปิดกั้น

นายกฯถามแจกปฏิทินทักษิณเหมาะไหมปัดปิดกั้น

นายกฯถามแจกปฏิทินทักษิณเหมาะไหมปัดปิดกั้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ถามแจกปฏิทิน 'ทักษิณ ชินวัตร' เหมาะสมหรือไม่ ปัดปิดกั้น แนะมาสู้คดี ย้ำลุยปฏิรูป แจง โครงการ 30 บาท ชัดเจน ขึ้น ปชช. ได้รับสิทธิ์เท่าเดิม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด สั่งห้ามแจกปฏินทินปี 2559 ซึ่งมีภาพของ นายทักษิณ ชินวัตร คู่กับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ถามว่าสมควรและเหมาะสมหรือไม่ และจัดทำเพื่ออะไร ทั้งนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องของการเมืองหรือเป็นการปิดกั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำเท่าที่ทำได้ เพราะมีการทำผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากคิดว่าตัวเองไม่ผิดก็ขอให้กลับมาสู้คดี ส่วนกรณีที่ทางพรรคเพื่อไทยทำหนังสือสอบถามกรณีดังกล่าวนั้น ให้คิดเอาเองว่าถูกต้องหรือไม่ และมีคนที่ทำความผิดอยู่ในปฏิทินดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นศัตรูกับใครหรือพรรคเพื่อไทย แต่ต้องทำตามหน้าที่ ส่วน นางสาวยิ่งลักษณ์ วางตัวเหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนี้หรือไม่นั้น ให้ไปสอบถามกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ เอง

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ได้สั่งการในเรื่องการขับเคลื่อนการทำงาน ของรัฐบาลในปี 2559 ซึ่งในเรื่องการปฏิรูปจะต้องมีความชัดเจน และเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามนโยบายทั้ง 6 กลุ่มงาน ให้ประชาชนได้รับทราบด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า นายกรัฐมนตรี ยังคงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แตกต่างในช่วงปี 2558 ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ระบุว่าในช่วงปีใหม่เป็นต้นไปจะพูดให้น้อยลง

 

นายกฯแจงโครงการ30บาทชัดเจนขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ถือว่าดีขึ้น ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. จะเป็นผู้ชี้แจงในภาพรวม ซึ่งขอย้ำว่าเรื่องดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องการสร้างความเข้าใจและความขัดแย้ง ซึ่งก็ยังเป็นปัญหาอยู่ในทั่วโลก ซึ่งคล้ายกับเรื่องนี้ที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำตามกฎหมาย แต่ผู้เห็นต่างใช้ความรุนแรง

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นโยบายประชารัฐของรัฐบาลจะทำให้โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค มีความชัดเจนขึ้น ซึ่งประชาชนเคยได้รับสิทธิ์อย่างไร ก็ยังคงได้รับสิทธิ์เท่านั้น ซึ่งอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าจะทำอย่างไรให้โครงการดังกล่าวดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจหางบประมาณบางส่วนมาเน้นในเรื่องของการป้องกันเพื่อไม่ต้องนำมาสู่การรักษา โดยต้องรับฟังความเห็นของประชาชนด้วย ส่วนการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำนั้น ต้องถามว่าปัญหาเกิดจากส่วนใด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังสร้างความเข้มแข็งเรื่องนี้อยู่


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook