สภาพฯเตือนการว่างงานส่งผลให้เกิดความไม่สงบในสังคม

(30ม.ค.) สหภาพแรงงานที่เข้าร่วมการประชุมเวิร์ลด์ โซเชียล ฟอรั่ม ที่เมืองเบเลม ประเทศบราซิล ต่างชี้ว่า การปลดพนักงานทั่วโลกอันเป็นผลมาจากวิกฤติเศรษฐกิจ จะส่งผลให้เกิดความวุ่นวายและความไม่สงบในสังคมอย่างรุนแรง ที่อาจเป็นลางที่บ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของทุนนิยม สหภาพแรงงานที่ส่วนใหญ่มาจากละติน อเมริกา ระบุด้วยว่า การเกิดความไม่สงบใด ๆ รังแต่จะสร้างความเจ็บปวด แต่ก็เป็นย่างก้าวที่จำเป็นสำหรับมุ่งไปสู่การจัดระเบียบโลกใหม่ ที่กำลังถูกทำให้ล่าช้า เพราะความพยายามที่จะรักษาระบบที่เก่าแก่และใช้การไม่ได้เอาไว้

มาร์ธา มาร์ติเนซ ผู้อำนวยสมาพันธ์สหภาพแรงงานประจำภาคพื้นอเมริกา ให้ความเห็นว่าผลกระทบที่ชัดเจนจากวิกฤติเศรษฐกิจ จะเกิดความไม่สงบอย่างใหญ่หลวงในสังคม ขณะที่รัฐบาลหลายชาติ ได้เคลื่อนไหวที่จะไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคมอยู่แล้ว โดยยกตัวอย่างประเทศโคลัมเบียและเปรู ที่ปกครองโดยรัฐบาลอนุรักษ์นิยม

ได้เกิดความหวังอย่างแรงกล้า ที่จะให้เกิดการปฏิวัติด้านแรงงานในที่ประชุมแห่งนี้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการประชุม 1 แสนคน จากกลุ่มปีกซ้าย ซึ่งถือเป็นการจัดประชุมชนกับการประชุมระดับโลกอย่าง เวิร์ลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม ที่เมืองดาวอส ของสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีประธานาธิบดี

และนักบริหารธุรกิจระดับแถวหน้าจากทั่วโลกกำลังประชุมกันอยู่

จูลิโอ กัมบิน่า หัวหน้าศูนย์วิจัยของสหพันธ์จูดิเชียล อาร์เจนตีน ได้กล่าวหาประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐ พยายามจะรักษาระบบที่พังทะลายอย่าง ลัทธิเสรีนิยมใหม่ เอาไว้ กัมบิน่า ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มีหลายประเทศหันไปใช้รูปแบบใหม่ ๆ กันแล้ว อย่าง คิวบาเวเนซุเอล่าและโบลิเวีย ที่ต่างก็เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ที่ใช้แนวทางของสังคมนิยมมาจัดระเบียบใหม่ ในการแบ่งปันความมั่งคั่งให้กับคนยากจน

ความเห็นที่ออกไปในแนวคิดเอียงซ้ายในที่ประชุมแห่งนี้ เป็นผลมาจากความสั่นคลอนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ตั้งแต่ฟินแลนด์ไปจนถึงฟิลิปปินส์ ที่ต่างก็เผชิญกับการจ้างงานที่ลดลงอย่างรวดเร็ว จากตัวเลขขององค์การแรงงานสากล หรือ ILO ระบุว่า จะมีคนตกงานทั่วโลก 50 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ เยอรมนีประกาศตัวเลขคนว่างงานเพิ่มเป็น 3.5 ล้านคน ฝรั่งเศส มีแรงงานมากกว่า1 ล้านคน พากันประท้วงประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โคซี่ ในเรื่องการรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจและด้วยความวิตกว่าจะต้องตกงาน ขณะที่ญี่ปุ่น ก็มีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่พากันปลดคนงานหลังจากยอดสินค้าส่งออกลดลงอย่างฮวบฮาบ

สหรัฐซึ่งเป็นศูนย์กลางการเกิดวิกฤติยังคงดิ้นรนรับมือกับวิกฤติเครดิตและตลาดเงินรวมถึงการใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้งบมหา ศาล ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว และจีนได้เตือนว่า ปีนี้จะเป็นปีแห่งความยากลำบากอย่างยิ่ง บราซิลเป็นประเทศที่มีเศรษฐ กิจใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา ไดืวิตกว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องมานานนับสิบปีจะถึงการสิ้นสัด เนื่องจากความผิดพลาดของประเทศพัฒนาแล้ว และตัวเลขการตกงาน650,000 คน เมื่อเดือนธันวาคม ได้ชื่อว่าเป็นตัวเลขที่เลวร้ายที่สุดรายเดือน นับตั้งแต่ปี

2552 เป็นต้นมา

ตะลุยข่าว - เฟ้นสาวๆ ฝึกปราบจลาจล...รับม็อบเด็ก สตรี คนชรา

กลายเป็นเรื่องฮือฮาในแวดวงสีกากีอีกครั้ง ...หลังจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจเปิดรับนักเรียนนายร้อยหญิงเข้ารับการศึกษาและฝึกอบรม เฉกเช่นเดียวกับนักเรียนนายร้อยที่เป็นชายอกสามศอก