ปูนใหญ่ตั้งการ์ดปี52 กำเงินสด-ช็อปของถูก

ปูนใหญ่ตั้งการ์ดปี52 กำเงินสด-ช็อปของถูก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4076

อาจไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย แต่ก็สร้างความประหลาดใจ พอสมควร กับการเปิดเผย ผลประกอบการปี 2551 ที่ผ่านมาของ ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCG ยักษ์ใหญ่ ในวงการวัสดุก่อสร้าง

ที่ประกาศตัวเลขผลประกอบการมี ยอดขายรวม 293,230 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 10% แต่กลับมีกำไรสุทธิ 16,771 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนถึง 45% ทั้งๆ ที่ผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 ยังมียอดขายเติบโต 20% และมีกำไรสุทธิลดลง 18%

สำหรับปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายและกำไรสุทธิ กานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ SCG ยอมรับว่า มาจากในช่วงไตรมาส 4 บริษัทได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่ปรับลดลงอย่างไม่เคย เกิดขึ้นมาก่อน อย่างกลุ่ม เคมีภัณฑ์ จากเดือนกันยายนราคาขาย 1,500-1,600 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ช่วงปลายปีที่ผ่านมาปรับลดลงเหลือ 800-900 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน

อธิบายคร่าวๆ คือ เดิมทีเราเคยสั่งวัตถุดิบมาในราคาสูง และขายได้ราคาดี แต่พอเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

ทั่วโลกราคาขายสินค้าปรับลดลงอย่างรวดเร็วจนต่ำกว่าต้นทุนที่ซื้อมา ดังนั้น ตามหลักมาตรฐานทางบัญชีเราจำเป็นต้องบันทึกผลขาดทุนจากการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือในสต๊อกที่มีอยู่ หรือ stock loss เป็นมูลค่าตามราคาตลาดในปัจจุบัน

เบ็ดเสร็จแล้ว SCG ต้องบันทึกผลขาดทุนจากมูลค่าสินค้าคงเหลือในสต๊อกรวม 5,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการขาดทุนจากสต๊อกสินค้ากลุ่ม เคมีภัณฑ์ กว่า 4,000 ล้านบาท

วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก ยังส่งผลให้ SCG ต้อง ตั้งการ์ดสูง ด้วยการแตะเบรกแผนการลงทุนใหม่ที่เตรียมไว้ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2552-2556) ซึ่งต้องใช้งบฯ ลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท อาทิ

แผนก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศอินโดนีเซีย กำลังผลิต 2 ล้านตัน ใช้งบฯลงทุนเกือบ 8,000 ล้านบาท แผนก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์แห่งที่ 2 ในประเทศกัมพูชา ฯลฯ

แต่ โอกาส ใน วิกฤต ก็ยังมีอยู่ เพราะแม้จะเบรกแผนลงทุนใหม่ไว้ แต่ซีอีโอของ SCG ยืนยันว่า

จะไม่กระทบต่อแผนการก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดอาเซียนภายในปี 2558 เพราะถ้ามี ดีลที่ดีเกิดขึ้น SCG ก็พร้อมใช้วิธีลงทุน ด้วยการการเทกโอเวอร์กิจการ ข้อดีคือ เริ่มผลิตสินค้าได้ทันที

ตอนนี้เริ่มมีการเสนอขายกิจการ เข้ามาบ้าง แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ความมั่นใจว่าแม้จะเกิดเหตุการณ์ worst case scenario เราก็สามารถผ่านไปได้

วิธีการลักษณะนี้สื่อความหมายว่า SCG เลือกที่จะ กำเงินสด ไว้ในมือ ซึ่งสะท้อนจากคำพูดของ กานต์ ที่ระบุว่า ตอนนี้ cash ไม่ใช่ king แต่เป็น super king โดยช่วงเมษายนนี้เตรียมออกหุ้นใหม่อีก 2 หมื่นล้านบาท หลังจากพฤศจิกายนที่ผ่านมาออกหุ้นไปแล้วจำนวน 1 หมื่นล้านบาท

พร้อมๆ กับประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้อาจจะเริ่มเห็นผลดีจากมาตรการกระตุ้นช่วงไตรมาสสุดท้าย

แต่ที่แน่ๆ ธุรกิจ ปูนซีเมนต์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้น่าจะหดตัวลง หลังจากปี 2551 ที่ผ่านมาตลาดติดลบถึง 6.5% หน้า 7

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook