บินสูงสไตล์เจ้าพ่อคอนโดฯ แกะพิมพ์เขียว LPN บุกตลาด 1.1 หมื่น ล.

บินสูงสไตล์เจ้าพ่อคอนโดฯ แกะพิมพ์เขียว LPN บุกตลาด 1.1 หมื่น ล.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4076

แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เปิดคอนโดฯแถลง ผลประกอบการและแผนลงทุนที่โครงการ ลุมพินี วิลล์ รามอินทรา-หลักสี่ โดยมีนัยสำคัญคือ โครงการนี้เป็นตัว คิกออฟ แผนรับรู้รายได้โครงการแรกในปี 2552 หลังจากนั้นจะทยอยรับรู้รายได้อีก 6 โครงการคือ ลุมพินี วิลล์ ประชาชื่น- พงษ์เพชร, ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 26, ลุมพินี สวีท ปิ่นเกล้า, ลุมพินี สวีท พระราม 8, ลุมพินี เพลส พระราม 8 และลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ รวมมูลค่า 8,000 ล้านบาท จาก 7 โครงการ

ปูแผนเชิงรุกปั๊มยอดโต 15%

ประเมินตลาดคอนโดฯ ในภาพรวม ยังเชื่อว่าจะลดลงจากปีที่แล้ว และน่าจะลดเยอะด้วย เซ็กเมนต์ที่จะอิมแพ็กต์แรงดูจากส่วนแบ่งตลาดปีที่แล้ว จะพบว่าราคา 1-3 ล้านมีสัดส่วนสูงสุด ฉะนั้นปีนี้น่าจะเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบแรงสุด ขณะที่ราคาระดับ 1 ล้านบาทไม่น่าจะหดตัวมาก และเราเล่นกับตลาดนี้อยู่

คำอธิบายเปิดประเด็นของ โอภาส ศรีพยัคฆ์ เอ็มดีของ แอล.พี.เอ็น.ฯ

ผลประกอบการปี 2551 แอล.พี.เอ็น.ฯ มียอดขายทั้งสิ้น 9,000 ล้านบาท จาก 5 โครงการที่เปิดตัว ขณะที่บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมเป็นเงิน 7,200 ล้านบาท จากการโอนกรรมสิทธิ์ใน 7 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 8,000 ยูนิต ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในตลาดคอนโดฯ

สำหรับแผนการลงทุนปี 2552 แอล.พี.เอ็น.ฯ วางเป้าหมายเปิดตัวโครงการใหม่ 6-8 โครงการ เฉลี่ยไตรมาสละ 2 โครงการ อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมดจะทำให้เสร็จภายในไตรมาสสาม เนื่องจากไตรมาสสุดท้ายบริษัทมีปฏิทินจัดกิจกรรมให้กับลูกบ้าน 30,000 ครัวเรือน คิดเป็นฐานลูกค้า ไม่ต่ำกว่า 50,000-60,000 ราย พื้นที่ใช้สอย 3 ล้านตารางเมตรค่อนข้างชุกชุม

รายละเอียดโครงการใหม่ 8 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 10,000 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 11,000 ล้านบาท มีที่ประกาศทำเลได้เลยคือ โครงการลุมพินี วิลล์ ประชาชื่น-พงษ์เพชร เฟสสองลุมพินี วิลล์ รามอินทรา-หลักสี่ เฟสสอง และ ลุมพินี เพลส พระราม 9 เฟสสอง

ที่เหลืออีก 5 โครงการจำเป็นต้องเก็บงำเป็นความลับทางธุรกิจ เพราะมีการชิงความได้เปรียบอยู่เสมอๆ ในเรื่องการ ตัดหน้าดักลูกค้าจากเพื่อนร่วมวงการ แต่คอนเซ็ปต์โครงการใหม่ที่จะเปิดตัว ในปีนี้จะเป็นลักษณะ โครงการขยาย (expand project) เป็นหลัก

การเปิดตัวโครงการใหม่ปีนี้จะโตขึ้น 10-15% ถือเป็นการลงทุนเชิงรุก คำกล่าวถึงสไตล์การบุกตลาดของ แอล.พี.เอ็น.ฯ ในปีนี้จากปาก เอ็มดีโอภาส

ตกผลึกประสบการณ์สู้ศึกเศรษฐกิจ

ประสบการณ์ 12 ปีทำให้แอล.พี.เอ็น.ฯ รู้ว่าวันนี้เราเป็นใคร... คำตอบสั้นๆ ของ ทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการบริหาร แอล.พี.เอ็น.ฯ เมื่อถูกถามถึงคีย์ซักเซสของบริษัทในการแข่งขันปีนี้

โอภาส ขยายผลถึงมาตรการปรับตัวของแอล.พี.เอ็น.ฯ มีอย่างน้อย 4-5 กลยุทธ์ด้วยกัน ประกอบด้วย การบริหารสภาพคล่องทางการเงิน ณ วันนี้ บริษัท กอดเงินสด ไว้ในมือเกือบๆ 2,000 ล้านบาท สำหรับรองรับภาวะฉุกเฉินในกรณี เลวร้ายสุดๆ คือสถาบันการเงินไม่ปล่อย เงินกู้ให้อีกต่อไป

ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง บริษัทยังสามารถรันการก่อสร้างได้จนจบทุกโครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในปีนี้

การระบายสินค้าคงคลัง ปกติบริษัทจะไม่มีสินค้าคงคลังหรือสต๊อกห้องชุด แต่เหตุการณ์ไม่ปกติก็คือ การเร่งเปิดโครงการใหม่ ทำให้พนักงานขายทุ่มเทไปกับการเปิดโครงการใหม่จนลืมกลับมาเก็บ โครงการเก่า ทำให้กลางปีที่ผ่านมา บริษัทมีสินค้าคงคลังตกค้างอยู่ใน 2 โครงการคือ ลุมพินีคอนโดทาวน์ บดินทรเดชา-รามคำแหงประมาณ 20% หรือ 500-600 ยูนิต และลุมพินี เพลส รัชดาฯ-ท่าพระอีกประมาณ 250 ยูนิต

นำไปสู่การปรับแผนช่วงกลางปีโดยชะลอเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป และมุ่งเน้นเคลียร์สต๊อกในโครงการเหลือขาย ส่งผลให้สินค้าคงคลังลดลงเหลือประมาณ 10% หรือประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยเป้าหมายคือจะต้องกลับไปสู่จุดเดิม จุดที่ ไม่มีสินค้าคงคลัง ภายในปีนี้

การปรับแผนงานก่อสร้าง ตุ๊กตาของแผนงานด้านนี้คือเจรจากับพันธมิตรบริษัทรับเหมาขอให้เร่งงานก่อสร้างเร็วขึ้น 1 เดือน เรามองว่ายิ่งเร็วเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็ยิ่งลด...

R & D บริษัทจัดทำระบบงานวิจัยซึ่งรวบรวมผลสำรวจฐานข้อมูลลูกค้าตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นระบบที่ส่งเสริมให้บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดตัวโครงการในทุกทำเลที่เข้าไปบุกตลาด หน้า 7

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook