มาร์คชี้คดียังไม่จบ ป้องสุเทพ เมินม็อบแดงขู่ 15วัน

มาร์คชี้คดียังไม่จบ ป้องสุเทพ เมินม็อบแดงขู่ 15วัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
อ้างเรื่องเดิมๆ ย้ำไม่ปลดกษิต เทือกโต้-ทำบุญ

มาร์คกลับจากดาวอสถึงไทยแล้ว ชมเปาะตำรวจ-ทหาร อดทนอดกลั้นดูแลม็อบดีไร้ปัญหา ปัดข้อเสนอเสื้อแดงอ้างข้อเรียกร้องเดิมๆ ขอเวลา 3 วันสางกรณีบุญจง-วิฑูรย์ ยันมีคำตอบให้ประชาชน ยึดผลประโยชน์ส่วนรวม-กฎเหล็ก 9 ข้อ ชี้คดีอาญาสุเทพถูกกกต.ชี้มูล คดียังไม่สิ้นสุด เทพเทือกแจงยิบคดีช่วยน้อง โต้กกต.แค่ไปงานทำบุญสงกรานต์ เผยเคลียร์ มาร์คแล้วเข้าใจ เตือนให้ระวังตัวมากขึ้น เมินคำขู่ 15 วัน ยันไม่ใช่เวลายุบสภา-ปลดกษิต อัดวีระยื่นข้อเสนอแค่หวังผลเป็นเกมบุกทำเนียบ ท้ามาเมื่อไหร่หากทำผิดกม.พร้อมจัดการทันที ย้ำไม่ปกป้องคนผิด เลขาฯวิฑูรย์แจงยังไม่ถอดใจ เชื่อไม่ถูกปรับออก ก๊วนเพื่อนเนวินอ้างผู้ใหญ่พรรคคุยนายกฯแล้ว ยันไม่ปรับบุญจงพ้นครม. เพื่อไทยเตรียมร้องป.ป.ช.คดีเจ๊บ.ขาใหญ่พม. ขัดรธน. มาตรา 266 ขู่ยื่นซักฟอกวิฑูรย์-บุญจง-กษิต หากมาร์คไม่ปรับออกอาจโดนด้วย จี้ กกต. ดำเนินคดีสุเทพ-บุญจง เผยพุธนี้อดีตผู้สมัครจากเพื่อแผ่นดินเตรียมร้องกกต.ซ้ำคดีบุญจง สุรพงษ์ป้องลูกพรรคมีสิทธิร่วมเคลื่อนไหวม็อบเสื้อแดง กกต.โต้

มาร์คฟุ้งการเมืองไทยดีขึ้น

วันที่ 1 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าร่วมประชุมเศรษฐกิจโลก หรือเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.ถึงวันที่ 1 ก.พ. ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยก่อนขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย นายกฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ 13 สำนัก อาทิ เรดิโอฟรานซ์ ฟอร์จูนแม็กกาซีน เลอมองด์ นิวสวีก ไฟแนนเชียลไทม์ เอเอฟพี ดาวโจนส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮอรอล ทริบูน

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า สื่อต่างประ เทศให้ความสนใจถามถึงสถานการณ์การเมือง กรณีการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จึงเล่าให้สื่อฟังถึงสถานการณ์การเมืองไทยปรับตัวดีขึ้น หลังจากรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาค่อนข้างลำบาก แต่รัฐบาลจะเดินหน้า ต่อไป ส่วนกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบาลยังคงยืนยันในจุดยืนเดิมที่จะอำนวยความยุติธรรมให้กับทุกคน โดยเห็นว่าอดีตนายกฯ ควรกลับมาต่อสู้คดีในประเทศไทย

เมินข้อเรียกร้องกลุ่มเสื้อแดง

เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อวันที่ 31 ม.ค. พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการ 3 ข้อ นายกฯ กล่าวว่า เป็นข้อเรียกร้องเดิมๆ ที่มีการดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว เช่นเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น สามารถเสนอตามกระบวนการได้ ส่วนการเสนอให้ปรับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศออกนั้น นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องทางการเมืองที่มีความเห็นแตกต่างกันได้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้รับฟังรายงานและติดตามสถานการณ์จากประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา โดยทราบถึงเหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และการเคลื่อนขบวนไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อคืนวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา

ชงครม.อังคารนี้แก้ปัญหาเงินกู้ยืม

เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(เอ็นบีที) ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้บันทึกเสียงก่อนขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับประเทศไทย 3 ชั่วโมง ภายหลังการเข้าร่วมประชุมเวทีเศรษฐกิจโลก ครั้งที่ 39 ที่เมืองดาวอส สหพันธรัฐสวิส โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวขอบคุณส.ส.และส.ว.ที่ให้ความเห็นชอบผ่านกรอบข้อตกลงอาเซียนจำนวน 41 ฉบับที่จะลงนามในการประชุมผู้นำอาเซียนในปลายเดือน ก.พ.นี้ ส่วนบางฉบับที่จะลงนามในปลายปีนี้ รัฐ สภาได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา ซึ่งทำให้เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ในขณะนี้

นายกฯ กล่าวว่า วันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีงบประมาณเพิ่มเติม 1 แสนกว่าล้านบาท ตนขอขอบคุณส.ส.ที่ผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 1 ต่อไปจะพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 จากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ถ้าเราพิจารณาผ่านร่างพ.ร.บ.นี้ได้ภายในสัปดาห์หน้า เงินงบประ มาณในโครงการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจะออกไปสู่ประชาชนได้ในเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการแก้ความเดือดร้อนของประชาชนด้านเศรษฐกิจ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนประชุมคณะรัฐ มนตรี(ครม.)วันอังคารที่ 3 ก.พ.นี้ จะมีวาระสำคัญเรื่องการแก้ปัญหากองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ที่จะปรับปรุงการบริหารจัดการให้เงินกองทุนไปถึงมือลูกหลานให้สามารถกู้ยืมเล่าเรียนเร็วขึ้น และในการเพิ่มวงเงินเข้าในระบบนั้น เชื่อว่าจะทำให้ประสิทธิภาพและการครอบคลุมเรื่องเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาดีขึ้น

ปัด15วันยกเลิกรธน.ไม่ทัน

เมื่อเวลา 15.25 น. ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุมเวทีเศรษฐกิจโลก ครั้งที่ 39 ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิสว่า ได้ติดตามสถาน การณ์ในประเทศไทยตลอด ซึ่งเหตุการณ์เมื่อค่ำวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตนขอขอบคุณผู้ชุมนุมที่ชุมนุมอยู่ในกรอบกฎ หมาย และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความอดทน อดกลั้น และทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่าถ้าครบกำหนด 15 วันตามที่กลุ่มนปช.ยื่นคำขาดให้รัฐบาลรับข้อเสนอ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดอะไรเพิ่มเติม เพราะทุกอย่างผ่านไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้อเรียกร้องของ นปช.นั้น ตนเคยบอกแล้วว่าบางเรื่องกำลังทำอยู่ เช่น การดำเนินคดี การปฏิรูปการเมืองซึ่งคงไม่สามารถระบุได้ว่าปฏิรูปการเมืองแล้วจะต้องนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาใช้ภายใน 15 วัน แต่เรื่องที่เป็นการตัดสินใจทางการเมือง ถือเป็นความคิดที่แตกต่างกัน

ต่อข้อถามถึงนายกฯ เคยระบุว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 วันในการจัดการปัญหากรณีการแจกถุงยังชีพที่มีปลากระป๋องเน่า ของนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แจกเงินสงเคราะห์แนบนามบัตร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อครบเวลาแล้วจะเรียนให้ทราบ ตนจะยึดประ โยชน์ของส่วนรวมและหลักมาตรฐาน 9 ข้อเป็นหลัก

อ้างคดีสุเทพช่วยน้องรอศาลชี้ขาด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกกต.ชี้มูลว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ มีความผิดจากการแจกทุนการศึกษาในช่วงการเลือกตั้งนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สุราษฎร์ธานี ที่นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ ลงสมัคร และเตรียมส่งเรื่องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาว่า ตนทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้มาก่อนแล้วว่ามีการร้องเรียน ถ้าเข้าใจไม่ผิด เป็นการร่วมกิจกรรมในวันสงกรานต์ แต่กระบวนการขึ้นอยู่กับศาลอุทธรณ์ เพราะถือเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น ถ้าศาลวินิจฉัยกรณีของนายก อบจ.ออกมาอย่างไรแล้ว จะส่งเรื่องกลับมาที่กกต.เพื่อพิจารณาสอบสวนในทางคดีอาญาต่อไป ซึ่งตอนนี้เรายังไม่ทราบว่าข้อยุติในส่วนของศาลอุทธรณ์ และการดำเนินงานในกระบวนการทางอาญาจะเป็นอย่างไรต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า มติของกกต.ในตอนนี้ยังเป็นเรื่องของผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี อีกทั้งนายสุเทพ ไม่เคยมีโอกาสไปชี้แจงต่อกกต. เพราะคดีในขณะนี้เป็นคดีเลือกตั้งซึ่งเกี่ยวข้องกับการประกาศผลการเลือกตั้ง หรือจะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือจะเพิกถอนสิทธิ์นายก อบจ.

เมื่อถามว่านายสุเทพยังไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ต้องรอให้ทุกอย่างมีความชัดเจนก่อน ต่อข้อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า นายกฯ จะกล้าตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีที่มีปัญหาจนส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนยืนยันเหมือนเดิมว่าจะตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

สุเทพแจงยิบคดีช่วยน้อง

เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึง กกต.ระบุจะดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ ฐานเป็นเหตุจูงใจในการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ว่า เป็นเรื่องเก่าก่อนจะ จัดตั้งรัฐบาลนี้ ซึ่งกรณีที่ถูกร้องนี้ตนพร้อมส.ส. สุราษฎร์ธานีอีก 2 คนของพรรค คือนายชุมพล กาญจนะ และนายประพนธ์ นิลวัชรมณี ไปร่วมงานสงกรานต์ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

นายสุเทพกล่าวว่า ช่วงเช้ามีการทำบุญตัก บาตรตามประเพณี ต่อมามีการรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ที่มาร่วมงาน จากนั้นตนได้ให้ผ้าขนหนูที่มีชื่อของส.ส.ทั้ง 3 คน กับผู้ใหญ่ร้อยกว่าคน ยืนยันว่าไม่มีการปราศรัยทางการเมืองใดๆ เพียงแต่อวยพรสงกรานต์ปีใหม่ไทยเท่านั้น ซึ่งตนพูดเพียงคนเดียวว่าขอให้มีความสุขในวันสงกรานต์ จากนั้นเดินทางกลับ ต่อมามีคนไปร้องเรียนว่านายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายของตนซึ่งลงรับสมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ โดยกล่าวหามาถึงตนว่าที่ไปร่วมงานทำบุญในเทศกาลสงกรานต์ มีผลได้ผลเสียต่อคะแนนของน้องชายตน ซึ่ง เหตุเกิดที่ อ.เกาะสมุย ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของ สุราษฎร์ฯ ต้องใช้เวลาเดินทางด้วยเรือถึง 2 ชั่ว โมง และนายธานีไม่ได้ไปร่วมงานนี้ด้วย ตนรวมถึงส.ส.ที่ไปก็ไม่ได้ปราศรัยขอคะแนนเสียงใคร

โบ้ยกกต.ให้ข่าวสับสน

เมื่อถามว่ามีการอ้างเรื่องการแจกทุนการศึกษาด้วย นายสุเทพกล่าวว่า คนที่มางานวันนั้นมีไม่ถึงพันคน แต่คะแนนที่น้องชายตนได้เกือบ 2 แสนคะแนน จึงไม่น่าจะมีผล ส่วนการแจกทุนการศึกษาเข้าใจว่าเขาจะฟังมาผิด มันจึงเป็นข้อหาที่ผิด เพราะตนไม่เคยไปแจกทุนการศึกษาที่เกาะสมุย ที่ไหนก็ไม่ได้แจกเพราะระวังอยู่แล้ว เนื่องจากมีกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นออกมา เมื่อก่อนตนเคยแจกทุนการศึกษาส่วนตัวส่งให้เด็กเรียนปีละ 48 คน มาช่วงหลังไม่ได้ให้ใครเลยเพราะกฎหมายห้ามไว้ว่าคนเป็นส.ส.ให้เงินใครเกิน 3 พันบาทไม่ได้ ต้องระวัง

นายสุเทพกล่าวว่า นายธานีคงถูกร้องเรียนหลายเรื่อง ซึ่งการให้ทุนการศึกษานายธานีเคยให้ในช่วงที่เป็นนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเรื่องนี้อนุกรรมการสอบสวนของ กกต.ยกคำร้องนี้ไปแล้ว เข้าใจว่าการให้ข่าวของ กกต.คงสับสน และเรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงนี้แน่เพราะกกต.ต้องสรุปสำนวนใบเหลืองน้องชายของตน แล้วยื่นคำร้องกับศาลอุทธรณ์ ถ้าศาลพิจารณาและมีคำ พิพากษาออกมาให้ใบเหลืองกับน้องชายตน ต้องเลือกตั้งใหม่ที่ จ.สุราษฎร์ฯ เมื่อถึงตอนนั้น กกต. ค่อยมาตั้งเรื่องการดำเนินคดีอาญากับตน ในข้อหาทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ ยืนยันว่าจะสู้คดีว่าการไปทำบุญในงานประเพณีสงกรานต์จะผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างไร ซึ่งจะต้องสู้กัน 3 ศาลจนถึงฎีกา

ลั่นไม่หนักใจ-ไม่ลาออก

เมื่อถามว่าเมื่อถึงขั้นนี้แล้วจะพิจารณาลาออกจากตำแหน่งเพื่อสร้างมาตรฐานทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนคงไม่ไปสร้างมาตรฐานพิสดารอะไรขนาดนั้น อันนี้เป็นเรื่องไปทำบุญตามประเพณี ไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือไปฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่ได้ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และยังเป็นปัญหาต้องตีความกันอีกว่าการไปทำบุญตามประเพณีมันผิดหรือไม่

ต่อข้อถามว่าเกรงว่าจะมีคนเปรียบเทียบหรือไม่ว่า กกต.ชี้มูลมาแล้ว ซึ่งเป็นองค์กรอิสระเหมือนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. เหตุใดจึงไม่ใช้มาตรฐานเดียวกัน รองนายกฯ กล่าวว่า มันเป็นคนละเรื่อง คนละประเด็นกัน ถ้าเป็นการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน เรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน อาจจะเกี่ยวกับป.ป.ช.ชี้มูล แต่นี่เป็นเรื่องการเลือกตั้งของกกต. จึงยังไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่เพราะมีตำแหน่งเป็นถึงรองนายกฯ หากถูกดำเนินคดีอาญาอาจต้องหลุดจากตำแหน่งได้ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะคำว่าคดีอาญาต้องดูว่าเป็นคดีอะไร เพราะคดีขับรถชนคนก็ถือเป็นคดีอาญา มันไม่จำเป็นต้องออกจากตำแหน่ง และกรณีนี้อยากจะพิสูจน์ความจริงในศาลยุติธรรม

เผยมาร์คสั่งให้ระวังตัว

เมื่อถามย้ำว่าจะยิ่งเป็นเป้าให้ถูกฝ่ายค้านโจมตีต่อไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ เพราะมั่นใจว่าสามารถชี้แจงกับประชาชนได้ เมื่อถามว่าได้มีการชี้แจงกับนายกฯ แล้วหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ได้ชี้แจงไปแล้วเมื่อคืนวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ได้รายงานสถานการณ์ของคนเสื้อแดงให้ท่านทราบแล้ว โดยสรุปรายงานกับนายกฯ ว่าตนไปงานสงกรานต์ แต่กลับบอกว่าไปทำอย่างนี้ผิด ก็อธิบายว่าต้องไปสู้คดีกัน ซึ่งนายกฯ ก็เข้าใจ แต่ยอมรับว่าต่อจากนี้ก็ต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น

ต่อข้อถามว่าที่ผ่านมา กกต.เคยเรียกไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ก่อนจะมีมติ กกต.ไม่เคยเชิญตนไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเลย เมื่อถามย้ำว่ามองว่าไม่เป็นธรรมหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองอะไร เมื่อถามว่าสงสัยหรือไม่เพราะเรื่องนี้ กกต.เคยมีมติมาตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2551 แต่เหตุใดเพิ่งจะมาเปิดเผยข้อมูลในช่วงนี้ เหมือนมีเจตนาจะเขย่าเสถียร ภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร ผมไม่คิดมาก

อ้างสดศรีงานเยอะอาจจำผิด

เมื่อถามว่าไม่คิดหรือว่า กกต.ทำหน้าที่ผิดปกติ สงสัยนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่คิดและไม่สงสัยนางสดศรี เพราะไม่ชอบสงสัยใคร เมื่อถามว่าหาก กกต.ทำหน้าที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่การถอดถอน กกต.ได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่สงสัย แม้นางสดศรีพูดเรื่องการแจกทุนการศึกษาว่าจะลงโทษตน ทั้งที่จริงมันคนละเรื่อง แต่ถือว่าท่านงานเยอะ คงจำไม่ได้ทั้งหมด เมื่อถามว่าไม่คิดหรือว่าจะมี กกต.เสื้อแดงอยู่ใน 5 กกต. นายสุเทพกล่าวว่า ไม่คิดอะไรเลย อย่าไปกังวลใจขนาดนั้นเพราะเวลานี้เสื้ออะไรก็ไม่มี

เมื่อถามว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยยกเรื่องของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ว่าทำผิดเช่นเดียวกับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาด ไทย และอาจมีผลถึงขั้นยุบพรรคภูมิใจไทยได้ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพิ่งจะทราบจากข่าวเมื่อเช้านี้เอง เห็นหัวข่าวโปรยๆ เท่านั้น และไม่ทราบรายละเอียด จึงไม่อยากวิจารณ์

ต่อข้อถามว่ามองว่าขณะนี้สังคมรอบข้างตัวนายกฯ เริ่มเป็นพิษแล้วหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ยังดีอยู่อากาศสดใส สิ่งแวดล้อมยังใช้ได้ เมื่อถามว่าต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัวนายกฯ หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ต้อง แต่ถ้าจะเปลี่ยนขอเปลี่ยนนายศิริโชค โสภา จากวอลเป เปอร์ออกไปเท่านั้น

โต้จัดโผสำรองเสียบแทนวิฑูรย์

นายสุเทพกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับนาย วิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ออกจากตำแหน่งว่า รอให้นายกฯ กลับจากต่างประเทศก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน เมื่อถามว่านายวิฑูรย์เป็นคนที่อยู่ในสายนายสุเทพ นายสุเทพกล่าวว่า แล้วไม่มีใครบ้างที่ไม่อยู่ในสายผม เพราะผมเป็นเลขาธิการพรรค คนที่ไม่อยู่ในสายผมก็มีนายชวน หลีกภัย ประธาน สภาที่ปรึกษาพรรค และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค เพราะท่านอยู่บนสายไม่ได้อยู่ในสาย นอกนั้นอยู่ในสายผมทั้งนั้น

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่ปกป้องคนผิด รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี แม้แต่ตัวเอง และเราต้องตั้งความหวังไว้ว่าเราจะต้องเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดของประชาชนให้ได้ จะต้องเสียสละอะไรบ้างก็ต้องทำ เมื่อถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นเหมือนท้าทายความกล้านายกฯ นายสุเทพกล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่นนายกฯ ทั้งนี้คาดว่าจะมีการหารือกันในวันที่ 2 หรือ 3 ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีการประชุมส.ส.และกรรมการบริหารพรรค อย่างไรก็ตาม ยืนยันไม่ได้เตรียมรายชื่อรัฐมนตรีถึง 5 รายชื่ออย่างที่เป็นข่าว ยืนยันไม่มีแม้แต่ชื่อเดียว เมื่อถึงตอนนั้นแล้วค่อยว่ากัน อย่าคิดข้ามช็อต ตนไม่มีการเตรียมรายชื่ออะไรไว้จนกว่าจะได้ข้อสรุป มาพูดกันอย่างนี้ ตอนนี้นายวิฑูรย์คงนอนฝันร้ายไปแล้ว

นายสุเทพกล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้โฟนอินเข้ามาว่า คงเห็นว่าการโฟนอินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้ผลก็ได้ แต่การโฟนอินหรือไม่โฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีผลอะไรกับความมั่นคงของรัฐบาล

เทือกไม่หวั่นม็อบบุกทำเนียบ

นายสุเทพกล่าวถึงการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงว่า ตนรายงานนายกฯ ไปเมื่อคืนวันที่ 31 ม.ค. ว่าถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลต้องรับการชุมนุมครั้งใหญ่ และตนดูแลอย่างเคร่งครัดไม่ให้มีเหตุการณ์รุนแรง ไม่ให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ แม้จะเป็นห่วงเรื่องทำเนียบรัฐบาล แต่เมื่อเราเห็นว่ามีปัญหาก็ให้เจ้าหน้าที่ถอยร่นตามลำดับ จนไปยึดที่มั่นสุดท้ายที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อป้องกันไม่ให้มีการบุกยึดทำเนียบ และตนขอขอบคุณข้าราชการและตำรวจ ทหารที่ทำหน้าที่ด้วยความอดทน ทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง แต่ขอบคุณผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ที่เคารพกติกาบ้านเมือง ไม่ทำผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่าม็อบเสื้อแดงระบุข้อเสนอที่เสนอไปนั้นหากไม่ได้รับคำตอบที่พอใจจะชุมนุมยืดเยื้อ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร หากมาด้วยสันติวิธีเราก็ต้อนรับด้วยสันติวิธี แต่อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน เพราะจะถูกดำเนินการแน่นอน ซึ่งข้อเรียกร้องที่เขาเสนอมาบางอย่างรัฐบาลก็ทำได้ บางอย่างทำไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือเรื่องการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รัฐบาลได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเกรงใจใคร แต่ที่ทำไม่ได้ เช่น บอกให้รัฐบาลยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 ไปใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 เพราะการยกเลิกหรือประกาศใช้รัฐธรรมนูญไม่ใช่อำนาจของรัฐบาล แต่มีกระบวนการที่ต้องทำในการขอความเห็นชอบของคนทั้งประเทศ

ย้ำไม่ปลดกษิต-ไม่ยุบสภา

ดังนั้น 15 วันทำไม่ได้ และผมเชื่อว่านายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ที่มาอ่านข้อเรียกร้องดังกล่าว เข้าใจดีว่าทำไม่ได้ใน 15 วัน แต่เรียกร้องมาเพื่อเป็นเหตุผลว่าจะได้ยกพวกมาอีกภายใน 15 วันเท่านั้น นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวว่า ส่วนข้อเสนอให้ปลดนาย กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ออกจากตำแหน่งนั้นทำไม่ได้เช่นกัน เพราะนายกษิตทำงานได้ดีทุกอย่าง ให้ไปเจรจากับเขมร รายงานว่าได้ผลดี ไปประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์กับนายกฯ ก็ได้ผลดี เขายังไม่ได้ทำอะไรเสียหายในตำแหน่งรัฐมนตรีเลย ดังนั้น จะไปปลดเขาทำไม ส่วนข้อเรียกร้องให้ยุบสภานั้นยังไม่ใช่เวลาของการยุบสภา เพราะประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลเดินไปข้างหน้าเพื่อร่วมแรงกันแก้ปัญหาประเทศ ดังนั้น ตนจะพยายามดูแลประคับประคองรัฐบาลให้ดี เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ยังบริหารประเทศได้โดยพวกเราต้องช่วยกันเป็นกำลัง

เผยวิฑูรย์ไม่ท้อแค่เหนื่อย

นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เลขานุการ รมว. การพัฒนาสังคมฯ กล่าวถึงนายกฯ เตรียมพิจารณา ปรับนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมฯ ว่า แม้มีกระแสข่าวปรับ ครม.แต่วันนี้นายวิฑูรย์ยังไม่เคยแสดงอาการหรือเปรยว่าถอดใจกับปัญหา ปลากระป๋องเน่า ยังคงหนักแน่นว่าไม่ได้ทำผิด เพียงแต่เหนื่อยกับเรื่องนี้ เพราะถูกกระแสข่าวทับถมเข้ามามาก ทั้งจากสื่อมวลชนและใครต่อใครที่โทรศัพท์เข้ามาตลอด จนไม่มีเวลาว่างเลย ซึ่งปมปัญหาปลากระป๋องเน่าที่แท้จริง ตนไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรแน่ อาจเป็นได้ว่านายวิฑูรย์ถูกข้าราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ วางยา หรืออาจเป็นไปไม่ได้ก็ได้ แต่ที่ผ่านมาเราทำงานกับข้าราชการก็ให้ความไว้วางใจ จะถูกวางยาหรือไม่ต้องดูกันต่อไป

นายเอกชัยกล่าวว่า ทั้งนี้ที่มีชื่อส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนเป็นแคนดิเดตเข้ามาแทนนายวิฑูรย์ ไม่ว่าจะเป็นนายอิสระ สมชัย ส.ส. อุบลราชธานี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบ คีรีขันธ์ ล่าสุดมีชื่อนายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุ โลก ต้องขึ้นกับนายกฯ และที่ประชุมพรรคจะพิจารณา ซึ่งนายนครเป็นส.ส.ที่สนิทสนมกับนายวิฑูรย์ด้วย หากมีอะไรน่าจะบอกแล้ว นายวิฑูรย์เพิ่งเข้ามาเป็นรัฐมนตรีไม่นาน ทีมงานเพิ่งจะขนของเข้ามาที่กระทรวงเพิ่งจะครบไม่กี่วัน หากจะให้ขนของออกจากกระทรวงอีกแล้วคงเหนื่อยน่าดู

เพื่อนเนวินเชื่อบุญจงรอด

ที่รัฐสภา นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคว่า จากการพูดคุยกับผู้ใหญ่ภายในพรรค ที่ประสานไปยังนายกฯ ทราบว่าในส่วนของพรรคยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ โดยนายบุญจงยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปไม่มีปัญหา ส่วนกรณี กกต.มีมติว่านายบุญจงผิดกฎหมายเลือกตั้ง รวมถึงกรณีพรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ถอดถอน ก็ไม่กังวล รอให้ผลคดีถึงที่สุดก่อน และนายบุญจงไม่จำเป็นต้องแสดงสปิริตอะไร เพราะคดีทุกอย่างยังไม่ถึงที่สิ้นสุด

พท.ขู่ยื่นซักฟอก 3 รมต.ฉาว

ที่พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส. กทม. แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้แกนนำพรรคกำลังพิจารณาการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายประกอบด้วย นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมฯ ที่มีเรื่องความผิดปกติกรณีการแจกถุงยังชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.พัทลุง นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่แจกเงินช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมแนบนามบัตรที่บ้านพักใน จ.นคร ราชสีมา และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งขณะนี้จำนวนเสียง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 187 คนนั้นเพียงพอจะยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ส่วนจะยื่นเมื่อใดนั้นฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณา

นายวิชาญกล่าวว่า หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ปรับ ครม.นำทั้ง 3 คนออกจากตำแหน่งก่อนเพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้จะเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำได้ แต่รัฐบาลหนีความรับผิดชอบไม่ได้ การปรับ ครม.จะส่งผลกระทบเสถียรภาพภายในของรัฐบาล ทั้งคนที่จะถูกปรับออกและคนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง รวมทั้งกระทบถึงพรรคร่วมรัฐบาล แต่ถ้านายอภิสิทธิ์ ไม่ปรับ ครม.แกนนำพรรคเพื่อไทยจะยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ พร้อมยื่นถอดถอน เนื่องจากนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบการกระทำของรัฐมนตรีทุกคน เมื่อรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้วนายกฯ ยังปกป้องพรรคพร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ พร้อมยื่นถอดถอนและเสนอผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกฯ คนใหม่ โดยผู้ที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ คนใหม่นั้นต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง

จี้กกต.ดำเนินคดีสุเทพ-บุญจง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านจับตาการทำงานขององค์ กรอิสระ ไม่ว่าป.ป.ช. และกกต. โดยเฉพาะ กกต.ในเรื่องการดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย จากการร้องเรียนของนายพลพีร์ สุวรรณฉวี ซึ่งผ่านมากว่า 10 เดือนก็ยังไม่ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีกรณีนายมีชัย จิตต์พิพัฒน์ อดีตผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายบุญจง เรื่องการแจกซีดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งถือเป็นการแจกทรัพย์สิน ต่อ สภ.จักราช จ.นครราชสีมา แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งวันที่ 4 ก.พ.นี้นายมีชัยจะไปยื่นร้องเรียนต่อ กกต.และต่อหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้ดำเนินการกับ กกต.หากไม่มีการจัดการใดๆ อีก ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ดำเนินคดีอาญากับนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่ กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญาโดยเร็ว ไม่ใช่พอเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยก็รีบดำเนินการ แต่พอเป็นเรื่องของประชาธิปัตย์และพรรคร่วมก็ทิ้งค้างคาไว้

ยื่นปปช.สอบเจ๊ บ.

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ส่วนกรณีปลากระป๋องเน่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการกับส.ส.หญิง ชื่อย่อ บ. ที่เป็นเจ๊ใหญ่ในกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ว่ากระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 266 ในเรื่องผลประโยชน์ขัดกันระหว่างอำนาจหน้าที่ของส.ส. ส่วนข้าราชการการเมืองชื่อ อ. จะยื่นดำเนินคดีอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้นายกฯ หาข้อเท็จจริงเรื่องปลากระป๋องเน่า ไม่ว่าจะเป็นตัวของนายวิเชน สมมาตร ที่นาย วิฑูรย์ระบุเป็นผู้บริจาค รวมถึงหลักฐานการบริจาค หรือหากเป็นการจัดซื้อของกระทรวง ขอให้เอาหลักฐานการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษออกมา รวมทั้งเรื่องป้าย พม.ที่ติดรูปนายวิฑูรย์ ซึ่งเอางบราชการมาหาเสียงให้ตนเอง และที่จริงแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังไม่มีอำนาจสั่งการเนื่องจากไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา หากนายกฯ ไม่ดำเนินการขอให้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

ย้ำนายกฯต้องยุบสภา

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีม็อบเสื้อแดงบุกทำเนียบยื่นข้อเสนอ 4 ข้อให้รัฐบาลทำตามว่า ขอให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องที่นปช.ยื่นมา เพราะมวลชนที่มาชุมนุมแม้จะเล็กน้อย แต่มีพลังมหาศาล สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้แล้ว หมดความชอบธรรมบริหารประเทศ ที่ผ่านมานายกฯ เคยเรียกร้องให้รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลาออกหลังจากกลุ่มพันธมิตรออกมาเคลื่อนไหว อ้างว่าต้องฟังเสียงของประชาชน วันนี้เสื้อแดงออกมาเคลื่อน ไหวเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ยุบสภา นายอภิสิทธิ์ต้องฟัง โดยยุบสภา อย่าดันทุรัง และห้ามลาออก เพราะถ้าลาออกปัญหาจะไม่จบ ไม่เกิดความปรองดองในชาติ

นายสุรพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา 1 เดือนรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรเลย ซ้ำยังเกิดการทุจริตทั้งเรื่องปลากระป๋อง การใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง รวมทั้งมีรัฐมนตรี 3 คนไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ สุดท้ายคือกฎเหล็ก 9 ข้อที่นายกฯ ออกมาให้รัฐมนตรีปฏิบัติ ก็ไม่สามารถทำให้เป็นรูปธรรมได้ เพราะนายกฯ ไม่สามารถสั่งการรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ นายกฯ เป็นคนหนุ่ม อนาคตไกล หากคิดว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ มีจริยธรรม ควรยุ บสภาคืนอำนาจให้ประชาชน แล้วมาวัดกันว่าประชาชนศรัทธาในอำนาจของใคร

นายสุรพงษ์กล่าวว่า ส่วนกรณี กกต.มีมติดำเนินคดีอาญานายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ช่วยนายธานี เทือกสุบรรณ น้องชาย แจกทุนการศึกษาหาเสียงในการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานีนั้น หากกระบวนการยุติธรรมของศาลมีจริงจะทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หากการกระทำของนายสุเทพเป็นการทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งต้องว่าไปตามผิด เรื่องนี้ต้องถึงขั้นยุบพรรค ควรทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ตัดสินอยู่บนความยุติธรรม ถ้าเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือกันบ้านเมืองก็ไปไม่ได้ ประชาชนหมดศรัทธา ขอให้ศาลพิพากษาตามกฎหมาย ไม่เอนเอียง

อัดมาร์คอย่าโยงนายเก่า

เวลา 12.50 น.ที่รัฐสภา นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนายกฯ ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคลื่อนไหว ไม่ให้มีการประชุมอาเซียน อาจเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวข้องด้วยจริงหรือไม่ ที่สำคัญนายกฯ ไม่ควรใช้ความรู้สึกเพียงด้านเดียวตัดสินเพราะไม่ใช่แค่พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้นที่มองความเคลื่อนไหวของการเมืองไทย แต่ต่างชาติมองเช่นกัน ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณแสดงออกในฐานะคนไทยคนหนึ่ง จึงไม่อยากให้นายกฯ กังวลในส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายกฯ พูดเรื่องดังกล่าวอาจทำให้ความขัดแย้งในสังคมมีมากขึ้น ดังนั้นจึงควรรับฟังเงื่อนไขของกลุ่มเสื้อแดงที่ไปยื่นข้อเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย

นายวิทยากล่าวต่อว่า ความขัดแย้งในประเทศถือเป็นสิ่งที่นายกฯ ต้องยอมรับและแก้ไข ทำอย่างไรให้คนเสื้อเหลืองเสื้อแดงหมดไป รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 2 เรื่องของคนส่วนใหญ่ไม่ได้ควรตัดสินใจตามความเหมาะสม โดยเฉพาะการยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน เพราะเรื่องนี้ไม่ถือเป็นข้อเรียกร้องเกินขอบเขตเพราะนายกฯ เคยเปิดประเด็นไว้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook