สังฆราชทรงปลอดภัย-จากเหตุไฟไหม้รพ.

แพทย์ยัน ยังประทับ อยู่ที่เดิม

รองผอ.โรงพยาบาลจุฬาฯแจงสมเด็จพระสังฆราชที่ประทับรักษาอาการประชวรที่ชั้น 6 ภายในอาคารดังกล่าว เผยระหว่างเกิดเหตุแพทย์-พยาบาลก็ได้ทูลให้ทรงทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งพระองค์ไม่ได้รู้สึกตกใจ พร้อมยืนยันทรงแข็งแรงดี พุทธศาสนิกชนไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนเหตุไฟไหม้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าชอร์ต

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 31 ม.ค. ร.ต.อ.สมเกียรติ รวมเงิน ร้อยเวร สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝั่งใกล้ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. วัลลภ ประทุมเมือง รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. นายนิยม กรรณสูต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 50 คัน ร่วมดับเพลิง

ที่เกิดเหตุเป็นตึกวชิรญาณ สามัคคีพยาบาร สูง 6 ชั้น พบกลุ่มควันหนาแน่นพวยพุ่งออกมา จากห้องปฏิบัติการหน่วยโรคไต 103 ชั้น 1 เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำเข้าไปในตัวอาคารอย่างเร่งด่วน ส่วนชั้น 2 เป็นหน่วยต่อมไร้ท่อ เมตาบอลิซึ่ม ชั้น 3 เป็นห้องพัฒนาบริการพยาบาล ชั้น 4 เป็นหอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง ชั้น 5 เป็นหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย ส่วนชั้น 6 เป็นที่ประทับของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงพักรักษาอาการประชวร

เบื้องต้นแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล รวมทั้งหน่วยกู้ภัยช่วยกันลำเลียงผู้ป่วยตามชั้นต่างๆ โดยเฉพาะที่ชั้น 4 และ 5 ประมาณ 40 คน ออกมาได้ โดยนำไปที่ตึกจุฬาฯ และห้องฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที หน่วยกู้ภัยก็ควบคุมเพลิงไว้ได้ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต และกลุ่มควันไม่ได้กระจายไปถึงชั้น 6 แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่คาดสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

ด้าน รศ.น.พ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รองผู้อำนวยการ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริหาร เปิดเผยว่า จุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อยู่ที่บริเวณชั้น 1 ตึกวชิรญาณ สามัคคีพยาบาร ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการของแผนกวิจัยโรคไต มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สำนักงานอยู่ภายในห้องจำนวนหนึ่ง คาดว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวอาจจะเกิดจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรทำให้ระบบคอมพิวเตอร์อาจชอร์ตขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ภายในห้องดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสังเกตเห็นกลุ่มควัน จึงรีบนำถังดับเพลิงฉีดดับไฟ แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยดับเพลิงทราบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงได้เรียบร้อย

รองผู้อำนวยการ ร.พ.จุฬาฯ กล่าวอีกว่า สำหรับอาคารดังกล่างมีผู้ป่วยพักอยู่ชั้น 4-5 โดยชั้น 4 มีผู้ป่วยหญิงจำนวน 20 คน ชั้น 5 มีผู้ป่วยชายจำนวน 20 คน ส่วนชั้น 6 เป็นชั้นที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงพักรักษาพระวรกายอยู่ ในช่วงที่เกิดเหตุมีคณะแพทย์ของโรงพยาบาลเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด และมีการเตรียมการขนย้ายฉุกเฉินหากมีเหตุจำเป็น แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จึงไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายสมเด็จพระสังฆราชออกมาแต่อย่างใด ทั้งนี้ระหว่างที่เกิดเหตุได้ทูลให้ทรงทราบตลอดเวลา ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชก็ไม่ได้รู้สึกตกใจแต่อย่างใด

หลังจากเกิดเหตุมีประชาชนทั่วไปห่วงใยและโทร.มาสอบถามจำนวนมากว่า เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวส่งผลต่อสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อท่าน อีกทั้งสมเด็จพระสังฆราชทรงมีพลานามัยที่สมบูรณ์ ดังนั้นขอให้ทุกคนสบายใจได้ นอกจากนั้นในส่วนของผู้ป่วยที่พักรักษาตัวอยู่ที่ตึกดังกล่าวก็ไม่ได้รับผลกระทบ และทุกคนก็ปลอดภัยดี

ด้านพล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้คงต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใด ส่วนเพลิงไหม้ก็ไหม้เพียงแค่ห้องเดียว ไหม้เอกสารต่างๆ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงได้ไม่ให้ลุกลาม สำหรับห้องที่ประทับของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่อยู่บนชั้น 6 นั้น ขณะที่เกิดเหตุนั้นกลุ่มควันก็ไม่ได้กระจายขึ้นไปยังชั้นบนที่ประทับรักษาอาการประชวร ขอให้สบายใจได้ พระองค์ยังคงประทับอยู่ที่เดิม