รับฟังก่อนเก็บภาษีที่ดิน

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า แนวทางในการจัดเก็บภาษีต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ ทั้งนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับเปลี่ยนข้อกำหนดเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ออกมาซ้ำเติมประชาชนในช่วงเศรษฐกิจมีปัญหา แต่กว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้อีก 2-3 ปี ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว เพราะร่างกฎหมายจะให้เวลาประชาชนปรับตัวมีบทเฉพาะกาลเว้น 2 ปี หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ ส่วนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รายได้ภาษีทั้งหมดจะเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งหมด ซึ่งจะลดภาระของรัฐบาลในการจัดสรรเงินไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่จะทำให้ อปท.มีเงินภาษีใช้พัฒนาพื้นที่ของตนเอง 4-7 หมื่นล้านบาทต่อปี อีกทั้งการจัดเก็บภาษีดังกล่าวไม่น่ากังวลมากเกินไปเพราะสำหรับที่อยู่อาศัย และพื้นที่การเกษตรแทบจะไม่ต้องเสียภาษี แต่จะผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์พื้นที่ว่างเปล่ามากขึ้น และเมื่อเริ่มจัดเก็บช่วงแรกจะเริ่มแบบขั้นบันได

โดยในปีแรกจัดเก็บเพียง 50% ของมูลค่าทรัพย์สิน ปีที่ 2 จัดเก็บ 75% ของมูลค่าทรัพย์สิน ปีที่ 3 จัดเก็บ 100% เพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัวรองรับการขยายฐานภาษีแบบใหม่เพิ่มเติม