เอไชยาแจงป่วยดีขึ้นแล้ว-อุบตอบคดีมิตร

หนุ่ม 'เอ ไชยา' แจงป่วยดีขึ้นแล้ว เล็งพบหมอ 9 ก.พ. บอกปอดติดเชื้อ อุบตอบคดี 'มิตร'

ทำเอาแฟน ๆ อดห่วงไม่ได้ หลังจากที่ไข้ขึ้นสูงจนต้องเข้าโรงพยาบาล สำหรับนักร้องลิเกเสียงใส "เอ ไชยา" ล่าสุดเพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน ก็โดนคนวิจารณ์ว่าป่วยสร้างกระแส เมื่อเจอ หนุ่มเอ เจ้าตัวได้อัพเดทอาการให้ฟังว่า "ตอนนี้รู้สึกเพลีย แต่ร่างกายดีขึ้น เพราะได้พักด้วย แต่ตอนนี้ที่ยังสะลึมสะลือเพราะหมอให้กินยาแก้ไอ กินแล้วง่วงมาก ผลกระทบกับงานไม่มีนะครับ เรารู้ว่าร่างกายเราไหว หรือไม่ไหว อย่างที่พาร่างกายเข้าโรงพยาบาลเลย หลังจากถ่ายรายการวันนั้นเสร็จ เพราะรู้เลยว่า ไม่ไหวจริง ๆ มันมีไข้ ปวดหัว ตัวร้อน ซึ่งเราไม่รู้สาเหตุไง ทานยาลดไข้ไปก็ดี แต่พอเข้าโรงพยาบาล หมอตรวจกลายเป็น ปรอท ถึง 40 เราลุกแล้วหน้ามืด เรารู้ตัว พี่ขอออกจากโรงพยาบาลก่อนที่จะได้ออกวันหนึ่งนะ อยากมาพักที่บ้าน อยากรู้ว่าถ้ามากระทบกับอากาศจะเป็นยังไง แต่ไม่กล้าออกมา เพราะปอดเราติดเชื้อ ก็เจาะเลือด ตรวจเลือด อยู่อย่างนี้ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะโรคเดี๋ยวนี้น่ากลัวมาก ไข้หวัดมาแบบแปลก ๆ ใหม่ ๆ ทันสมัยเหลือเกิน สรุปอาการป่วยเดี๋ยววันที่ 9 นี้ จะไปหาเขา อยากให้เขาเช็กอีกครั้ง มีการเอ็กซเรย์ ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เขาตรวจผลเลือดอีกครั้งไปเลย และวัคซีนคงต้องใส่หลายตัว เพราะอาชีพแบบเราทำงานหลายสถานที่ สาเหตุหลัก ๆ เลยที่พบคือ อากาศเปลี่ยนแปลงเร็วมาก และมีฝุ่นละออง เราคิดว่าร่างกายเราไหว แต่จริง ๆ ข้างในเราไม่ไหว ไม่รู้ตัวด้วยว่าเป็นปอดบวม คิดแต่ว่าตัวเองเป็นคนแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย ๆ ถือเป็นครั้งแรกครับที่ป่วยหนัก และเสี่ยงมาก อันตราย แต่โชคดีมากที่หมอตรวจเจอก่อน และให้ยาได้ถูก ผมเลยบอกว่าเราอย่าชะล่าใจนะครับ ขนาดตัวผม ผมไม่เคยพบหมอเลยว่าจะไหวแค่ไหน ข้างในเราไม่รู้ ใจเราสู้ แต่ข้างในเราไม่รู้ เป็นปอดบวมติดเชื้อด้วย ถ้าเป็นไข้อย่าคิดว่าทานยาแล้วหาย มันเป็นการรักษาร่างกายที่ผิด หมอบอกถ้ากลับมาแล้ว มีไข้ให้กลับไปโรงพยาบาลอีก ให้เฝ้าสังเกตอาการ เรื่องของเสียงพี่ก็ไม่ได้พักเลยครับ เล่นลิเกตลอด ตอนนี้ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้เสียงด้วย กลัวกล้ามเนื้อเส้นเสียงอ่อนแรง กรดไหลย้อย เสียงยังไม่ใส ต้องให้หมอเช็กให้ละเอียด เพราะกลัวจริง ๆ ครับ หมดเสียงนี่คือ หมดอาวุธทำมาหากินเลย คงไม่พักงานหรอกครับ ทำที่

ส่วนภาพไปรับรางวัลงานพระกินรีมา อันนั้นตั้งแต่ปีที่แล้วครับ เวลาเรามาเขาก็เอาไปลงกัน คนมองว่าสร้างกระแส โลกโซเชียลก็น่ากลัวอยู่ ดูอะไรต้องคิดวิเคราะห์ ขนาดตัวพี่เข้าโรงพยาบาล ยังมีคนมาบอกว่าลวงโลก ป่วยนี่นะ และอยู่ในดุลพินิจของหมอ พี่ไม่จำเป็นต้องมาสร้างกระแส พี่ไม่ชอบ พี่พูดจริง ๆ แต่พี่เป็นคนโมโหคนไม่เป็น ใครว่าอะไรก็นิ่ง ก็เฉย ไม่โต้ไม่ตอบใครทั้งสิ้น เราต้องใจหนัก ๆ หน่อย แต่บางครั้งได้ยินแบบนั้น ก็นอนน้ำตาซึมเหมือนกันนะ เพราะคนใกล้จะตาย มันถึงได้รู้ไงว่า ยังมีคนแบบนี้อยู่ในบางกลุ่ม ถ้าเราไม่รัก ไม่ชอบศิลปิน ดารา เกิดการหมั่นไส้ จริง ๆ แล้วบางคนไม่อยากจะเป็นข่าวครับ อย่างผมเข้าโรงพยาบาลไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ยังถามแม่เลยว่า แม่ให้ข่าวเหรอ แม่ก็ไม่รู้เรื่อง คือทางโรงพยาบาลมีศูนย์ข่าว เลยมีข่าวออกไป การป่วยเราไม่ได้แกล้ง อยากให้เว้นวรรคไว้บ้าง คนที่จะทับถมคนมีเยอะเหลือเกิน แต่คนที่จะให้กำลังใจมีน้อย นอกนั้นทับถมเหยียบย่ำกัน มันเหมือนสังคมเห็นแก่ตัวและแก่งแย่งกัน เราอยู่ด้วยความอะลุ่มอล่วยดีกว่า น้ำพึ่งเรื่อ เสือพึ่งป่า และให้กำลังใจกันดีกว่า ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องดู จบ คนป่วยเวลาเข้าโรงพยาบาล ยาหมอช่วยได้ แต่ยาใจสำคัญ คนรอบข้างสำคัญมาก

เรื่อง แอน มิตรชัย โดนกระแสต่อว่า ชุดลิเกโป๊เกินไป คือเรื่องของเรื่องมันเป็นมุข และเขาไม่ได้โป๊แบบนั้นหรอกครับ พูดจริง ๆ ไม่ได้แก้ตัวแทนน้อง คือ ตัดต่อ ตัดส่วนล่าง พ่อไม่ปล่อยอยู่แล้วในเรื่องโป๊ แต่ส่วนนี้เป็นฉากที่นางเอกไปยั่วพระเอก กระโปรงน้องแอนสั้น แต่เขานุ่งกางเกงข้างใน เป็นถุงน่องก็หลายชั้น เราเซฟไว้หมดครับ แต่ที่ภาพออกไป โอ้โห ขึ้นมาซะ มันเห็นตรงนั้นเลยครับ เห็นแล้วไม่ใช่แล้ว ตรงนี้กล้าพูด พ่อผมเขาสอนมา ถ้าแดนเซอร์มาให้เปลี่ยนข้างล่าง เรามีครูเคารพนับถือเราถูกสอนมาอย่างดีแล้วครับ ขอบพระคุณนะที่หลาย ๆ คนเป็นห่วง แต่ตรงส่วนนี้ ภาพในบ้างครั้งไม่ใช่ภาพจริง น้องเขาเห็นข่าว เขาเสียกำลังใจ เพราะเขาสามารถที่จะแบ่งภาพลักษณ์ได้ ลิเก หนัง คอนเสิร์ต ชุดเขาใส่กันแน่นหนา ยิ่งทีมงานใหญ่ ๆ ปล่อยไม่ได้ ต้องมีการเซฟไว้แล้ว คดีความของมิตร เรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม อยู่ในคดีความ พี่ไม่สามารถพูดอะไรเยอะได้ เราก็รักและห่วงน้อง แต่เราก็สงสารทางนู้น เราใจเป็นธรรมเป็นพอ ต้องขอบคุณที่หลายคน ยังให้ความสำคัญ และความสนใจกับครอบครัวเรา แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับทางดุลพินิจศาลครับ"