แพทย์ยันมีระบบเฝ้าระวังไข้ซิกาห้องปฏิบัติการ
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยมีระบบการเฝ้าระวังไข้ซิกาทางห้องปฏิบัติการ ชี้ไทยพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ 7 ราย
นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสซิกาในประเทศบราซิลและประเทศอื่นๆในภูมิภาคอเมริกาใต้ สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข ได้มีมาตรการต่างๆ ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้ซิกา ซึ่งมี 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เอเชีย และแอฟริกา โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีหน้าที่ในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งการตรวจวิเคราะห์นั้นหากผู้ป่วยยังมีไข้จะใช้วิธีตรวจหาสารพันธุกรรมไวรัสซิกา แต่หากพ้นระยะไข้แล้ว ต้องตรวจหาแอนติบอดีชนิด IgM ที่จำเพาะต่อไวรัสซิกา แต่การตรวจแอนติบอดีมักพบผลบวกปลอม เนื่องจากปฏิกิริยาข้าม (cross reaction) กับฟลาวิไวรัสอื่น ทางสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จึงใช้วิธีการตรวจสารพันธุกรรมไวรัสซิกาด้วยวิธี Real-time RT-PCR ตัวอย่างที่ต้องเก็บส่งตรวจคือ พลาสมาจากสารกันเลือดแข็งชนิด EDTA หรือซีรั่ม และต้องเจาะเลือดผู้ป่วยในระยะมีไข้ไม่เกิน 5 วันหลังเริ่มป่วย ก็จะทราบผลที่ชัดเจนและรวดเร็ว
ซึ่งผลการตรวจตัวอย่างผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อไวรัสซิกา ตั้งแต่มกราคม 2558 ถึง มกราคม 2559 พบผลบวก 7 ราย จากที่ตรวจทั้งหมด 42 ราย โดยเป็นผู้ป่วยจากจังหวัดสมุทรสาคร ระยอง และพิษณุโลก
ทั้งนี้โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ส่วนใหญ่ติดต่อโดยยุงเป็นตัวนำเชื้อไวรัสซิกา อาการของโรคไม่รุนแรง จะมีปัญหามากเฉพาะกับหญิงตั้งครรภ์ โดยอาจทำให้เด็กในครรภ์พิการ สมองเล็ก ลีบ