ชาวประมงสุราษฎร์ใจสลาย คลื่นลมแรงซัดบ้านพังทั้งหลัง

ชาวประมงสุราษฎร์ใจสลาย คลื่นลมแรงซัดบ้านพังทั้งหลัง

ชาวประมงสุราษฎร์ใจสลาย คลื่นลมแรงซัดบ้านพังทั้งหลัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (7 ก.พ.) เกิดเหตุคลื่นใหญ่ซัดเสาบ้านชาวประมง ทรุดลงทะเลทั้งหลัง ในหมู่บ้านชาวประมง พื้นที่ ม.6 ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นคลิปวีดีโอที่ชาวบ้านสามารถบันทึกไว้ได้ และนำมาให้ทีมข่าวที่เข้าไปสำรวจความเสียหาย

โดยในคลิปคลื่นลมแรง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 ก.พ.59 โดยภาพบ้านทึ่ปรากฏในคลิปเป็นบ้านของ น.ส.วราภรณ์ สุริยานนท์ เลขที่ 118/2 ม.6 ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ จ.สุราษฎร์ธานี อาชีพชาวประมงพื้นบ้าน ที่สร้างบ้านอยู่ในพื้นที่ชายเลนหลังท้ายสุดที่ต่อกับป่าชายเลนของปากน้ำกระแดะ โดยคลื่นขนาดใหญ่เริ่มซัดตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 7 ก.พ.

น.ส.วราภรณ์ บอกว่าขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ในบ้านประมาณ 4-5 คน ได้มีคลื่นลมแรงที่เกิดขึ้นปกติในช่วงมรสุม 1-2 ครั้งต่อปี แต่คลื่นกลับทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง คลื่นซัดรุนแรงถึงขอบหน้าต่างและรุนแรง อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ในช่วงที่มาอาศัยอยู่ตรงนี้เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา

คนในบ้านต้องหนีกันออกมานอกบ้านมองดูคลื่นที่ค่อยๆ ตัดเสาบ้านที่ต่อเติมขึ้นใหม่และพยายามทำให้สูงกว่าหลังเก่าเพื่อหนีน้ำ โดยใช้งบเพิ่มเติมไปประมาณ 5-6 หมื่นบาท แต่ไม่รอดคลื่นลมที่รุนแรงกว่าทุกปี บ้านที่ต่อเติมใหม่เสียหายทั้งหลัง ส่วนบ้านเก่าก็เสียหายไปกว่าร้อยละ 80

เมื่อบ้านทรุดหมดสมาชิกในบ้านต่างก็ช่วยลงในน้ำว่ายน้ำ เก็บทรัพย์สินที่สามารถเก็บขึ้นมาได้ ส่วนสมาชิกในบ้านต้องไปอาศัยบ้านญาติเป็นการชั่วคราว

เช่นเดียวกับนายสมจิตร ขาวประดิษฐ และนางสุนันท์ สุขลอย อาชีพรับจ้างร้านอาหาร ที่วันนี้ต้องมาเช่าบ้านในบริเวณเดียวกันอยู่เดือนละ 1,500 บาท หลังจากบ้านของตนเองต้องพังทั้งหลัง เพราะคลื่นลมแรงเมื่อช่วงวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งเบื้องต้นชาวบ้านบอกว่า ทาง อบต.ได้เข้ามาตรวจสอบแล้ว และจะให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ต้องรอทางจังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติเพื่อจัดสรรงบให้การช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ นอกจากบ้าน 2 หลังนี้แล้ว บ้านเรือนอีกหลายหลังจากกว่า 100 หลังคาเรือน ที่อยู่ในหมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้ ก็ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรงไปบางส่วนเช่นกัน รวมถึงขนำหรือกระท่อม สำหรับใช้ในการเฝ้าคอกหอยกลางทะเลในพื้นที่ดังกล่าว

ชาวบ้านบอกว่ามีพังราบไปประมาณ 6 หลังด้วยกัน โดยในวันนี้ (8 ก.พ.) ชาวบ้านยังคงต้องเฝ้าระวังอีกครั้ง เพราะยังอยู่ในช่วงน้ำหนุนสูงอยู่ แต่ก็หวังว่าจะไม่มีลมแรงจนทำให้คลื่นแรงเหมือนเช่นวันนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook