ชลประทานปทุมธานีสั่งปิดประตูระบายน้ำ

ปทุมธานี ชลประทาน สั่งปิดประตูระบายน้ำริมเจ้าพระยาทุกประตู ไม่ให้กระทบการผลิตประปา

ปัญหาภัยแล้งพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระยาบรรลือ เขต อ.ลาดหลุมแก้ว อ.สามโคก และ อ.เมือง ในจังหวัดปทุมธานี รุนแรงมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่งผลให้น้ำในคลองแห้ง ถนนคันคลองทรุดหลายแห่ง ที่ผ่านมา กรมชลประทาน ให้รับน้ำเข้าคลอง เพื่อรักษาระบบนิเวศ และคันคลองไม่ให้เสียหาย แต่ปรากฏว่า เกษตรกรบางส่วนได้นำน้ำดังกล่าวไปปลูกข้าว ซึ่งไม่ตรงวัตถุประสงค์ที่ต้องการจัดสรรน้ำ เพื่อการอุปโภคและให้เกษตรกรลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง ปัจจุบันความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา และท่าจีน เริ่มรุนแรง กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 11 ได้สั่งการให้โครงการส่งน้ำ งดรับน้ำเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา และระหว่างวันที่ 6 - 12 ก.พ.59 ปริมาณน้ำทะเลหนุนสูง เพื่อป้องกันน้ำทะเลทะลักเข้ามาทำให้น้ำกร่อยกรมชลประทานจึงสั่งการให้ปิดประตูระบายน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาทุกประตู ในเขตสำนักชลปะทานที่ 11 ตั้งแต่วันที่ 6 - 12 ก.พ. 59 

ด้าน นายชูชาติ ศุภวรรธนางกูร ผู้อำนวยชลประทานปทุมธานี เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจวัดความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าเกิดความเค็มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ตามมาตรฐานความเค็มของการประปาส่วนภูมิภาคจะเท่ากับ 0.5 กรัมต่อลิตร และการประปานครหลวง เท่ากับ 0.25 กรัมต่อลิตร เมื่อวัดระดับที่บริเวณหน้าประตูน้ำสำแลได้ 0.22 กรัมต่อลิตร วัดชัยสิทธาวาส 0.25 กรัมต่อลิตร และสะพานปทุมธานี 1 ได้ 0.28 กรัมต่อลิตร กรมชลประทาน จึงมีความจำเป็นต้องปิดประตูระบายน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาทุกประตู เพื่อป้องกันน้ำทะเลไหลเข้ามา จนมีผลต่อการผลิตน้ำประปาของชาวกรุงเทพมหานคร