เปิดใจ "อา" ทันตแพทย์หนีทุน เสียใจ-ขอโทษสังคม ตระกูลสร้างความเดือดร้อน

เปิดใจ "อา" ทันตแพทย์หนีทุน เสียใจ-ขอโทษสังคม ตระกูลสร้างความเดือดร้อน

เปิดใจ "อา" ทันตแพทย์หนีทุน เสียใจ-ขอโทษสังคม ตระกูลสร้างความเดือดร้อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ 1 ใน 4 ผู้ค้ำประกัน อดีตอาจารย์คณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) ที่ขอทุนสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท และเอก ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจกรณีต้องชดใช้หนี้ 2 ล้านบาท จากการเซ็นค้ำประกันให้ทันตแพทย์หญิง หลังจากที่เรียนจบแล้วไม่ยอมกลับมาทำงานใช้ทุน และไม่ยอมชำระเงินชดใช้ทุน ทำให้ ทพ.เผด็จ และผู้ค้ำรวม 4 คน ต้องใช้หนี้จากการเซ็นค้ำประกัน 8 ล้านบาท โดยล่าสุดทาง ทพ.เผด็จ ขอให้ มม.ทำหนังสือถึงผู้ตรวจการคณะทันตแพทย์ฮาร์วาร์ด เพื่อร้องเรียนตามช่องทางที่ถูกต้องนั้น

นายธนาเดช อาของทันตแพทย์หญิง เปิดเผยว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน จนถึงตอนนี้ ก็ไม่เคยเห็นหน้า เพิ่งเห็นก็จากข่าวในทีวี แต่ที่ค้ำประกันให้เมื่อ 20 ปีก่อน ก็เนื่องจากพ่อของทันตแพทย์หญิง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องมาหาที่ทำงาน ซึ่งสมัยนั้นรับราชการที่หน่วยงานหนึ่ง พ่อของทันตแพทย์หญิง บอกว่าลูกสาวได้ทุนเรียนปริญญาตรีของคณะทันตแพทยศาสตร์ มม. แต่ต้องมีคนค้ำประกัน ตนเห็นว่าเป็นญาติและคิดว่าเมื่อจบกลับมา ก็จะทำงานให้ มม.ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ถึงได้เซ็นค้ำประกันโดยใช้ตำแหน่งค้ำ และเรื่องก็เงียบหายไปนานหลายปีจนคิดว่าเรื่องจบไปแล้ว

"จนวันหนึ่งจู่ๆ ตนได้รับหมายศาลแจ้งว่าจะต้องชดใช้เงินค้ำประกันที่เซ็นค้ำประกัน โดยสมัยนั้น ทันตแพทย์หญิง เรียนจบปริญญาตรีและทำงานชดใช้ทุนปริญญาตรีที่คณะทันตแพทย์ มม. ระยะหนึ่งแต่ยังไม่ครบกำหนดตามสัญญา ก็ได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโทและเอกที่ต่างประเทศ กระทั่งมาเกิดเรื่องว่า เรียนจบปริญญาโทและเอกที่ต่างประเทศแล้ว ไม่กลับมาชดใช้ทุนและไม่จ่ายเงินชดใช้ ในส่วนของผม ศาลแจ้งให้รับผิดชอบชดใช้ในส่วนที่ทำงานใช้ทุนปริญญาตรีไม่ครบตามสัญญาซึ่งต้องชดใช้เงินต้น พร้อมดอกเบี้ยจำนวนหนึ่ง แต่ได้ร้องขอต่อศาลและศาลก็กรุณาลดอัตราดอกเบี้ยเหลือขั้นต่ำที่สุด"

"สรุปคือต้องเสียเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยกว่า 2 แสนบาท จึงประสานไปยังพ่อของทันตแพทย์หญิง และก็ได้รับโอนเงินมาให้ เมื่อศาลนัดครั้งต่อไปก็ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปชดใช้ ในส่วนของผมจึงถือว่าจบ ส่วนที่ถามว่า ทันตแพทย์หญิงเป็นคนโอนเงินให้พ่อ เพื่อนำมาให้ผมจ่ายหรือไม่นั้นไม่ทราบ เช่นเดียวกับที่มีข่าวว่า ทันตแพทย์หญิงขายทรัพย์สินจนไม่เหลือในเมืองไทยในครอบครองก็ไม่ทราบเช่นกัน เพราะนับแต่เกิดเรื่องก็ไม่เคยคุยกับพ่อของทันตแพทย์หญิง ปกติจะเจอกันแค่ตามสังคม อาทิ งานแต่งงานของญาติ แต่ไม่เคยสอบถาม เพราะเดี๋ยวจะเข้าใจว่าเป็นการซ้ำเติม" นายธนเดช กล่าว

นายธนาเดช ยังกล่าวด้วยว่า ถ้าครอบครัวร่ำรวย ก็คงช่วยจ่ายคนค้ำประกันไปแล้ว แต่เท่าที่ทราบทางพ่อของทันตแพทย์หญิง ก็มีฐานะปานกลาง ส่วนตัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากขอโทษสังคมที่ตระกูลนี้สร้างความเดือดร้อนให้สังคม แต่ก็อยากขอความเป็นธรรมจากสังคม เพราะแค่คนเดียวที่ก่อเหตุ แต่สังคมเหมือนจะตัดสินไปแล้วว่าคนทั้งตระกูลไม่ดี จึงอยากขอความเป็นธรรมว่าแค่คนเดียว อย่าเหมาทั้งตระกูล

รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนค้ำก็ค้ำให้ด้วยความปรารถนาดี แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์ต้องชดใช้แทน ที่ผ่านมาพยายามทำดีที่สุดแล้วด้วยการให้คำแนะนำไปยังคนค้ำว่าสามารถขอศาลผ่อนผันการชดใช้ได้ ตอนขึ้นศาล ยังบอกด้วยซ้ำว่าทำไมรัฐไม่ติดตามบังคับคดีกับคนรับทุนก่อน เพราะรัฐก็มีสำนักงาน ก.พ.ในต่างประเทศ ซึ่งจะติดตามหนี้ได้ง่าย อยากให้ติดตามลูกหนี้ให้ถึงที่สุดก่อนที่จะมาบังคับเอากับคนค้ำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook