นายกฯรู้วันลงประชามติแล้วโชว์แผนโรดแมปแม่น้ำ5สาย

นายกรัฐมนตรีถก คทป. ดูคืบหน้าการแก้ปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา ในปี 2558 คาดวางมาตรการป้องกัน ปี 59 รู้วันประชามติแล้ว กางแผนโรดแมปแม่น้ำ 5 สาย โชว์สื่อ แจกพรุ่งนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (คทป.) ครั้งที่ 1/2559 ส่วนวาระที่จะมีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคาดว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรายงานความคืบหน้า การแก้ปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา ในปี 2558 ที่ผ่านมา และที่ประชุมอาจจะมีการวางมาตรการป้องกันและปราบปรามการแก้ปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา ในปี 2559 ให้มีแนวทางชัดเจนในภาพรวม และอาจมีการรายงานความคืบหน้า การป้องกันและปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ในพื้นที่ของตลาดโรงเกลือ ใน อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลังจากที่วันอังคารที่ผ่านมา นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประกาศว่าเบื้องต้นจะร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในพื้นที่แก้ปัญหาสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่ตลาดโรงเกลือ ให้มีความชัดเจน โดยจะทำให้หมดไปภายใน 2 เดือน และในอนาคตจะทำความเข้าใจกับผู้ค้าในพื้นที่ เพื่อให้แก้ปัญหาการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ตลาดโรงเกลือ ได้อย่างถาวร

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (คทป.) ครั้งที่ 1/2559 ถึงกรณีการกำหนดวันประชามติ ว่า ได้รับทราบจากหนังสือพิมพ์ แต่ยังไม่ได้รับรายงานใด ๆ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ชูเอกสารแผนผังการทำงานร่วมกันระหว่างแม่น้ำ 5 สาย พร้อมได้กล่าวว่า กำลังทำงานอย่างนี้อยู่ อยากให้ฟังบ้างจะได้รู้ โดยพรุ่งนี้จะมีการแจกจ่ายเอกสารดังกล่าวนี้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า มีการทำงานกันแบบนี้ เพื่อจะได้รู้ว่าประเทศเดินอย่างไร ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ขอเอกสารดังกล่าวจากนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สื่อไม่อยากได้หรอก เพราะอยากได้แค่เลือกตั้งเมื่อไร ประชามติเมื่อไร เท่านั้น

นายกฯวาง3มาตรการเร่งแก้ละเมิดลิขสิทธิ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (คทป.) ครั้งที่ 1/2559 ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการแก้ไขการละเมิดและจดทะเบียนทรัพย์สิทธิทางปัญญา โดยจะมีการประชุมร่วมกับหลายประเทศทั่วโลกในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจำเป็นต้องแก้ปัญหานี้ให้เร็วขึ้น โดยแบ่งการแก้ปัญหาเป็น 3 แนวทาง คือ การป้องกันและปลูกจิตสำนึกไม่ใช้ของปลอม พร้อมส่งเสริมสินค้าโอท็อป ซึ่งต่อไปจะต้องมีมาตรการสำหรับผู้ใช้ เนื่องจากที่ผ่านมา มีแต่มาตรการสำหรับผู้ขายอย่างเดียว รวมถึงจะต้องบูรณาการการปราบปรามร่วมกับทุกภาคส่วน 

นอกจากนี้ จะต้องพิจารณาว่ากฎหมายที่ออกมานั้น เพียงพอแล้วหรือไม่ ซึ่งหากมีกฎหมายแล้วยังกำเนินการไม่ได้ ก็จะไม่ผ่านการรับรองจากต่างประเทศ และอย่ามองว่าการใช้กฎหมายแรงที่สุด ดีที่สุดแล้วจะจบ เพราะคนไทยไม่ชอบกฎหมาย แต่รักอิสระ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ส่วนการบริการจดสิทธิบัตรที่ค้างการบริการกว่า 10,000 รายการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอและจะต้องหาช่องทางในการเพิ่มเจ้าหน้าที่