พม.ให้วสท.สำรวจอาคารเฟลตดินแดงอายุ50ปี

พม.ให้วสท.สำรวจอาคารเฟลตดินแดงอายุ50ปี

พม.ให้วสท.สำรวจอาคารเฟลตดินแดงอายุ50ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้ วสท. ลงพื้นที่สำรวจสภาพอาคารแฟลตดินแดง ดีเดย์ 15 ก.พ. 59 นี้ คาดใช้เวลา 2 เดือน รู้ผล

พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมหารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมก่อนลงพื้นที่ในการดำเนินการตรวจสอบสภาพอาคารแฟลตดินแดง ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้คณะเจ้าหน้าที่ของ วสท. ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพโครงสร้างอาคารแฟลตดินแดง ซึ่งก่อสร้างมานานกว่า 50 ปี โดยจะตรวจสอบถึงความมั่นคง ความแข็งแรง และระบบต่าง ๆ ของสภาพอาคาร รวมถึงความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณในการซ่อมแซมอาคาร และจะนำผลการตรวจสอบดังกล่าวมาพิจารณาอีกครั้ง

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ผลสำรวจของ AIT เมื่อปี 2545 - 2546 พบว่า อาคารอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม สมควรให้มีการปรับปรุงอาคารโดยเร่งด่วน และปี 2550 พบว่ามีความเสียหายเพิ่มเติมจากเดิม รวมทั้งผลสำรวจของ วสท. ที่สอบทานการตรวจสอบของ AIT ซึ่งเห็นว่า กคช. ควรพิจารณาปรับปรุงในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรงและประโยชน์ใช้สอยของอาคาร โดย วสท. จะนำผลการสำรวจดังกล่าว มาใช้ประกอบผลการสำรวจปัจจุบัน เพื่อเปรียบเทียบว่าสภาพอาคารมีความชำรุดจากเดิมอย่างไร สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพอาคารแฟลตดินแดงของคณะเจ้าหน้าที่ วสท. จะเริ่มลงพื้นที่เตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการในวันที่ 15ก.พ. 59 นี้  ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการตรวจสอบประมาณ 2 เดือน และจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประมาณ 5 ล้านบาท "การลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้ ตนได้กำชับให้มีการบูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาชน ที่แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน และความโปร่งใสในการดำเนินโครงการ เพื่อนำผลการสำรวจมาใช้ประกอบการดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงต่อไป"

นอกจากนี้ พลตำรวจเอก อดุลย์ ยังกล่าวว่า จากกรณีหญิงอายุ 58 ปี ต้องรับภาระเลี้ยงดูสามีที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคทางจิตเภท และลูกชายอีก 2 คน ที่พิการทางสมองและร่างกายตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดเชียงราย ด้านเจ้าตัวเผยว่า อยากมีอาชีพที่สามารถทำอยู่กับบ้านได้ เพราะจะได้ดูแลลูกและสามี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย (พมจ.เชียงราย) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และกรณีพบหญิงชราวัย 78 ปี ประสบอุบัติถูกรถชนทำให้พิการขาซ้ายหัก เดินไม่ได้ ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลาน 2 คน อายุ 10 และ 12 ปี ซึ่งทั้ง 3 ชีวิตอาศัยในบ้านสภาพเก่าใกล้ผุพัง มีเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการ เดือนละ 1,500 บาท สำหรับประทังชีวิต ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (พมจ.ประจวบคีรีขันธ์) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของหญิงชราอย่างต่อเนื่อง ดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กทั้ง 2 คน ในระยะยาว และการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับผู้พิการและถูกสุขลักษณะต่อไป


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook