GMMฟ้องหมิ่นมิวสิคบั๊กส์ปัดละเมิดแพร่เพลงลาบานูน

GMM ส่งตัวแทน โร่แจ้งความ สน.ทองหล่อง ฟ้องกลับ มิวสิคบั๊กส์ หมิ่นประมาท ลั่น มีสิทธิ์เผยแพร่เพลงวงลาบานูน โดยชอบธรรม

วันนี้ (12 กุมภาพันธ์ 2559) เวลา 15.00 น. นายกษม อดิสัยปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MPI) ได้เดินทางไปยัง สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ บริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด หรือ มิวสิคบั๊กส์ ในข้อหา "หมิ่นประมาท" เป็นเหตุให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย จากกรณีที่ มิวสิคบั๊กส์ ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย บริษัท จีเอ็เอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) / MPI / วงลาบานูน และพวก เป็นเงิน 50 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายกษม ได้ชี้แจงว่า บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MPI) เป็นผู้ได้รับสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive) จาก บริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด (มิวสิคบั๊กส์) ให้เป็นผู้มีสิทธิ์และอำนาจในการทำนิติกรรมสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในการเผยแพร่ต่อสาธารณชนและจัดเก็บค่าตอบแทน หรือค่าเผยแพร่งานดนตรีกรรม สิ่งบันทึกเสียง และโสตทัศนวัสดุ กับผู้ประกอบการร้านค้า และ/หรือผู้ใช้งานดนตรีกรรม สิ่งบันทึกเสียง และโสตทัศนวัสดุ รวมถึงการใช้งานดนตรีกรรมไปใช้ในการแสดงสด และ/หรืออยู่ในรูปแบบของงานสิ่งบันทึกเสียงและ/หรือภาพใด ๆ ก็ตาม โดย MPI และมิวสิคบั๊กส์ ได้ตกลงค่าตอบแทนร่วมกันในรูปแบบเหมาจ่ายค่าสิทธิ์ และ MPI ได้ชำระให้กับมิวสิคบั๊กส์ ครบถ้วนแล้วทั้งหมด

MPI และมิวสิคบั๊กส์ ได้ทำสัญญากันต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลา 15 ปี ตั้งแต่ฉบับแรกปี 2545 และต่อเนื่องกันมาจนถึงฉบับล่าสุดเมื่อปี 2557 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ซึ่ง คุณธเนศ วรากุลนุเคราะห์ เป็นผู้ตรวจสอบข้อตกลงของสัญญาและลงนามในสัญญาทุกฉบับ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา MPI และ มิวสิคบั๊กส์ ก็เป็นคู่ค้าที่ดีระหว่างกัน และไม่เคยมีเรื่องโต้แย้ง หรือมีปัญหาใด ๆ อันเกี่ยวกับเรื่องการใช้สิทธิ์ของ MPI ในการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในการเผยแพร่ต่อสาธารณชนและจัดเก็บค่าตอบแทนดังกล่าวเลย 

จนมาถึงปี 2558 ที่ผ่านมา มิวสิค บั๊กส์ ซึ่งได้เปลี่ยนผู้บริหารจาก คุณธเนศ วรากุลนุเคราะห์ มาเป็น คุณชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ จึงได้มีการโต้แย้ง

เรื่องสิทธิ์ในการใช้งานสำหรับการแสดงสดขึ้น  MPI ก็ได้มีการพูดคุยและทำหนังสือชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อ มิวสิคบั๊กส์ หลายครั้ง  โดย MPI ก็ได้ยืนยันถึงเจตนารมณ์ในการทำสัญญาระหว่างกันโดยชัดเจนว่า MPI ใช้สิทธิ์โดยเคารพต่อข้อตกลงของนิติกรรมสัญญาที่มีต่อกันมากว่าเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยเคร่งครัด และไม่ได้ใช้สิทธิ์ใด ๆ เกินเลยไปกว่าข้อตกลงแห่งสัญญาแต่อย่างใด และหากทาง มิวสิคบั๊กส์ ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงข้อตกลงใด ๆ ขึ้นใหม่ก็ควรที่จะให้สัญญาที่ทำไว้ระหว่างกันสิ้นสุดลงเสียก่อน แต่มิวสิคบั๊กส์ กลับไปยื่นฟ้องต่อศาลและให้ข่าวต่อสื่อมวลชน

การที่ผู้บริหารของมิวสิคบั๊กส์ ได้แถลงข่าวว่าได้ยื่นฟ้อง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ / MPI / วงลาบานูน ว่า ละเมิดลิขสิทธิ์และเจตนาให้ข่าวที่ไม่เป็นความจริง มีลักษณะที่ทำให้ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ / MPI / วงลาบานูน เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ / MPI จึงได้มอบหมายให้ นายกษม มาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในในข้อหา "หมิ่นประมาท" ส่วนคดีที่ มิวสิคบั๊กส์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลทรัพย์สินในทางปัญญา บริษัทจะดำเนินการฟ้องแย้งต่อไป 

MPI ขอยืนยันอีกครั้งว่า MPI ได้ใช้สิทธิ์โดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย เคารพ และปฏิบัติตามนิติกรรมสัญญาไว้อย่างเคร่งครัด ไม่เคยกระทำการใด ๆ เกินเลยไปกว่าสิทธิ์ที่ได้รับจาก มิวสิคบั๊กส์ แต่อย่างใด

ผู้บริหารgmmพร้อมพี่เอกคนปั้นลาบานูน ยืนยันว่าไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ อาจจะเป็นการเข้าใจผิด แจงทาง mpi ฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาท ลั่นลาบานูนสามารถร้องเพลงที่สร้างสรรค์เองได้ตามสัญญา เรียกได้ว่าตอนนี้เรื่องทั้งหมดอาจจะเป็นการเข้าใจผิดก็ว่าได้ ถึงเกิดเรื่องการฟ้องร้องลิขสิทธิ์กันขึ้นมา ระหว่างค่าย "มิวสิคบั๊กส์" และ "แกรมมี่-ลาบานูน" ล่าสุดทางผู้บริหารแกรมมี่และผู้ปั้นวงลาบานูนอย่างคุณ "เอก ธเนศ" ได้ออกมาพูดคุยในรายการ "ข่าวรอบวัน" ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการเข้าใจผิด และอยากให้คุยกันดี ๆ เพราะยังไงก็อยู่ในวงการเดียวกัน โดย คุณบุษบา ดาวเรื่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัดมหาชน เผยว่า เราให้เกียรติและเคารพทรัพท์สินทางปัญญา ถ้าจะทำบริษัทเพลงต้องตอบแทนผลประโยชน์อย่างถูกต้องและเป็นธรรม ศิลปินมากมายฝ่ายที่จัดเก็บจะโทรตามให้มานับเงิน ตอบแทนผู้สร้างสรรค์ผลงาน มันคือเจตนารมณ์สำคัญที่สุด เรื่องถูกฟ้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด ต้องไปแจ้งความกัน แกรมมี่เราอยู่ในอุสาหกรรมเพลง เราเป็นพี่น้องกันช่วยเหลืออะไรได้ก็ช่วย พวกเราวงการเดียวกัน ไม่ได้เกี่ยวว่าเราค่ายไหน เราช่วยเหลือกัน ได้รับการไว้วางใจกับหลายๆค่าย เรื่องกฏหมายก็ให้ทางกฏหมายเขาชี้แจง เราให้ความสำคัญและความเคารพ เราก็ดูแลคนที่สร้างสรรค์ผลงานไปจนชั่วอายุของเขาส่งต่อให้ลูกหลานหากเขาไม่อยู่แล้ว"

ส่วนทางด้านคุณกษม อดิศัยปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นเเนล จำกัด (MPI) เผยว่า "เราต้องย้อนกลับไปตอนเริ่มต้นการจัดเก็ยไปตามค่ายต่างๆ ได้ไปพูดคุยกับมิวสิคบั๊กส์ เขาก็เห็นชอบด้วย และอนุญาติ ให้ทางmpiจัดเก็บ ผ่านมา13ปี เป็นผู้ค้าที่ดีต่อกันมาโดยตลอด มีการจ่ายสตางค์ให้กันถูกต้อง ประเด็นเกิดขึ้นเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เราชี้แจงเรื่องสัญญาตลอดเวลา วิธีการจัดเก็บของเรา เรามีเรทถูกต้องในแง่การแสดงสดด้วย เป็นอัตตราสากลที่ทั้วโลกเขาใช้กัน ทางศิลปินเราได้ไปรับงานจ้าง ศิลปินเอาเพลงไปร้องได้มีการตกลงกัน มีการถูกหักให้ผู้สร้างสรรค์ ถูกต้องครบถ้วน ในแง่ของกรณีเพลงลาบานูน อยู่ในภายใต้ของมิวสิคบั๊กส์ จ่ายเหมา ที่เซ็นสัญญาได้ตกลงสามารถใช้ได้ พอเข้ามาอยู่สังกัดแกรมมี่เราก็ไปขออนุญาติหลายเพลงหลายครั้ง ไม่น่าจะมีปัญหา เป็นสัญญาแบบเหมา 

ในกรณีฟ้องหมิ่นประมาทได้มีการแจ้งความทรัพย์สินทางปัญญาไม่เป็นความจริง และทำให้เราเสียหาย และได้กล่าวพลาดพึงแกรรมี่ไปรังแกค่ายเล็ก ซึ่งไม่เป็นความจริง ทุกสายงานเพลงคือเราเป็นพี่น้องกันหมด เราแข่งกันที่ผลงาน ผู้บริโภคเป็นคนตัดสิน เขาพูดมาไม่เป็นความจรอง ทำให้เราเสียหาย ถ้าเราอยู่เฉยๆคนก็เข้าใผิด ในสัญญาได้มีการอนุญาติให้ทำงานแสดงสดได้"

ด้านคุณ "ธเนศ วรากุลนุเคราะห์" ผู้บริหาร ROCK OPERA HOUSE และผู้ก่อตั้งมิวสิคบั๊กส์รวมถึงปั้นลาบานูนขึ้นมา เผยว่า "เรื่องเกิดขึ้นได้ไงผมไม่รู้ เพิ่งรู้เรื่องเมื่อคืนนี้เอง ไม่รู้จะบอกอะไร น้องชายผมฟ้องแกรรมี่ไม่ได้โทรไปหาเขาเลย แต่ก่อนเราเป็นคนดูแล แต่ตอนนี้น้องดูแล คนทำงานด้านพวกนี้เน้นเรื่องการทำงานเพลงมากกว่า ไม่ค่อยได้ตรวจสอบอะไร เมื่อไหร่ที่เซ็นไปแล้วก็เซ็นไปเลย เราเซ็นจริง ยินยอมจริง แกรมมี่ปฏิบัติตามนั้นหรือเปล่าผมไม่รู้ ตามนั้นแหละ ไม่ได้ติดใจ ผมวางมือมาจากมิวสิคบั๊กส์เป็น10ปีแล้ว ตอนทราบเรื่องเราก็บอกให้เมธี(ลาบานูน)ใจเย็นๆ ไม่มีอะไรนะ อันนั้นเป็นเรื่องของกฏหมาย มันไม่มีอะไร เป็นเรื่องเข้าใจผิด กับน้องชายที่เป็นคนฟ้องเรื่องงานไม่ได้คุยกัน ผมตั้งบริษัทใหม่แล้ว เรามาไม่ได้มาเพื่ออยู่ข้างแกรมมี่ เราพูดตรงนี้เพื่อเป็นตัวกลาง เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างที่ว่า คุยกันไปตรงไปตรงมา แล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม"

คุณ "วิเชียร ฤกษ์ไพศาล"รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานมิวสิค โปรดักชั่นและโปรโมชั่น เผยว่า " เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ จริงๆมันมีหลากหลายเยอะมาก เวลาที่ย้ายค่ายมา สิ่งที่มันติดมาด้วยคือเพลงที่เขาสร้างสรรค์มา เวลาไปโชว์ เขาจำเป็นต้องเล่นเพลงที่เขาสร้างมา อยู่ใต้การดูแลของเรา การเก็บสตางค์เรามีการส่งคืนให้เขา ถ้าเขาเล่นเพลงใหม่อย่างเดียวก็คงไม่พอ ผมก็ต้องถาม คุณกษม ตลอด ว่าเขาไปโชว์ได้ไม๊ ผมทำงานมา30กว่าปี มันพลาดไม่ได้ และไม่มีปัญญาไปจ่าย50ล้าน อย่างที่บอก ผมไม่ใช่มือใหม่ ของเราเป็นระบบ เป็นทีมงาน ทาง mpi ก็จัดเก็บลิขสิทธิ์ จะมาตายน้ำตื้นก็ไม่ใช่ เรามีหน้าที่นำเสนอเพลงใหม่ๆ ถ้าไม่มีการตรวจสอบคงจะร่วมงานกันไม่ได้"

อ๊อฟ พูนศักดิ์ จตุระบุล Big Ass (โปรดิวเซอร์-มือกีตาร์)  เผยว่า "ตกใจและดีใจ เราไม่น่าจะต้องมาแถลงข่าวแบบนี้ แต่ก็ดีให้คนมารับทราบ เราย้ายค่ายมา เราก็เช็กตลอดว่าเราสามารถเล่นได้ไม๊ เราไม่อยากเล่นดนตรีของเรา แต่โดนตำรวจมาจับ เรารู้สึกว่าการเก็บลิขสิทธิ์ต้องคุยมากขึ้น เราเองก็งง ๆ

กบ ขจรเดช พรมรักษา Big Ass (นักแต่งเพลง-มือกลอง) เผยว่า "ผมมองเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถ้าผิดกฎก็ข้อละล้านบาท พอเกิดการเปลี่ยนแปลงต้องดูว่าเราผิดอะไรหรือเปล่า เราต้องเช็คตัวเองก่อน และไปปรึกษากับพี่ กษม ที่ดูแลเรื่องจัดเก็บ 

ทางด้านคุณ "เมธี" วงลาบานูน ได้มีการโฟนอินในรายการ โดยให้สัมภาษณ์ว่า "ตอนนี้ผมอยู่สุโขทัย มาร่วมแถลงข่าวไม่ได้ ทราบเรื่องเมื่อหกโมงเย็นเมื่อวาน ก็ตกใจก็ไม่รู้จะพูดยังไง ความรู้สึกส่วนตัว ผมไม่เคยย้ายค่ายเลย ผมอยู่แต่กับมิวสิคบั๊กส์ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้อาจจะเป็นการเข้าใจผิดหรือเปล่า โล่งใจที่พี่เอกมาด้วยวันนี้ ผมเป็นคนแต่งเพลงเองด้วย เสียใจที่มีการฟ้องร้องมา เรื่องเก็บผมไม่ได้ซีเรียสเลย แต่คนที่สร้างสรรค์มันก็ต้องได้เหมือนกัน แบ่งให้กันเป็นเรื่องปกตินะผมว่า มีเสียกำลังใจบ้าง แต่ท้ายสุดมันก็ต้องมีทางออก แต่ไม่ได้ท้อ วงผมไม่ต้องคิดอะไรมาก เขียนเพลง นำเสนอ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เรื่องลิขสิทธิ์มันมีกติกาของมันอยู่แล้วครับ ไม่ได้ถามคนฟ้อง มีพี่เอกโทรมาหา ผมก็ดีใจพี่แกโทรมา คนที่ปั้นผมคือพี่เอก มันไม่ใช่พี่หนุ่ยคนที่ฟ้องครับ"