นายกฯขอปชช.ดูรธน.ก่อนประชามติยังมีคนบิดเบือน

นายกฯขอปชช.ดูรธน.ก่อนประชามติยังมีคนบิดเบือน

นายกฯขอปชช.ดูรธน.ก่อนประชามติยังมีคนบิดเบือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ย้ำ ปฏิรูปสำคัญต้องมีใน รธน. ขอ ประชาชนศึกษาร่าง รธน.ก่อนประชามติ ปัดห้ามแสดงคิดเห็น ยังมีคนบิดเบือน ยัน เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจช่วยประชาชน ห่วงวัยรุ่นวาเลนไทน์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า อยากให้ทุกคนลองพิจารณาว่าสิ่งที่รัฐบาล คสช. ได้ดำเนินการอะไรบ้าง ที่ทำเสร็จแล้ว หรือเริ่มทำ หรือมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไป และอะไรที่ต้องเริ่มต้นใหม่ เพราะหลังจากเข้ามาเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 มั่นใจว่า คสช. ได้นำความสงบสุขกลับคืนมา สร้างเสถียรภาพด้านความมั่นคงให้กับประเทศ ปลดล็อคในทุกเรื่องที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง กระบวนการประชาธิปไตยที่มีข้อจำกัด เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้า และนำคดีความต่าง ๆ ก็นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 

ส่วนการบริหารราชการแผ่นดินช่วงต่อมา พบมีปัญหาที่สะสมมากมาย อาทิ ปัญหางาช้าง, ปัญหาการค้ามนุษย์, ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย, ปัญหาการบินพลเรือน ตลอดจนความไม่เป็นสากลต่าง ๆ ของกฎหมาย ที่จะมีผลกระทบต่อสถานะของประเทศในเวทีโลก ทั้งการค้า การลงทุน ซึ่งต้องเร่งแก้ไข คือ ปัญหาความมั่นคง ซึ่งได้มีการบูรณาการ สร้างความเชื่อมั่นการลงทุนจากต่างประเทศ ปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ, ปัญหาความเดือนร้อนของเกษตรกร, ปัญหาในการจัดระเบียบสังคม ซึ่งทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยดี ในระดับที่เป็นที่น่าพอใจ 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาล และ คสช. ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ แม้จะเข้ามาในช่วงที่สถานการณ์ไม่ดี แต่ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งทุกเรื่องที่ยังไม่มีความพร้อมต้องรีบแก้ไขต่อ ต้องปรับปรุง ต้องสร้างความเข้มแข็ง เร่งช่วยเหลือผู้เดือดร้อน เพื่อเป็นการบรรเทาไประยะหนึ่งก่อน เพื่อเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่ง รัฐบาล, คสช. รวมทั้ง สนช., สปท., กรธ. ก็ได้ดำเนินการในทุกเรื่อง หลายเรื่องเสร็จแล้ว หลายเรื่องกำลังทำ หลายเรื่องต้องทำต่อเนื่องต่อไป  

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้วางแผนเพื่อนำพาประเทสไปสู่อนาคต เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมทางราง โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สาย ที่บางสายใกล้เสร็จและเตรียมเปิดให้บริการ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่ - เตาปูน ที่จะทดลองเดินรถเต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคมนี้ และเปิดให้บริการได้ในเดือนสิงหาคม 2559 เพื่อเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง – บางแค และบางซื่อ – ท่าพระ ก่อสร้างไปแล้ว 70% รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ตอนใต้) ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ก่อสร้างแล้ว 70 %

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาที่สำคัญ คือการขาดแคลนน้ำ ความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ซึ่งตรงนี้ยังต้องหามาตรการรองรับ ขณะที่ 14 – 18 ก.พ. ตนเองมีภารกิจเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอด อาเซียน – สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า การปฏิรูปสิ่งสำคัญคือ ทุกเรื่องต้องมีการประสานสอดคล้องกันทั้งหมด รัฐบาลได้จะทำแผนระยะยาวไว้ 20 ปี เป็นยุทธศาสตร์ชาติไว้แล้ว ซึ่งรัฐบาลนี้ได้เริ่มต้นไว้ให้ แต่หลังจากปี 60 เมื่อมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และอาจจะยังไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ หรืออาจจะมีนโยบายของตนเอง แต่ขอยืนยัน สิ่งที่ทำไว้ได้ทุ่มเททำให้กับประชาชน ขอให้บริหารราชการแผ่นดินในลักษณะที่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ เป็นไปตามแผนปฏิรูป แต่จะทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ที่จะต้องตอบสภา ตอบองค์กรตรวจสอบ รัฐบาลนี้ไม่อาจไปบังคับได้ แต่การดำเนินการแก้ปัญหาทุกอย่าง และการปฏิรูปประเทศ จำเป็นต้องมีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือมีกฎหมายลูก เพราะการปฏิรูปประเทศ อาจจะต้องทำไปอย่างต่อเนื่อง บางเรื่องอาจจบภายในปีเดียว หรือภายใน 5 ปี หรือภายใน 1 ปี หรือภายในเวลา 20 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้นก็ได้ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก 20 ปีข้างหน้า ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น วันนี้ต้องเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ดังนั้น เพื่อให้ประเทศเป็นไปตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้คือ "มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน" ประชาชนเป็นศูนย์กลาง แก้ปัญหาเรื่องความความเหลื่อมล้ำ เพิ่มความเท่าเทียมความเป็นธรรม

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่ออีกว่า ประชาชนอาจไม่มีความสุขถ้ามีรายได้น้อย หนี้สิ้นมาก ซึ่งต้องแก้ปัญหา แต่ก็ไม่ใช่แก้ทั้งหมดทีเดียว เพราะงบประมาณจำนวนมาก ต้องทำทั้งระดับบน - กลาง - ล่าง คือรวยมาก รวยน้อย ตรงกลาง มาถึงรายได้น้อย จะต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกันเป็น “ห่วงโซ่คุณค่า” ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อเข้มแข็งจากภายในประเทศ  และขยายไปต่างประเทศ ต้องร่วมมือกันทำงานกันแบบ “ประชารัฐ” การบริหารราชการแผ่นดินต้องมี ความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่าง แม่น้ำ
ทั้ง 5 สาย ได้ทำงานมากมายทุกอย่างเดินหน้าไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องการสร้างความรับรู้ เป็นเรื่องสำคัญมาก รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจ แม้ว่าจะมีการต่อต้าน บิดเบือนมากพอสมควร ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใด ยืนยัน ไม่ได้ห้ามแสดงความคิดเห็นอันบริสุทธิ์ แต่ขออย่าทำผิดกฎหมาย ตามช่องทางที่ถูกต้อง แต่หากยังมีการบิดเบือน สร้างปัญหาต่อไปผลเสียก็จะตกอยู่กับประชาชนและประเทศชาติ จึงอยากเรียกร้องให้ทุกคนรับผิดชอบร่วมกัน พร้อมกันนี้ นายกฯ ยังกล่าวเตือนว่า อย่าบิดเบือนว่าตัวเองทำความผิดแล้วจะต้องพ้นผิด โอยอ้างสิทธิมนุษยชน เสรีภาพ ความเป็นประชาธิปไตย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทุกคนก็อย่าไปเชื่อ อยากให้ประชาชนเข้าใจ ว่ารัฐบาลหวังสร้างอนาคตให้กับประเทศ วันนี้ต้องปฏิรูปเกือบทุกอย่าง จะเขียนสรุปให้ วันนี้เริ่มต้นให้แล้ว คิดว่าถ้าทุกคนต้องร่วมมือ จึงจะมีอนาคต แต่ถ้าขัดแย้งกันตั้งแต่วันนี้ ตั้งแต่ประชามติ เลือกตั้ง ทุกอย่างก็จะล้มทั้งหมด 

นอกจากนี้ ยังขอร้องสื่อมวลชน อย่าเสนอข่าวที่มีแต่ความรุนแรงมากนัก เพราะไม่ทำให้เกิดประโยชน์กับใครทั้งสิ้น ทำประเทศชาติเสียหาย อย่ามุ่งเน้นจะขายหนังสืออย่างเดียว 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรื่องร่างรัฐธรรมนูญเป็นประเด็นการเมืองตลอดเวลา โดยเฉพาะ 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนวุ่นวายไปหมด อยากปล่อยให้ผู้เกี่ยวข้องทำงานไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนประชาชนก็ควรไปศึกษาว่าจะลงมติกันอย่างไร โดยต้องนึกถึงปัญหาประเทศเป็นหลัก เพราะฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง อีกฝ่ายหนึ่งอยากปฏิรูป ฝ่ายหนึ่งไม่สนใจ ซึ่งประชาธิปไตยอย่างเดียว คงทำไม่ได้ทั้งหมดดังนั้น ต้องมามองว่า อะไรสากล อะไรที่ต้องเปลี่ยนผ่าน มีกลไกอะไร ซึ่งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) 

จึงออกแบบรัฐธรรมนูญมาแบบนั้น เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่เกิดเกิดขึ้น ซึ่งถ้าประชาชนคิดเองไม่ได้ ไม่ทำความเข้าใจ และให้บรรดานักเคลื่อนไหว หรือนักการเมืองที่ไม่ดีมาชี้นำ ประเทศก็จะไปไหนไม่ได้ ไม่หลุดพ้นกับดักประชาธิปไตย กับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง กับดักความล้มเหลว ซึ่ง รัฐบาล คสช. แม่น้ำ 5 สาย ก็แก้ไม่ได้ ถ้าไม่ช่วยกันวันนี้ ประชาชน 70 ล้าน ต้องช่วยกัน ทำโดยยึดประเทศมาก่อน 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ทิ้งท้ายว่า วันที่ 14 – 18 ก.พ. จะเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอด อาเซียน – สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ณ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ นั้น จะนำมาเล่าให้ฟังต่อไป และไม่อยากให้มีการขัดแย้งในต่างประเทศ ขอบคุณทุกคนที่จะไปรับให้กำลังใจที่โน่น ขอให้อยู่ในความสงบ ยื่นยันทำเพื่อทุกคน เพื่อประเทศชาติ ใครไม่ทำก็ต้องมีผลกรรมของเขาต่อไป เพราะประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก ขอให้ทุกคนมีความสุข ผ่านวันตรุษจีนแล้ว สุดสัปดาห์นี้เป็น “วันแห่งความรัก” เป็นห่วงนะ บรรดาวัยรุ่น คู่รักต่าง ๆ ระมัดระวังตัวเอง ไปเที่ยว ผู้หญิงต้องระวังตัว มีคุณค่า ผู้ชายก็ให้เกียรติผู้หญิงบ้าง อย่าเอารัดเอาเปรียบ ทำให้ประเพณีไทยเสียหาย ขอขอบคุณทุกคน ขอให้ “รู้ รัก สามัคคี” สำเร็จ ปลอดภัย มีความสุข 



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook