อลงกรณ์ ยัน เคารพอำนาจ กรธ. ปรับแก้ รธน.
'อลงกรณ์ พลบุตร' ยัน เคารพอำนาจหน้าที่ กรธ. ในการปรับแก้ร่าง รธน. ย้ำ สปท. ไม่แทรกแซง หรือ กดดัน เพราะไม่มีวาระซ่อนเร้น แนะดูโจทย์ 6 ข้อประกอบการพิจารณาร่างฯ
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. คนที่ 1 กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ สปท. จะประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อเสนอแนะในการเพิ่มเติมปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญ ต่อ กรธ. โดยเฉพาะการเสนอให้แยกหมวดว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ เป็นบทบัญญัติต่างหาก เพราะการปฏิรูปประเทศ ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มิใช่เฉพาะกิจจึงสมควรอยู่ในส่วนรัฐธรรมนูญถาวร มิใช่เขียนแทรกไว้ในบทเฉพาะกาล นอกจากนั้น ข้อเสนอของ สปท. จะเน้นความครอบคลุมของการปฏิรูป 11 ด้านตามบทบัญญัติมาตรา 27 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 และการบัญญัติให้มียุทธศาสตร์ชาติอยู่ในรัฐธรรมนูญด้วย
ซึ่ง สปท. เข้าใจบทบาทอำนาจหน้าที่ของ กรธ. และจะไม่เข้าไปแทรกแซง หรือกดดัน กรธ. แต่จะเป็นการปรึกษาหารือด้วยเหตุด้วยผลเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ เพราะ สปท. ไม่มีวาระซ่อนเร้นแต่อย่างใด
'อลงกรณ์' แนะดูโจทย์6ข้อประกอบการพิจารณาร่างฯ
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. คนที่ 1 กล่าวว่า จากการติดตามการวิพากษ์วิจารณ์ของภาคส่วนต่าง ๆ ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อกรธ. ในการพิจารณาทบทวนปรับปรุงร่าง รธน. แต่อย่างไรก็ตาม ตนเองเห็นว่าทุกภาคส่วนควรนำโจทย์ใหญ่ 6 ข้อของประเทศ มาประกอบการพิจารณาร่าง รธน. ด้วย ได้แก่ 1. การคอร์รัปชั่น 2. ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม 3. การเลือกตั้งที่ไม่สุจริต 4. ปัญหาประชาธิปไตยและความแตกแยก 5. ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ และ 2 มาตรฐาน 6. ปัญหาระบบการบริหารราชการแผ่นดิน และการบริการประชาชนอย่างเสมอภาครวดเร็วทั่วถึง และการยึดหลักการ และทฤษฎีในการพิจารณาเป็นสิทธิเสรีภาพของแต่ละคน แต่ละองค์กร ซึ่งหากนำข้อเท็จจริงที่เป็นปัญหาใหญ่ ๆ ของประเทศ ทั้งในอดีตและปัจจุบันมาพิจารณาอย่างจริงจัง เพื่อข้อเสนอแนะที่จะช่วยให้การออกแบบร่าง รธน. สามารถตอบโจทย์ใหญ่ ๆ ได้ ก็จะยังเป็นประโยชน์สำหรับอนาคตของประเทศ ยิ่งข้อเสนอแนะใด มีหลักการ มีเหตุผล สามารถถอดสลักปัญหาสำคัญ ๆ ได้ ก็เชื่อว่า กรธ. จะปรับปรุงแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอแนะจากภาคีภาคส่วนใดก็ตาม