2 หนุ่มเยาวชน บุกคฤหาสถ์หรู จับยายอายุ 61 เรียกค่าไถ่ 20 ล้าน

2 หนุ่มเยาวชน บุกคฤหาสถ์หรู จับยายอายุ 61 เรียกค่าไถ่ 20 ล้าน

2 หนุ่มเยาวชน บุกคฤหาสถ์หรู จับยายอายุ 61 เรียกค่าไถ่ 20 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

2 เยาวชนบุกคฤหาสถ์หรูเชียงใหม่ ชิงทรัพย์จับยาย 61 ปี เรียกค่าไถ่ 20 ล้านบาท แถมฉกเซิรฟเวอร์วงจรปิดทิ้ง สารภาพคิดสั้นทั้งที่อีก 6 วันจะเรียนจบ    

(19 ก.พ.) พล.ต.ต.มนตรี  สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวนนำตัวผู้ต้องหาเยาวชน นายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ มูลค่า 30 ล้านบาท บนพื้นที่ 2 ไร่ ที่กำลังสร้างใกล้จะเสร็จ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านภรรยานักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวอังกฤษ แต่ให้ทางแม่ภรรยาคนไทย มานอนเฝ้าตามลำพัง

นายเอ พร้อมเพื่อนที่เป็นเยาวชนชายอีก 1 คน  ร่วมกันก่อเหตุปีนรั่วเข้าไปในบ้านพักเพื่อชิงทรัพย์  และจับ นางเสงี่ยม อายุ 61 ปี ผู้เสียหายที่นอนอยู่บนห้องชั้น 2 มัดก่อนจะเขียนจดหมายเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 20 ล้านบาท จากญาติของนางเสงี่ยม เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
 
โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนผ่านบ้านหลังดังกล่าวหลายครั้ง  ก่อนจะตัดสินใจลงมือก่อเหตุโดยแอบปีนรั้วหลังบ้าน พร้อมกับใช้มือบิดกล้องวงจรปิดไม่ให้ส่องเห็นพฤติกรรม  หลังจากนั้นจึงปีนรั่วเข้าไปในบ้านพักแล้วและปีนเข้าไปตามช่องระบายอากาศของห้องน้ำชั้นล่างเข้าไปภายในตัวบ้าน พร้อมกับเข้าไปรื้อค้นเพื่อหาเซิฟเวอร์ที่ควบคุมกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในบ้านและรอบบ้านกว่า 10 ตัว โดยอาศัยความรู้ด้านเทคนิคที่เรียนมาถอดเซิฟเวอร์ออก  

จากนั้นจึงตรงไปที่ตู้เก็บกุญแจแล้วนำกุญแจไปเปิดรื้อค้นภายในห้องต่างๆ ซึ่งมีกว่า 7 ห้อง  พร้อมนำมีดและกรรไกรที่หยิบจากห้องครัวภายในบ้านเป็นอาวุธ กระทั่งมาถึงห้องนอนชั้น 2 ที่ นางเสงี่ยม นอนหลับพักอยู่ นายเอ ได้เปิดเข้าไปภายในห้อง พร้อมจับนางเสงี่ยมมัด ก่อนจะพูดว่า ไม่ต้องการทำร้ายร่างกาย  ต้องการเพียงทรัพย์สินเท่านั้น

ด้วยความกลัวนางเสงี่ยมจึงบอกที่เก็บทรัพย์สิน อยู่บนลิ้นชักข้างเตียง  ซึ่งภายในมีทองรูปพรรณ น้ำหนักกว่า 9 บาท และเงินสดอีก 12,000 บาท  หลังได้ทรัพย์สินทั้งหมดนายเอและเพื่อน ยังโทรศัพท์ไปเรียกค่าไถ่ นางเสงี่ยมกับญาติ  โดยแจ้งหมายเลขบัญชีของนายเอ เพื่อให้ญาติโอนเงินเข้ามาภายใน 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายเอและเพื่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สิน และนำเซิฟเวอร์ที่เก็บบันทึกภาพกล้องวงจรปิดไปทิ้งในป่าละเมาะ ทางขึ้นวัดพระธาตุดอยคำ

ต่อมาญาติของ นางเสงี่ยม ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ก่อนที่ตำรวจและลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานรอยนิ้วมือ  ขณะที่ชุดสืบสวนได้ตามแกะรอยผู้ต้องหาจากหมายเลขบัญชีที่แจ้งให้ญาติโอนเงิน กระทั่งทราบหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ต้องหาและในช่วงค่ำวันที่ 18 กุมภาพันธ์ก็สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ ที่บ้านพัก ก่อนนำตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง และโทรศัพท์ไปเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 20 ล้านบาท  เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน  โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางเข้า  หรือเข้าช่องทางซึ่งผู้เป็นใจเปิดไว้ให้ โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด เพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พันการจับกุม หรือรับของโจร

นายเอ กล่าวว่า เหตุที่ตัดสินใจก่อเหตุเพราะความอยากได้ทรัพย์สินเท่านั้น พร้อมฝากเตือนเพื่อนวัยรุ่นว่า  สิ่งที่ทำไม่คุ้มค่า และยิ่งใกล้เรียนจบยิ่งไม่ควรกระทำผิด โดยตนเองเหลือเวลาอีกเพียง 6 วันก็จะเรียนจบแล้ว ส่วนที่เลือกลงมือก่อเหตุด้วยวิธีนี้และการเรียกค่าไถ่ก็เลียนแบบจากภาพยนตร์หลายเรื่องที่เคยดูมา

ทั้งนี้หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์และเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ลูกสาวของนางเสงี่ยมที่มีครอบครัวอยู่ที่ประเทศอังกฤษ  ได้มอบเงินรางวัลเป็นสินน้ำใจให้ชุดสื่บสวนกว่า 100,000 บาท โดยได้โอนเงินมาให้ญาติมอบให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook