ออสเตรเลียขาดดุลงบประมาณครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

รัฐบาลออสเตรเลียเผยจัดเก็บภาษีได้ลดลงเพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้ขาดดุลงบประมาณ 115,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2.64 ล้านล้านบาท) เป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

นายกรัฐมนตรี เควิน รัดด์ ของออสเตรเลีย แถลงข่าวว่า รัฐบาลกำลังรับมือกับเศรษฐกิจถดถอยที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบ 75 ปี พร้อมส่งสัญญาณว่าจะร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า มาตรการใหม่อาจไม่สามารถหยุดยั้งอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้

ด้าน นายเวยน์ สวอน รัฐมนตรีคลัง สรุปสภาวะเศรษฐกิจให้คณะรัฐมนตรีฟังในวันนี้ พร้อมหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ คาดว่ารัฐบาลจะประกาศได้ในอีกไม่กี่วัน เขาเผยกับบรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลียว่า เดิมคาดว่างบประมาณปีนี้จะเกินดุลเล็กน้อย หลังจากรัฐบาลอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 36,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 828,000 ล้านบาท) เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน แต่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยขณะนี้ทำให้จะต้องขาดดุลงบประมาณชั่วคราว เพราะรายได้จากการจัดเก็บภาษีนิติบุคคลจะลดลง 50,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.15 ล้านล้านบาท) ในช่วง 4 ปีข้างหน้า เนื่องจากตลาดส่งออกรายใหญ่ของออสเตรเลีย อย่างจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐ เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างมาก ขณะที่รายได้จากการจัดเก็บภาษีส่วนบุคคลและภาษีอื่นๆ ก็จะลดลงเช่นกัน