เสื้อแดง จัดวาเลนไทน์ขายบัตร 1พันระดมทุนสู้ศึก กักตุนเสบียงอาจชุมนุมยืดเยื้อ

เสื้อแดง จัดวาเลนไทน์ขายบัตร 1พันระดมทุนสู้ศึก กักตุนเสบียงอาจชุมนุมยืดเยื้อ

เสื้อแดง จัดวาเลนไทน์ขายบัตร 1พันระดมทุนสู้ศึก กักตุนเสบียงอาจชุมนุมยืดเยื้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลุ่มเสื้อแดงจัดงาน 14 ก.พ. "วันแห่งความรักประชาธิปไตย" ขายบัตรละ 1 พัน ระดมทุนสังสรรค์ส่งท้ายก่อนออกรบเพื่อสะสมเสบียงก่อนออกศึกอาจยาวนาน ขีดเส้นตายเคลื่อนไปทำเนียบอีกแน่15 ก.พ. หากรบ.ไม่ทำตามข้อเสนอ นายกฯไม่กังวลกลับไปวังวนเก่าอ้างคนละรัฐบาล "เทพเทือก" บอกยุบสภาไม่ได้การแก้ไขปัญหาบ้านเมืองจะสะดุด

แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง เตรียมวางยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนกดดันรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถ้าไม่ได้รับการตอบรับในเงื่อนไข 4 ข้อ ที่เรียกร้อง คือ 1.ให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 2.ให้ดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จากกรณียึดทำเนียรัฐบาล ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง 3.ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 โดยใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ คปพร. และ 4.ให้นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยุบสภา โดยให้เวลาดำเนินการ 15 วัน นับตั้งแต่คืนวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา หลังนำผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 30,000 คน จากสนามหลวงบุกล้อมหน้าทำเนียบรัฐบาลพร้อมประกาศ 4 เงื่อนไขดังกล่าว

ทั้งนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะแกนนำ นปช. และผู้จัดรายการความจริงวันนี้ ทางดี สเตชั่น ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ว่า ในช่วงระยะเวลา 15 วันนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดำเนินการตาม 4 ข้อเรียกร้อง แต่หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของคนเสื้อแดงที่จะดำเนินการต่อไป ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ คนเสื้อแดงจะจัดงาน "วันแห่งความรักประชาธิปไตย" ที่วัดเวฬุวนาราม (วัดไผ่เขียว) เขตดอนเมือง เพื่อเป็นการสังสรรค์ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะออกรบ โดยงานดังกล่าวจะประกาศถึงยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนของคนเสื้อแดงว่าจะมียุทธวิธีอย่างไร นอกจากนี้ ยังถือเป็นการจัดงานระดมทุนเพื่อสะสมเสบียงกรังก่อนออกศึกที่อาจจะยาวนานด้วย

"วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันสุดท้ายที่เราสนุกสนานเฮฮากัน โดยเปิดขายบัตรที่นั่งละ 1,000 บาท จากนั้น จะเดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบ โดยเมื่อครบ 15 วันคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมกันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะเป็นวันไหนนั้นยังไม่แน่ชัด แต่กำหนดไว้ที่วันอังคารใดอังคารหนึ่งหลังจากครบ 15 วันไปแล้ว โดยจะนัดรวมตัวกันที่ท้องสนามหลวง ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล ภายในเวลา 11.00 น." นายจตุพรกล่าว

วันเดียวกัน ที่โรงแรมพลาซา แอทธินี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกลุ่ม นปช.ประกาศชุมนุมใหญ่และยืดเยื้อในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพื่อทวงข้อเรียกร้อง 4 ข้อ จากรัฐบาลว่า ถ้าเคลื่อนไหวภายใต้กรอบของกฎหมายเป็นสิทธิที่ทำได้ ไม่เป็นปัญหา ก่อนหน้านี้ ก็มีหลายกลุ่มชุมนุมยืดเยื้อ ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าสถานการณ์จะกลับมาสู่วังวนเก่าๆ เหมือนที่กลุ่มพันธมิตรทำหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะแนวทางการทำงานของรัฐบาลไม่เหมือนกัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังคงกล่าวย้ำถึงการพิจารณาข้อเสนอของกลุ่ม นปช. ว่า บางเรื่องรัฐบาลกำลังทำอยู่ เช่น เรื่องการดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย แต่บางเรื่องรัฐบาลทำไม่ได้ เช่น การยุบสภาไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะกำลังแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอยู่ จะให้สะดุดไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มเสื้อแดง ตั้งข้อสังเกตว่าร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พ.ศ... จะบังคับให้มีผลย้อนหลังทำให้โทษที่ดำเนินกับกลุ่มพันธมิตรมีโทษปรับแค่ 500 บาท เท่านั้น นายสุเทพกล่าวว่า กฎหมายยังไม่ตราออกมา ซึ่งถ้ากฎหมายออกมาก็ไม่มีผลย้อนหลัง ส่วนจะไปเจรจากับกลุ่ม นปช.หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า "เขาคงไม่อยากคุยกับผม" เมื่อถามว่า รัฐบาลประมาทกลุ่ม นปช.เกินไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้ประมาท

นายสุเทพ ยังกล่าวปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ปลดนายกษิตเนื่องจากมีประวัติมัวหมองมีส่วนร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรยึดทำเนียบรัฐบาล และยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า คำว่าประวัติมัวหมอง สำหรับคนที่มีคุณสมบัติที่จะเป็นรัฐมนตรี หมายถึงความมัวหมองในการปฏิบัติราชการ แต่นายกษิตไม่มีความมัวหมองในส่วนนี้ เพราะก่อนขึ้นเวทีพันธมิตรหรือเวทีอะไรก็ตาม ก็พูดจากันไปตามความเชื่อตามความคิดของแต่ละคน ตนก่อนที่จะมาเป็น ส.ส. ก็ขึ้นเวทีปราศรัยมามากมาย ซึ่งรัฐบาลไม่นำประเด็นนี้มาพิจารณาคุณสมบัติของคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี

ที่รัฐสภา นพ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า อยากให้แกนนำพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. ทบทวนและยุติการเคลื่อนไหว เพราะหลังจากที่ได้ทำหนังสือถึงศาลโลก สหประชาชาติ สหพันธ์รัฐสภาระหว่างประเทศ รวมถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. ที่ทำหนังสือถึงเอกอัครราชทูตอาเซียน 9 ประเทศ เพื่อไม่ให้มาร่วมประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ทำให้ทั้งหมดเป็นคำถามที่สื่อต่างชาติมีต่อไทย ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีไปประชุมที่เมืองดาวอส สหพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ และการกระทำดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้องค์กรนอกประเทศเข้ามาแทรกแซงการเมืองของไทย หากพรรคเพื่อไทยมีข้อสงสัยเรื่องของความชอบธรรมของรัฐบาล องค์กรอิสระภายในประเทศไม่ว่าจะเป็นศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ตรวจสอบอยู่แล้ว

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า การสร้างความเชื่อมั่นจากต่างชาติเป็นเรื่องสำคัญ การชุมนุมของ นปช.แม้ที่ผ่านมาจะชุมนุมอย่างสงบ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตั้งใจชุมนุมในวันที่นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมอยู่กับผู้นำในเวทีโลก ทำให้การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนต่างชาติ ต้องเสนอข่าวการชุมนุมในไทยไปด้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในประเทศไทย ทั้งนี้ เห็นว่าพรรคเพื่อไทยควรมีบทบาทช่วยคลี่คลายวิกฤตทางการเมือง เพราะเงื่อนไขของกลุ่ม นปช.ที่เสนอมา 4 ข้อ เป็นการเสนอคำขาด แต่พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นแนวทางเจรจา จึงหวังว่า ช่วง 15 วัน ที่ นปช.ขีดเส้นตายรัฐบาลนั้น จะเป็นโอกาสที่การเจรจาหารือเริ่มต้นขึ้น ซึ่งทราบมาว่ารัฐบาลพยายามร้องขอให้กลุ่มเสื้อแดงส่งแกนนำมาเจรจาแต่ได้รับการปฏิเสธมาตลอด เช่นเดียวกับที่วิปฝ่ายค้านก็ปฏิเสธเช่นเดียวกัน

"พรรคประชาธิปัตย์อยากให้แกนนำพรรคเพื่อไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มเสื้อแดงให้ช่วยเปิดทางมีการพูดคุยถึงข้อห่วงใยต่างๆ กับรัฐบาล เพราะมิเช่นนั้น จะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายหากมีการชุมนุมในช่วงประชุมอาเซียนซัมมิทปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้" น.พ.บุรณัชย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ว่า นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานเปิดงานนวัตกรรมท้องถิ่นไทยครั้งที่ 1 ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วทั้งประเทศ ในการแสดงวิสัยทัศน์และร่วมกันกำหนดแนว นโยบายในการปกครองท้องถิ่น ท่ามกลางกลุ่มคนเสื้อแดงใน จ.ขอนแก่น ที่มาชูเท้าตบและติดป้ายประกาศปักหลักชุมนุมต่อต้านการทำงานของรัฐบาล พร้อมขับไล่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.ขอนแก่น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่ จ.ขอนแก่น ได้มีการขึ้นป้ายประกาศต่อว่ารัฐบาล ถึงแนวนโยบายที่ลอกเลียนแบบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนโยบาย ส.ป.ก. นอกจากนี้ ยังมีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์กระแสการเตรียมปรับคณะรัฐมนตรีที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีถูกกลุ่มคนเสื้อแดงรวมตัวขับไล่ระหว่างลงพื้นที่ จ.ขอนแก่นว่า ถือเป็นสีสันทางการเมืองของประชาชน ที่มีความคิดไม่ตรงกัน ตนไม่หนักใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นการปฏิบัติภารกิจตามความไว้วางใจของพี่น้องประชาชนและต้องการทำงานเพื่อประเทศและแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนต้องเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป

นายถาวร กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกคนเหมาะสมที่จะนั่งทำงานทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นแกนนำจากพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคร่วมรัฐบาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook