ชีวิตนี้สละเพื่อชาติ "ชาโน" ในบทบาททหารชายแดนภาคใต้

ชีวิตนี้สละเพื่อชาติ "ชาโน" ในบทบาททหารชายแดนภาคใต้

ชีวิตนี้สละเพื่อชาติ  "ชาโน"  ในบทบาททหารชายแดนภาคใต้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผมชอบการเป็นข้าราชการตั้งแต่เด็กเพราะข่าวที่ออกประจำที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และก็มีทหารปฏิบัติหน้าที่คอยดูแลปกป้องประชาชนปกป้องแผ่นดินไทย มันก็ทำให้ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ทำอาชีพอันทรงเกียรติโดย ชาโน แพมเบอร์เกอร์

กลายเป็นข่าวฮือฮาเมื่อช่วงปีก่อนเมื่อนักแสดงหนุ่มลุกเสี้ยว ไทย-ออสเตรเลีย-เยอรมัน วัย 19 ปี "ชาโน แพมเบอร์เกอร์" ขอวางอนาคตในวงการบันเทิงชั่วคราวและไปสมัครเป็นทหารพรานและขอร่วมเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ อ.เบตง จ.ยะลา และเมื่อเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งปีหนุ่มชาโนกลับมารับบท "หวาย" เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีปัญหามาจากทางครอบครัวพ่อแม่แยกทางกันจนกลายเป็นเด็กเก็บกดที่อารมณ์ร้ายในละคร "วัยแสบสาแหรกขาด" ทางช่อง3

Sanook! News จึงได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับหนุ่มชาโนอีกครั้งถึงเรื่องราวการเป็นทหารพรานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่าหนึ่งปีกับการทำหน้าปกป้องด้ามขวานไทย หนุ่มชาโนต้องผ่านความเสี่ยงนาทีชีวิตกับเหตุการณ์ใดบ้าง และการไปรับใช้ชาติเขาภาคภูมิใจแค่ไหนเขาพร้อมแล้วกับการเปิดใจครั้งนี้

ข้าราชการแผ่นดินคือความสุข "ชาโน"

"ก่อนหน้านี้ผมได้ไปร่วมงานกับทางช่องสามไปในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และได้ไปจัดกิจกรรมตอนนั้นมันเป็นช่วงที่ว่าเหตุการณ์ไม่สงบ ทางช่องสามก็ไปจัดกิจกรรมให้ขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ที่นั่น ในช่วงนั้นแหละครับภาพและเหตุการณ์บรรยากาศต่างๆ ทำให้ผมได้เห็นว่าเขาอยู่กันได้แต่คือการสัญจรไปมาการดำรงชีวิตเขาอยู่ไม่ได้อยู่เหมือนที่พวกเราอยู่ พวกเขาอยู่ในแบบว่าจะต้องเสี่ยงต้องมีทหารคอยดูแลคอยคุ้มกัน ผมก็เลยอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมได้เข้าไปได้ช่วยเหลือเพราะว่าเห็นพี่ๆ เขาปฏิบัติหน้าที่ โอเคเขาปฏิบัติหน้าที่อย่างเสี่ยงภัยลำบาก แต่ในมุมมองของผมคือไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตามเราจะไปตอนไหนก็ไม่รู้แต่ถ้าเกิดว่าผมจะไปแล้วไปในแบบได้เป็นส่วนหนึ่งผมว่าผมมีความสุขมากกว่า"

หนุ่มชาโนเริ่มเล่าถึงเหตุผลการตัดสินใจสมัครไปเป็นทหารพรานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตรายแต่นั้นก็คือความสุขและความชอบในงานราชการของผู้ชายคนนี้

"มีคนพูดไว้เยอะมากครับ และผมก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงแต่อย่างที่ผมบอกไปก็คือไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนถ้าถึงเวลาที่เราจะต้องไปก็ต้องไป แต่ในการไปคุณจะเลือกไปยังไงความเสี่ยงความกลัวก็เลยไม่ได้เป็นอุปสรรคกับผม ความกลัวเรามีแต่ต้องเป็นความกลัวที่ไม่ประมาท ไม่ประมาทในการรักษาชีวิตตัวเองและชีวิตคนอื่นด้วยและโดยปกติส่วนตัวผมๆ ชอบงานทางด้านนี้อยู่แล้วมันก็เลยเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจสมัครเป็นทหาร

ผมชอบการเป็นข้าราชการตั้งแต่เด็กครับ เพราะข่าวที่ออกประจำในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข่าวที่ออกมามีคนเสียชีวิตและก็มีทหารปฏิบัติหน้าที่คอยดูแลปกป้องดูแลรักษาประชาชนอยู่ที่นั่น ปกป้องแผ่นดินไทยและมันก็ทำให้ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ทำอาชีพอันทรงเกียรติ ผมว่าการเป็นทหารมันไม่ได้น่ากลัวมันไม่ได้แย่สำหรับผมมันคืออาชีพที่น่าภูมิใจมากถ้าได้เป็นครับ"

หลังจากตัดสินใจสมัครและสอบเป็นทหารพราน กรมทหารพราน 33 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จ.พิษณุโลก หนุ่มชาโนเล่าว่าตนเองนั้นก็ได้ลงไปฝึกที่ชายแดนภาคใต้และปฏิบัติหน้าที่ทหารพรานอย่างเต็มตัว

"หลังจากสมัครและก็สอบเสร็จแล้วผมก็ลงไปฝึกที่ชายแดนภาคใต้และก็ปฏิบัติหน้าที่ การใช้ชีวิตเป็นทหารพรานที่นั้นถ้าเราเป็นแค่คนที่เห็นภาพอย่างเดียวไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่มันก็จะดูแบบว่าฝึกโหด แต่ถ้าเข้าไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ ความคิดคุณจะเปลี่ยนไปเลยทันที มันจะสอนให้คุณมีประสบการณ์มีทักษะชีวิตเพิ่มขึ้น และก็ประสบการณ์ต่างๆ หลังเราจากผ่านตรงนั้นมาแล้วเรามานึกย้อนอีกครั้งมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด ผมกลับมีความสุขด้วยซ้ำเวลาที่เรานึกภาพเหล่านั้นว่าเราได้ผ่านช่วงชีวิตนี้มานะรู้สึกภูมิใจ"

กิจวัตรประจำวันชีวิตทหารของ "ชาโน"

"ตื่นตีสี่ก็แล้วแต่บางทีรอเสียงนกหวีดอย่างเดียว ตื่นมาก็จะไปกายบริหารออกกำลังกายช่วงเช้ายืดเส้นยืดสายแล้วก็ไปวิ่งช่วงเช้าก็แล้วแต่ที่ครูฝึกเขาจะฝึกให้ หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่การฝึกในเรื่องของยุทธวิธีต่างๆ และก็ในส่วนของการใช้อาวุธปืนและก็ให้ความรู้เกี่ยวกับยุทธโทอุปกรณ์ต่างๆ ก็ฝึกในตามหลักสูตรของเขา การกินอยู่ผมยอมรับนะว่าผมไม่เคยนอนกลางดินกินกลางทราย เหมือนว่าเราได้ฝึกการดำรงชีวิตด้วยตนเอง ผมยอมรับว่าถ้าผมไม่ได้มาทางทหารถ้าสมมติวันนึงชีวิตเกิดอะไรขึ้นมาเราจะใช้ชีวิตอย่างไร แต่นี้เราได้วิชาทหารเกิดอะไรขึ้นมาเราก็ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสบายมันก็ไม่ต้องมานั่งเครียดลำบากเราจะรู้ว่าเราจะใช้ชีวิตครับ"

อย่างไรก็ดีแม้ว่า "ชาโน" จะได้รับใช้ชาติเป็นทหารสมดั่งใจแต่การไปเป็นทหารพรานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะได้สัมผัสเหตุการณ์ความสงบ

"ก็มีครับ แต่ผมก็ไม่อยากระบุหรือพูดถึงมากครับ แต่ผมเล่าได้แค่ว่าถ้าเป็นครั้งแรกของการเจอเหตุการณ์ไปสงบก็มีความตกใจหัวใจเต้นเร็วจะรนรานทำไรไม่ถูกว่ามันเกิดขึ้นแล้วนะเสร็จแล้วพอผ่านไปซักพักมันก็จะเริ่มชินไปเองแต่ในเหตุการณ์ครั้งแรกทุกคนตกใจทั้งนั้นแหละครับ แต่ความทหารไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรยามไหนก็ต้องสามารถช่วยเหลือได้ตลอดเวลาไม่จำเป็นต้องเป็นเวลาปฏิบัติหน้าที่อย่างเดียว เสี้ยววินาทีชีวิตที่มันจะเกิดขึ้นกับเราเอาแค่ว่าออกไปนอกกรมก็คิดไว้แล้วถ้าเราจะไปก็ต้องไป ความตายไม่ได้กลัวเพราะไม่มีใครอยู่ยาวค้ำฟ้าซักวันนึงเราก็ต้องไปแต่เราเลือกที่จะไปอย่างไรผมโอเคในทางที่ผมเลือกสิ่งๆ นี้ ผมภูมิใจทำแล้วมีความสุขครับ"

หนุ่มชาโนยังเสริมต่อไปอีกว่าแม้การรับราชการทหารและต้องเสียสละแต่ทหารก็มักจะไม่ได้ถูกพูดถึงหรือเชิดชูความดีแต่ตนก็ยังรู้สึกภูมิใจ

"โดยส่วนตัวผมถ้าผมไม่ได้ทำอาชีพนักแสดงแล้วเป็นแค่ทหารแต่ต้องมาจากไปแล้วไม่มีใครพูดถึงผมก็ยังรู้สึกภูมิใจนะเพราะว่าการจากไปของเรา เราได้ทำสิ่งนี้แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นแต่สิ่งที่เราทำก็เพื่อปกป้องแผ่นดินทำความดีความงามมันก็จะเป็นความดีที่ยังคงอยู่แม้ว่าร่างกายหรือตัวเราจะจากไปแล้วความภาคภูมิใจมันก็จะไปด้วย เราไม่จำเป็นต้องแบบว่าต้องให้ใครรู้งานเราคือการปิดทองหลังพระ การทำดีของเราไม่จำเป็นต้องไปประกาศบอกให้ใครรู้ครับ

ในชีวิตนึงที่ได้มาเป็นทหารปกป้องแผ่นดินปกป้องประชาชนความหมายความรู้สึกมันเยอะมากบางทีผมก็บรรยายออกมาไม่ถูกและผมก็อยากจะฝากบอกว่าทหารไม่จำเป็นต้องมาชื่นชมผมคนเดียวเพราะผมเป็นนักแสดงด้วย ผมอยากให้ชื่นชมทหารทุกนายไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือทุกพื้นที่เขาแบบว่าเสียสละหมดอยากให้ชื่นชมทุกคนเท่าเทียมกันหมดเพราะเขาเสียสละที่จะไปทำหน้าที่นี้ครับ"

ความไม่สงบที่แฝง "ความสุข" ของชีวิตทหาร

"ความสุขของผมได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่แล้วเห็นประชาชนมีความสุขเหมือนแบบว่าเราทำให้เขารู้สึกปลอดภัยได้และรอยยิ้มที่เขาส่งกลับมาให้เรามันแค่นั้นจริงๆ ทำให้เรามีความสุขได้จริงๆ และไม่คิดว่าแค่รอยยิ้มของเขาเรามาปฏิบัติหน้าที่แล้วรอยยิ้มของเขาที่เขาตอบให้กลับมา สิ่งตอบแทนที่เขาให้มาเป็นรอยยิ้มมันมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด มีการพูดคุยถามไถ่เป็นกันเองและด้วยความที่เขารู้ว่าผมเป็นนักแสดงก็จะมีเข้ามาหาผมเยอะ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็ให้มีความระมัดระวังด้วย ในการที่มีนักแสดงมาเป็นทหารก็จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ และการเป็นนักแสดงจะได้สิทธิพิเศษกว่าคนอื่นอันนี้ผมบอกเลยว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกอย่างการฝึกเหมือนกันเท่าเทียมกันหมดเพื่อที่จะฝึกออกมาให้เรามีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าและการดูแลประชาชน"

เรียกว่าพอได้ฟังชีวิตของลูกชายที่ชื่อ "ชาโน" กับการเสียสละไปเป็นทหารรับใช้ชาติแล้ว ทำให้เราต้องกลับมานั่งคิดว่าแล้ววันนี้ที่พวกเราอยู่กันอย่างสบายมีพี่น้องทหารคอยปกป้องแผ่นดินให้อยู่อย่างมีความสุขนั้นแล้วเราได้ทำอะไรเพื่อประเทศชาติหรือยัง?

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ ชีวิตนี้สละเพื่อชาติ "ชาโน" ในบทบาททหารชายแดนภาคใต้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook