หนุ่มขับเบนซ์ปัดเมา รอผลตรวจซองยา อสส.ยันดูคดีใกล้ชิด

หนุ่มขับเบนซ์ปัดเมา รอผลตรวจซองยา อสส.ยันดูคดีใกล้ชิด

หนุ่มขับเบนซ์ปัดเมา รอผลตรวจซองยา อสส.ยันดูคดีใกล้ชิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โฆษก ตร. ยัน ผบ.ตร. ไม่นิ่งนอนใจคดีเบนซ์ซิ่งชนฟอร์ด เผยบ่ายวันนี้ทราบผลชนิดยาในรถเบนซ์ แจงเจ้าหน้าที่ไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือจน ด้าน "อัยการสูงสุด" ระบุ พร้อมดูแลคดี ใกล้ชิ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่นิ่งนอนใจและได้สั่งการให้ดำเนินคดี นายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหาขับรถเบนซ์ชนรถยนต์ฟอร์ดทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย อย่างตรงไปตรงมา ไม่ละเว้นในทุกข้อหาที่มีพยานหลักฐานสามารถเอาผิดได้เชื่อว่าคดีนี้ตำรวจไม่กดดันและยังไม่พบการวิ่งเต้นเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา

ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาขับรถยนต์ในขณะมึนเมาหรือหย่อนความสามารถในการขับขี่ ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ส่วนข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงานกรณีไม่ยินยอมเจาะเลือดความเมาอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน และในช่วงบ่ายวันนี้จะทราบผลชนิดของยาที่พบในรถเบนซ์ของ นายเจนภพ จากโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา

ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริง พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ สุขสวัสดิ์ และ พ.ต.ท.สมศักดิ์ พลพันขาง ผู้กำกับและรองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา ซึ่งถูกย้ายให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 หรือ ศปก.ภ.1 เป็นเวลา 15 วัน จะทราบผลในวันที่ 1 เมษายนนี้ หากไม่มีความผิดก็จะได้กลับมาทำหน้าที่ตำแหน่งเดิม

ส่วนการพิจารณากับพนักงานสอบสวนที่อ้างว่าดมแล้วไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ จึงไม่ได้ให้มาเพื่อวัดแอลกอฮอล์ก็อยู่ระหว่างดำเนินการ พร้อมยืนยันตำรวจใช้บรรทัดฐานเดียวกัน ในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าผู้ขับขี่จะเป็นคนจนหรือคนรวย

ทางด้าน ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด กล่าวถึงความพร้อมในการพิจารณาคดีรถเบนซ์ ซิ่งชนรถยนต์ฟอร์ด จนมีผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ว่า หากคดีถึงอัยการ ตนจะมอบหมายให้อธิบดีอัยการภาค 1 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของสำนักงานอัยการรับผิดชอบสำนวนคดี ลงไปดูแลควบคุมคดีอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ ซึ่งตามหลักการต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย รวมทั้งผู้ต้องหาด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook