อนุพงษ์ นำคณะลงพื้นที่ขอนแก่นแก้แล้ง

พล.อ.อนุพงษ์ นำคณะลงพื้นที่ขอนแก่น พบปัญหาแล้งซ้ำซากดินเด็มสูง 80% เร่งให้ความช่วยเหลือ ชื่นชมขรก.ส่วนท้องถิ่นดูแลปชช.

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะลงพื้นที่ตรวจติดตาม งานการแก้ไขปัญหาภัยแล้งแบบบูรณาการในพื้นที่ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ และเลี้ยงสัตว์ ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าว เกิดสภาวะแล้งซ้ำซากและมีสภาพดินเค็มสูงถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถขุดเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาใช้อุปโภคบริโภคได้ คณะบริหารจัดการน้ำอำเภอพระยืนจึงได้จัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน โดยได้ดำเนินโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท โครงการตามนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ เช่น ขุดลอกแหล่งน้ำ เชื่อมต่อระบบส่งน้ำ และปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้านให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านั้น ได้นำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายกับราษฎรตามจุดใส่ถังน้ำกลาง เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภค บริโภคใช้อย่างเพียงพอ 

พลเอก อนุพงษ์ ยังกล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จากการรับฟังข้อมูลของจังหวัดขอนแก่นที่ดำเนินงานแก้ไขปัญหาภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง และชื่นชมการทำงานของส่วนราชการท้องที่และท้องถิ่น ที่ได้ร่วมกันดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้สำหรับด้านการเกษตรนั้น ขอให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช ตามความต้องการของตลาดแทนการปลูกข้าว คำนึงถึงความเหมาะสมของพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนให้มีรวมกลุ่มกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง

ทั้งนี้ ได้ฝากให้ทุกฝ่ายได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต อยู่อย่างพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย และปลูกฝังให้ลูกหลานของเรามีภูมิคุ้มกันดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล และมีคุณธรรม 

 

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จากการรับฟังข้อมูลของจังหวัดขอนแก่นที่ดำเนินงานแก้ไขปัญหาภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง และชื่นชมการทำงานของส่วนราชการท้องที่และท้องถิ่น ที่ได้ร่วมกันดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้สำหรับด้านการเกษตรนั้น ขอให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช ตามความต้องการของตลาดแทนการปลูกข้าว คำนึงถึงความเหมาะสมของพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนให้มีรวมกลุ่มกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง

ทั้งนี้ ได้ฝากให้ทุกฝ่ายได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต อยู่อย่างพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย และปลูกฝังให้ลูกหลานของเรามีภูมิคุ้มกันดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล และมีคุณธรรม