ออกหมายเรียกคดีโจรใต้ฆ่า3ตร.นราธิวาส

รองโฆษก ตร. เผย เหตุรุนแรงที่ จ.นราธิวาส จน ตร.เสียชีวิต 3 นาย ออกหมายเรียก 2 ราย พร้อมทำหน้าที่ต่อไป ชี้ เรื่องดีม.44 เพิ่มอำนาจทหารปราบผู้มีอิทธิพล

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน คดียึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส สอบปากคำพยานไปแล้ว 168 ปาก ออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย ใน 12 ข้อหา อาทิ ร่วมกันก่อการร้าย อั้งยี่ซ่องโจร จากการสืบสวนพบผู้ต้องหาเป็นคนในพื้นที่ และไม่ทราบว่าเป็นระดับไหน ต้องดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้ต้องสงสัย 43 คน มีการควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการซักถามข้อมูล และรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิด ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิด และยิงถล่มรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรจะแนะ จ.นราธิวาส จนเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 นาย และได้รับบาดเจ็บ 6 นาย หรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และยังไม่ยืนยันว่าเป้าหมายของกลุ่มคนร้าย พุ่งเป้าไปที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เชื่อว่าเป็นการกระทำเพื่อข่มขวัญเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ยืนยันเจ้าหน้าที่ทุกคนไม่เสียขวัญและพร้อมปฏิบัติงานป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด

พ.ต.อ.กฤษณะ เห็นว่า เป็นเรื่องดี ในคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ให้อำนาจทหารทำหน้าที่ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ซึ่งในคำสั่งดังกล่าว สามารถออกหมายเรียก อายัดทรัพย์สิน หรืออื่น ๆ ที่ต้องสงสัย เข้าข่าย 27 พฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล เพราะในสถานการณ์ปัจจุบัน ยอมรับว่า การนำกฎหมายปกติมาใช้อาจทำให้ล่าช้า ส่งผลต่อการดำเนินคดี ประกอบกับกำลังพลของตำรวจมีไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องขอกำลังทหารสนับสนุนการทำหน้าที่และไม่ใช่ความบกพร่องของตำรวจในการปฏิบัติตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลแต่อย่างใด

ส่วนจะเป็นการให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารมากเกินไปไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า คำสั่งดังกล่าวออกมาเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพปฏิบัติการได้ทันด่วน เป็นเรื่องปกติที่ปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมือง