ญาติโวย ศพคดีลูกสั่งฆ่าแม่ฝังดิน ดีเอ็นเอระบุเป็นเพศชาย

ญาติโวย ศพคดีลูกสั่งฆ่าแม่ฝังดิน ดีเอ็นเอระบุเป็นเพศชาย

ญาติโวย ศพคดีลูกสั่งฆ่าแม่ฝังดิน ดีเอ็นเอระบุเป็นเพศชาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีคดีสะเทือนใจ ที่มีการขุดพบซากศพโครงกระดูกถูกฝังดินไว้อยู่ภายในพื้นที่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านคุ้งวารี ต.บางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งภายหลังมีการระบุว่าน่าจะเป็นศพของ น.ส.ชมภูนุช อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน ที่หายตัวออกจากบ้านไปอย่างลึกลับนานกว่า 1 ปี

จนกระทั่งเกิดกระบวนการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางม่วง แล้วความจริงปรากฏว่า ซากศพโครงกระดูกที่พบ เป็นศพที่ถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ โดยมี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรสาวคนโตของ น.ส.ชมภูนุช ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับกิ๊กหนุ่มที่รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก คือ นายนที หรือเบล อายุ 23 ปี ให้เอาก้อนอิฐมาทุบหัวฆ่าแม่บังเกิดเกล้า เพียงเพื่อหวังว่าชีวิตจะได้เป็นอิสระ และได้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดมาครอบครอง จนกลายเป็นข่าวโด่งดังที่น่าสลดหดหู่ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น (อ่านข่าว : คดีพลิก! ลูกสาวศพโครงกระดูกสารภาพบาป สั่งแฟนฆ่าแม่)

ล่าสุด วันนี้ (3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ผลการพิสูจน์ศพโครงกระดูก ที่ถูกนำส่งไปตรวจสอบที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้เสร็จสิ้นแล้ว และได้มีการส่งผลใบพิสูจน์ พร้อมกับศพของผู้ตายคืนให้กับญาติพี่น้อง เพื่อให้ไปนำกลับทำพิธีทางศาสนา โดยทราบว่า ขณะนี้ศพของ น.ส.ชมภูนุช ถูกตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่ศาลา 1 วัดไทรใต้ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ จึงเดินทางไปสอบถามความคืบหน้า

นายสมศักดิ์ พี่ชายคนโตของ น.ส.ชมภูนุช และญาติพี่น้องกำลังจับกลุ่มนั่งพูดคุยถึงเรื่องปัญหาใบผลพิสูจน์ศพ ซึ่งมีความเคลือบแคลงสงสัยว่า ใบรายงานตรวจผลระบุ ศพคือ น.ส.ชมภูนุช จริง แต่ในช่องระบุเพศ กลับมามีการใส่ข้อความว่าเป็นเพศชาย อีกทั้งที่อยู่ของผู้ตายยังมีการระบุ ภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่ ต.บางม่วง อ.เมือง จ.นครนายกอีกด้วย ทั้งที่ตามบัตรประชาชนของ น.ส.ชมภูนุช มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่ ต.บางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ให้มารับศพน้องสาวนำกลับไปทำพิธีทางศาสนา ตนและญาติพี่น้องคนอื่นๆ จึงเดินทางไปยังโรงพัก สภ.บางม่วง โดยในตอนแรก พบเพียงแต่โลงศพน้องสาว อยู่ที่ท้ายกระบะรถตำรวจ แต่ไม่มีการนำใบพิสูจน์ผลการตรวจมาให้ ตนจึงได้ทวงถาม กลับมีการบ่ายเบี่ยงโยนกันไปมา จนทำให้ตนอารมณ์ฉุน ต้องติดตามไล่ทวงถาม ตั้งแต่นายตำรวจระดับสารวัตร ยันตำรวจที่ไปรับศพ

ซึ่งสุดท้ายก็ได้ใบผลพิสูจน์จากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มา เป็นแผ่นกระดาษเอสี่ 2 แผ่น คล้ายเหมือนถ่ายเอกสาร แต่ในตราประจำสถาบันสีแดงประทับติดอยู่ พร้อมกับข้อความระบุ การตรวจผล DNA ของศพโครงกระดูก เป็นศพของ น.ส.ชมภูนุช เสียชีวิตจากการได้รับความกระทบกระเทือนที่ศีรษะ

นายสมศักดิ์ตั้งข้อสังเกตว่า ตอนที่ตำรวจไปรับศพ ได้มีการตรวจสอบรายละเอียดก่อนรับศพกลับมาหรือไม่ ซึ่งใบผลพิสูจน์นี้ถือว่าเป็นเอกสารสำคัญ ในการทำนิติกรรมทุกอย่างให้กับบุตรสาวของ น.ส.ชมภูนุช และการที่ใบตรวจผลระบุออกมาผิดแบบนี้ ก็ไม่สามารถนำไปใช้อะไรได้

ตนถามกลับไปทางตำรวจแล้ว ว่าเหตุใดถึงมีการระบุข้อมูลผิด ก็ได้รับคำตอบมาว่าอาจมีการผิดพลาดกันได้ เพราะงานตรวจพิสูจน์ศพของสถาบันนิติเวชวิทยามีเข้ามาเป็นจำนวนมาก พร้อมกับรับปากว่าจะมีการแก้ไขให้ แต่มันก็ทำให้ตนรู้สึกว่ามันผิดปกติตั้งแต่แรกแล้ว เพราะก่อนที่จะนำศพส่งไปตรวจพิสูจน์ ก็ไม่มีการให้ตนและญาติไปร่วมด้วย

ส่วนเรื่องความคืบหน้าของคดี ตนพูดเลยว่าไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงทำให้ตนและญาติพี่น้องต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก และในส่วนลึกๆ ตนยังเชื่อว่า ต้องผู้มีบงการอยู่เบื้อง สั่งการให้ทั้งนายเบลและหลานสาวตน ร่วมกันฆ่า น.ส.ชมภูนุช อย่างแน่นอน

โดยวันพรุ่งนี้ตนจะแห่โลงศพของน้องสาวไปที่ สภ.บางม่วง พื้นสอบถามความคืบหน้า และเรื่องที่ผิดพลาดของใบตรวจพิสูจน์หากไม่ได้รับคำตอบเรื่องจริง ตนจะแห่โลงศพเดินทางไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อขอให้มีการตรวจสอบใหม่ ก่อนจะเดินทางไปร้องเรียนต่อยังตำรวจกองปราบปราม" นายสมศักดิ์ กล่าวอย่างเคร่งเครียด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook