ย้อนความหลังกว่าจะเป็น "เหมียว ชไมพร" ต้นตำหรับคุณยายวรนาถ

ย้อนความหลังกว่าจะเป็น "เหมียว ชไมพร" ต้นตำหรับคุณยายวรนาถ

ย้อนความหลังกว่าจะเป็น "เหมียว ชไมพร" ต้นตำหรับคุณยายวรนาถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"หัวใจสำคัญในอาชีพนักแสดงและการจะเป็นนักแสดงที่ดีเราจะต้องรู้จักในเรื่องของการตรงเวลา รู้เรื่องของการวางตัวกับผู้หลักผู้ใหญ่ควรจะเป็นอย่างไร"

"เหมียว ชไมพร" นักแสดงรุ่นใหญ่มากความสามารถพูดถึงหัวใจสำคัญในการทำงานในอาชีพนักแสดงของตนเองที่อยู่ในวงการบันเทิงมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปีนั้นเพราะรู้จักคำว่า "ตรงต่อเวลา" และปัจจุบันแม้ว่าวัยของเธอจะเข้าสู่เลขห้าแต่นั้นก็ไม่ใช่อุปสรรคเพราะนักแสดงรุ่นใหญ่คนนี้ยังรักษามาตรฐานการทำงานคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนั้นผลงานการแสดงตลอดชีวิตการเป็นนักแสดงกว่าห้าสิบเรื่องที่ผ่านมาที่ทีมข่าว Sanook! News คิดว่าเป็นอีกปัจจัยสำคัญโดยเฉพาะบทบาท "คุณยายวรนาถ" จากละคร "ทายาทอสูร" ที่ยังทำให้ชื่อเสียงของ "เหมียว ชไมพร" เป็นที่ยอมรับไม่ว่าจะมีนักแสดงรุ่นใหม่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นมาแทนที่ก็ตาม

'เหมียว ชไมพร' ฉายแววจรัสแสง

บนเส้นทางวงการบันเทิงนั้น "เหมียว ชไมพร" เล่าว่ายุคสมัยของเธอนั้นไม่ได้ต่างจากยุคปัจจุบันเท่าไหร่ การเข้าสู่วงการของตัวเองนั้นก็เริ่มต้นด้วยการผ่านโมเดลลิ่งถ่ายแบบแฟชั่นลงตามนิตยสาร หลักจากนั้นก็ได้เป็นผู้ประกาศรายการจนผู้ใหญ่มองเห็นแววให้โอกาสเธอได้แสดงละคร

"เริ่มแรกโมเดลลิ่งเขาก็ชวนแล้วเขาก็ถ่ายรูปไว้ พอมีงานโฆษณามาเขาก็ติดต่อว่าจะมีงานถ่ายแฟชั่นซึ่งถ่ายเยอะมากและที่นี้พอคนได้เห็นทางสื่อ พวกหนังสือร้านทำผมมาเห็นผมเราเกศสยามก็มาขอไปเป็นแบบผมพวกหนังสือสกุลไทยในยุคนั้นเขาก็มาติดต่อก็เป็นสเต็ปมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีงานผู้ประกาศคั้นรายการก็ไปสมัครที่ช่อง7

ก็ได้หัดได้ลองทำอยู่สักพักอาหรั่ง (ไพรัช สังวริบุตร) ก็มาเห็นก็มาขอคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) ให้ไปเล่นละครตอนนั้นเล่นเรื่องแรกเลยคือละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องเทพสามฤดู ซึ่งเป็นเรื่องแรกต่อมาคุณแดงก็ให้เล่นละครยาวตอนกลางคืนเรื่องดาวครึ่งดวงสองเรื่องนี้จะเล่นควบคู่กันไปพร้อมๆ กันและงานผู้ประกาศก็ค่อยๆ น้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะไปหนักกับการแสดงซะมากกว่า"

ละครจักรๆ วงศ์ๆ โรงเรียนสอนการแสดง 'นักแสดงยุคเก่า'

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในวงการบันเทิงนั้นมีนักแสดงแถวหน้ามากมายที่เริ่มต้นมาจากการแสดงละครพื้นบ้านจักรๆ วงศ์ๆ ที่ยุคก่อนนั้นเปรียบเสมือนโรงเรียนสอนการแสดง ซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นและรุ่นสุดท้ายที่ต้องแสดงด้วยการบอกบทไม่ใช่การท่องบทแบบปัจจุบัน

"การทำงานละครจักรๆ วงศ์ๆ ในยุคนั้นที่เล่นแรกๆ ยังเป็นการบอกบทอยู่เลยและรู้สึกว่าจะเป็นเรื่องสุดท้าย หลังจากนั้นก็เป็นการท่องบทเราก็ท่องๆ สุดท้ายอาหรั่งเขาก็มาสอนว่าให้เอาตามความเข้าใจก็ทำให้เราเริ่มค่อยๆ คุ้นชินการทำงานแสดงค่อยๆ รู้มุมกล้อง ในยุคสมัยก่อนก็ไม่ได้มีการเรียนสอนแอคติ้งแบบยุคปัจจุบันนี้ นักแสดงยุคก่อนพอได้บทมาเราก็จะอ่านตามบท พอบทมาภาพมันก็จะมา พอเล่นก็ต้องมาดูผู้กำกับว่าเขาซ้อมวางบล็อคกิ้งให้เราตรงไหนและเราก็จะเล่นไปตามนั้นค่ะ"

'เหมียว ชไมพร' การแสดงอยู่ในดีเอ็นเอ

เพราะด้วยประสบการณ์การแสดงที่สั่งสมมากว่า 30 ปีที่เธอเข้ามาโลดแล่นในวงการจนเป็นนักแสดงฝีมือฉกาจและเป็นที่ยอมรับเธอเล่าว่าส่วนนึงนั้นอาจจะมาจากชีวิตในวัยเด็กที่เป็นคนชอบจินตนาการและมีความชอบการแสดงอยู่ในตัวเพียงแค่รอเวลาที่จะนำมาใช้ในเวลาที่ใช่และเหมาะสม

"งานในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กไม่เคยคิดเลยแต่ถามว่าชอบมั้ยมันก็คงอยู่ในตัวของเราแต่เราหาทางมันไม่เจอว่าเราจะมาทางนี้ เพราะว่าเวลาได้มาเล่นแล้วมาถ่ายทอดมันก็เป็นไปโดยอัติโนมัติก็เลยมีความรู้สึกที่ตอนเด็กๆ เราชอบพูดคนเดียวเราชอบอ่านหนังสือนวนิยายจากแม่ แม่จะชอบให้เป็นไปยืมและคืนหนังสือพวกนวยายก็เลยได้เปิดอ่าน และได้มารู้ว่าจริงๆ แล้วสิ่งพวกนี้ได้เอามาใช้ตรงนี้เราซึมซับมาตลอด เขาเรียกว่ามันเป็นทางของมันที่พอมันถึงเวลาที่ใช่ก็ได้ใช้ค่ะ"

'เหมียว ชไมพร' ต้นตำหรับคุณยายวรนาถ 

อย่างไรก็ตามหากพูดถึงตัวละคร คุณยายวรนาถ สาวสวยสองพันปีที่ปล่อยตะขาบออกจากปากจากละคร ทายาทอสูร ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคหรือกี่สมัยหรือจะนำกลับมาสร้างใหม่นั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "เหมียว ชไมพร" ก็ยังคงเป็นต้นตำหรับที่ตราตรึงใจ

"ทายาทอสูรเป็นละครที่ทุกวันนี้ไปไหนคนก็จะยังพูดถึง เอ๊ะใช่คุณยายวรนาถมั้ยก็ยังมีการทักแบบนี้อยู่ บางทีเราก็แปลกใจนะว่าเล่นมาตั้งหลายเรื่อง อย่างบ้านบุษบาบัณที่ต้องเล่นกะเหยี่ยวเป็นลักษณะสาวสองพันปีเหมือนกันคนก็ไม่ได้ติดและพูดถึงเหมือนทายาทอสูร ซึ่งมันก็ผิดคลาดเหมือนกันเพราะว่าละครเรื่องนี้ออกอากาศช่อง5 และเป็นเรื่องแรกที่ไปเล่นให้ค่ายกันตนาและก็ประสบความสำเร็จได้ไปโชว์ตัวที่เขมร เด็กเขมรก็เรียกนะมีเนียด เราก็ถามนะมีเนียดคืออะไรเขาก็บอกว่าแปลว่าคุณยายวรนาถ เราจะยังไม่รู้หรอกว่าคนฮิตติดมากจนกระทั่งมันผ่านไปหลายปีและคนก็ยังพูดถึงเราก็จะรู้สึกว่าทุกวันนี้คนก็ยังจดจำเรื่องนี้อยู่ก็แปลกดีค่ะ"

'เหมียว ชไมพร' มองวงการคือวัฏจักรหมุนเวียน

อย่างไรก็ตามแม้ว่า "เหมียว ชไมพร" จะอยู่ในวงการมาเป็นเวลานานเธอบอกว่าในความเห็นส่วนตัวนั้นวงการบันเทิงก็เป็นเพียงวัฏจักรที่หมุนเวียนเมื่อวันนึงเปลี่ยนแปลงไปจนถึงจุดอิ่มตัวสุดท้ายก็กลับมาสู่จุดเดิม

"มันก็คงเป็นไปตามยุคสมัยเพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนบุคคลมันอาจจะมีเปลี่ยนมุมมองความคิดของคนรุ่นใหม่ก็อาจจะไม่เหมือนของเราในยุคสมัยก่อน แต่ส่วนตัวคิดว่ามันก็เหมือนวัฏจักรหมุนเวียนค่ะแต่ก่อนดาราอาจจะไม่ยอมรับเรื่องการมีแฟนเปิดตัวแฟนต่อมาก็ยอมรับและต่อไปจากยุคนี้ก็อาจจะไม่ยอมรับอีกก็ได้ เพราะว่ามันเต็มที่ของมันแล้วมันก็หมุนอยู่แค่นี้ แม้ยุคสมัยเปลี่ยนเด็กรุ่นใหม่ก็ขึ้นมาเยอะในทุกภาคสาขาไม่ว่าจะเป็นข่าว นักแสดง ช่างภาพ มันก็เข้ามาใหม่หมดแต่บรรยากาศมันก็ยังเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นมาเพียงแต่ว่าเปลี่ยนตัวคนไปก็เท่านั้นเองค่ะ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook