ระทึก! หนุ่มใหญ่บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอพบ ‘พงศพัศ’ น้ำมันก๊าดราดขู่เผาตัว บอกเป็นแพะ

(18 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชายวัยกลางคนไม่ทราบชื่อ ได้เดินทางเข้ามาที่บริเวณหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจะขอเข้าพบ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องเรียนว่า ตนเองถูกกล่าวหาว่าค้ายาเสพติด รวมทั้งติดหนี้นอกระบบเป็นจำนวนมาก ทำให้ถูกยึดรถและทรัพย์สินจนหมด จึงเข้าขอความเป็นธรรม

พร้อมทั้งขู่ว่าจะเผาตัวเองโดยได้นำน้ำมันก๊าดราดตัว พร้อมกับถือไฟแช็กอยู่ในมือ จุดไฟตลอดเวลา ห้ามเจ้าหน้าที่เข้าใกล้พร้อมพูดพร่ำ ร่ำไห้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ปทุมวัน ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเข้าเจรจา กว่า 10 นาทีไม่เป็นผล แต่ขณะที่ชายคนดังกล่าวกำลังยืนพูดพร่ำ ระบายความอัดอั้นในใจ ขู่จุดไฟเผาตัวเองอยู่หน้าอาคาร 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 1 นาย ได้อ้อมไปด้านหลัง บุกเข้าชาร์จ ล็อกตัว แย่งน้ำมันก๊าดพร้อมไฟเเช็ก ช่วยเหลือไว้ได้

ก่อนนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่อาคารกองรักษาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พ.ต.อ.สมพงษ์ วิถีประดิษฐ์ รองผู้บังคับการอัตรากำลังพล ทำหน้าที่เวรอำนวยการประจำวันเข้าพูดคุยเพื่อสอบถามรายละเอียด

ต่อมา พล.ต.ต. ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษก ตร.ว่า จากการตรวจสอบ ชายคนดังกล่าวคือ นายบุญลือ อายุ 45 ปี พักอาศัยอยู่ที่เขตหนองแขม ล่าสุดได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน รับตัวไปเพื่อทำการสอบสวนว่าสาเหตุที่มาเพื่ออะไร เพื่อหาทางแก้ไขหรือเยียวยาต่อไป

รวมถึงตรวจสอบว่าหนี้สินที่ชายดังกล่าวกล่าวอ้างนั้นเป็นลักษณะไหนและเกิดจากเหตุใด โดยในส่วนที่เกี่ยวต้องกับขั้นตอนทางกฎหมายก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป รวมถึงจะมีการตรวจสอบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ คาดว่าน่าจะได้ความชัดเจนเร็ว ๆ นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยหรือไม่นั้น คงไม่ถึงกับต้องยกระดับความปลอดภัยเพราะโดยปกติจะมีมาตรการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่อาจมีการยกระดับการตรวจสอบในส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ส่วนจะพฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้เกิดการเลียนแบบหรือไม่นั้น ไม่ทราบเพราะเป็นดุลยพินิจของแต่ละบุคคล

ขอบคุณภาพจาก ผู้สื่อข่าวประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ police tv