พจน์ อานนท์ ยิ้มหลวงพี่แจ๊ส4Gทะลุ300ล.

พจน์ อานนท์ ยิ้มหลวงพี่แจ๊ส4Gทะลุ300ล.

พจน์ อานนท์ ยิ้มหลวงพี่แจ๊ส4Gทะลุ300ล.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้กำกับ 'พจน์ อานนท์' ยิ้ม หลวงพี่แจ๊ส 4G ทะลุ 300 ล้าน ยันไม่ทำลายศาสนา เมินทำ CD ขาย

ไม่รู้ว่ากลัวหนัง "หลวงพี่แจ๊ส 4G" จะแป้กหรือเปล่า ถึงไม่ยอมเปิดตัวว่า กำกับหนังเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ๆ สำหรับ พจน์ อานนท์ หรือ พชร์ อานนท์ พอรายได้ทะลุ 300 ล้าน เพิ่งจะทราบว่าหนังเรื่องนี้ หนุ่มพชร์ เขากำกับเอง เจอเจ้าตัวเปิดเผยว่า "กระแสตอบรับดีมากต้องขอบคุณแฟน ๆ ที่มาดูกันครับ นี่เกินคาดมาก ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับหนังสามร้อยล้านแล้ว รู้สึกดีใจ เพราะมาได้ตอนแก่แล้ว เราทำหนังมายี่สิบกว่า ทำเรื่องแรกห้าสิบถึงหกสิบล้าน สมัย พ.ศ. 2538 มันก็เยอะแล้วนะ เป็นผู้กำกับเรื่องนี้จริงไหม คือจริงๆ หนังเรื่องนี้ตอนแรกที่พี่อยากทำ พี่คุยกับนายทุนว่าอยากทำหนังพระสนุกๆ เรื่องหนึ่ง และนายทุนบอกว่าทำได้ แต่ชื่อพี่จะไปเป็นหนังอีกแนวหนึ่ง คือเขาไม่เชื่อว่าชื่อพี่จะไปทำหนังพระได้ พี่เลยบอกโอเค งั้นพี่ทำแต่พี่ไม่ขอออกชื่อ คือพี่เคยทำลักษณะนี้มาแล้วกับเรื่อง ศพเด็ก 2002 กับ สมอรูกูแนว พี่ก็ไม่ออกชื่ออยู่แล้ว แต่ไม่มีคนพูดถึงไง เพราะตอนนั้นคนยังไม่รู้ว่าพี่กำกับ คือเรามีชื่อเสียงเยอะแล้วก็เลยลองทำดู อยากทำแนวพระดูบ้าง แต่เราบอกว่าถ้าหนังทำเงินเราจะเปิดตัวนะ และอยู่ๆ มันก็ทำเงินขึ้นมา เราเลยต้องเปิดตัวว่าเรากำกับ แต่จริงๆ แล้วตอนนั้นเรากำกับและเป็นโปรดิวเซอร์ด้วย คุมทั้งหมด แต่มีเด็กมาช่วยกำกับบ้าง เพราะหนังแนวนี้เป็นหนังตลก ต้องมีคนคุมเกมอยู่ คนมองว่าที่ไม่บอกว่ากำกับแต่แรกเพราะกลัวหนังแป้ก ไม่ใช่ๆ คือพี่บอกกับนายทุนไปแล้วว่าเราอยากทำ ไม่ต้องใส่ชื่อก็ได้ เพราะเรามีชื่อเสียงอยู่แล้ว ไม่ได้กลัวแป้กอะไร คนจะดูที่ผลงานมากกว่า หนังทำเงินบางเรื่องห้าร้อยล้าน สี่ร้อยล้าน บางคนยังไม่รู้จักเลยว่าผู้กำกับชื่ออะไร อันนี้เรื่องจริง เลยคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรมากว่าต้องมาหาผู้กำกับ

ส่วนใหญ่จะมาเรียกร้องเอาหนังสาระจากพี่กันใช่ไหม พี่ก็ทำหนังสาระให้ดูกันแล้ว แต่มาถามใครผู้กำกับ ใครไม่ใช่ผู้กำกับ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องอ่ะ เรื่องอื่นไม่เห็นมาถามเลยว่า ใครเป็นผู้กำกับใช่ไหม ตอนแรกเราก็ไม่อยากออกชื่อหรอก แต่พอมันได้เงินเราก็ดีใจไง แล้วคนวาดการ์ตูน ดันวาดรูปเราคนเดียว ก็เลยลงไปเลย และช่วงนั้นเป็นช่วงสงกรานต์ด้วย เลยตัดสินใจว่าต้องบอกแล้ว ไม่น้อยใจ กำไรมันก็ได้มาเรื่อยนะ อย่างหอแต๋วแตก ก็หกสิบล้าน เจ็ดสิบล้านนะ แต่เรื่องนี้มันได้เยอะกว่า จริงๆ พี่เป็นคนมีสาระนะ แต่ส่วนใหญ่หนังที่ได้จะไม่มีสาระ ก็เลยมองเป็นภาพพจน์แบบนั้นมา เรื่องนี้ไม่มีแผ่นขาย กระแสด้านลบเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ไม่โดนเลย เพราะตอนที่ไปเซ็นเซอร์เรื่องนี้ ผอ.กองเซ็นเซอร์บอกว่า คนอื่นเขาจะไม่ให้ผ่าน มีคนโทรไปบอกว่าหนังเรื่องนี้ทำลายศาสนา และ ผอ.ลงมาดูเอง เขาบอกผมเซ็นรับรองเอง ถ้ามีปัญหาอะไร ผมรับผิดชอบเอง ก็เลยผ่าน จริงๆ หนังมันสอนอะไรตั้งเยอะ ถ้าใครดูแล้วจะรู้ว่ามันสอนจริงๆ ไม่ได้ตลกอย่างเดียว"


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook