ม็อบแห่ไล่ผู้บริหารองค์การค้าคุรุสภา

ม็อบแห่ไล่ผู้บริหารองค์การค้าคุรุสภา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เงินเกลี้ยงใกล้เจ๊ง สหภาพแรงงานองค์การค้าฯ ลงมติไม่ไว้วางใจคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา นำขบวนนำขบวนพนักงานเกือบ 2 พันคนบุก ศธ. จี้ปลดออกจากตำแหน่งเหตุไม่สามารถกำกับดูแลองค์การค้าฯให้มีประสิทธิภาพ เกิดปัญหาทุจริตบานปลาย ในขณะที่ ผอ.องค์การค้าฯ ยอมรับขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ไม่มีรายได้เข้า 2 เดือนแล้ว

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. เวลา 12.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีกลุ่มพนักงานองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทาง การศึกษา (สกสค.) 1,900 คน เดินทางมาชุมนุมที่ ศธ. เพื่อเรียกร้องให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศธ. เข้ามาแก้ไขปัญหาภายใน องค์กร โดยเฉพาะปัญหาทุจริต โดยในแถลง การณ์ระบุว่า บอร์ดของ สกสค. ไม่กำกับดูแลองค์การค้าฯ โดยดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ. สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 โดยผู้บริหารองค์การค้าฯ ดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มพวกพ้อง เช่น นำปั๊มน้ำมันองค์การค้าฯ ไปให้เอกชนเช่าในราคาถูก โครงการขายสินค้าผ่านหัวบิลในนามองค์การค้าฯ และเหตุทุจริตอีกหลายเรื่อง แต่ทุกเรื่องก็เงียบหายไป โดยไม่มีใครเข้ามาจัดการ และยังมีการยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่จำนวน 30 ล้านบาท เป็นต้น ดังนั้นสหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา จึงมีมติไม่ไว้วางใจให้คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาในส่วนของผู้แทน ประกอบวิชาชีพ ผู้ทรงคุณวุฒิ และเลขาธิการ สกสค. ดำรงตำแหน่งต่อไปได้

นายบำเรอ ภาณุวงศ์ ผอ.องค์การค้าของ สกสค. กล่าวว่า ขณะนี้องค์การค้าฯ ไม่มีงบฯ เพียงพอที่จะจ่ายเงินเดือน ซึ่งเดือนที่ผ่านมาเหลือเงินอยู่เพียง 27 ล้านบาท แต่เฉพาะเงินเดือนพนักงาน 1,900 คน ก็ประมาณ 40 ล้านบาทแล้ว ในขณะที่ 2 เดือนที่ผ่านมายอดสั่งซื้อหนังสือเรียนไม่มีเข้ามาเลยเพราะทุกคนรอนโยบายเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาล แต่คาดว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีการสั่งซื้อหนังสือเรียนเข้ามาสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้น ทั้งนี้ตนจะนำปัญหาเข้าหารือกับบอร์ดองค์การค้าฯ ในวันที่ 5 ก.พ. นี้

เรื่องที่ร้องเรียนทุจริต 15 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเก่าที่สามารถชี้แจงได้ เช่น การจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับ การขโมยหนังสือเรียนไปขายนั้นจริง ๆ แล้วเราก็ไม่ต้องการต่อสัญญาแต่เมื่อมีการเปิดประมูลปรากฏว่ามีผู้ประมูลเพียงสองบริษัทเท่านั้นซึ่งมีค่าจ้างสูงกว่าบริษัทเดิม เราจึงต้องต่อสัญญากับบริษัทเดิม ทั้งนี้ปัญหาขององค์การค้ายืดเยื้อมานานและมีหนี้สินสะสมประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ผมเข้ามารับตำแหน่งได้ใช้หนี้ไปแล้วกว่า 131 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สภาพขององค์การค้าฯ ขณะนี้คงไม่ถึงขั้นล้มละลายเพียงแต่มีปัญหาขาดสภาพคล่องชั่วขณะเท่านั้น นายบำเรอ กล่าว

ด้านนายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัด ศธ. ประมวลข้อร้องเรียนเพื่อดำเนินการตรวจสอบไปตามขั้นตอน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ตนอยากเห็นองค์การค้าฯ เดินหน้าไปในทิศทางที่เจริญก้าวหน้าและสามารถลดปัญหาต่าง ๆ ภายในองค์กรให้ได้.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook