มาร์คจ้องโละรมต.ส่อชะตาขาด

มาร์คจ้องโละรมต.ส่อชะตาขาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ขอคิดอีก 2 วัน''แม้ว''โฟนอินปลุกขวัญ พท.

มาร์คเผยเหลือเวลาอีก 2 วันก่อนตัดสินใจ ลั่นมีอำนาจปรับ ครม. เต็มร้อย เมิน ภูมิใจไทย กดดัน ฮึ่มรัฐบาลคิดถึงแต่ตัวเลขไม่ได้ แบะท่าปรับเพื่อให้สังคมยอมรับ สุเทพ เสียงแผ่วยอมรับต้องแก้ปมร้อน ขณะที่ ปชป. แย้มวันนี้ดีเดย์ มาร์ค ตัดสินใจ แต่ยังไฟเขียว รมต.ปลากระป๋อง ฟอกตัวรอบสุดท้าย เพื่อนวิฑูรย์ โวยคนในพรรคกดดันหนักกว่าคนนอกพรรคเสียอีก อิสระ ชี้สังคมไม่เชื่อคำชี้แจง รมต. ส่วน วิฑูรย์ ยันไม่ทำให้คนอุบลอับอาย โต้ข่าวเก็บหัวคิวคนแก่ ฝ่าย มท.1 ย้อนสื่อเลิกกดดัน บุญจง พ้นเก้าอี้ แถมท้าเดิมพันเก้าอี้ ส.ส. เพื่อไทย กระฉ่อน บิ๊กป้อม รับเทียบเชิญนั่งหัวหน้าภูมิใจไทย ส่วนน้องในไส้ถูกชงเป็นบอร์ด กฟภ. อีกต่างหาก ด้าน เพื่อไทย ใจชื้น แม้ว โฟนอินปลุกขวัญ หยันเด็กน้อย 2 คนแก้ ศก. ไม่สำเร็จ แถมอัดยับคนสูงวัยวางระเบิดเวลา รอสังคมไทยปรอทแตก พร้อม โต้ข่าวไม่ได้ถูกทางการผู้ดียึดเงิน ฝ่าย เสื้อแดง ประกาศ ขายโต๊ะจีน 14 ก.พ. ระดมทุนสู้รัฐบาล ขณะที่ กกต. แจงพัลวันเปล่าซุกคดีกระจง ฟาก เรือง ไกร มาแล้วยื่นสอย 3 รมต. อภิสิทธิ์เมินภูมิใจไทยกดดัน

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่โรงแรมพลาซ่า แอท ธินี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังเดินทางกลับมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้วยังเหลือเวลาอีก 2 วัน โดยขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลไว้พอสมควรทั้งกรณีของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาด ไทย และนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จาก นั้นจะมีความชัดเจน ยืนยันว่าไม่ได้ละเลยต่อความห่วงใยของสังคมที่มีต่อรัฐมนตรี รวมถึงจะพิจารณาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ตนจะรับผิดชอบกับการตัดสินใจของตัวเอง ส่วนที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยระบุว่านายบุญจงจะไม่ถูกปรับออกนั้น นายกฯ กล่าวว่า ตนจะเป็นคนพิจารณาเรื่องนี้ ลั่นรัฐบาลคิดถึงแต่ตัวเลขไม่ได้

ต่อข้อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าการปรับ ครม. จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นอำนาจของนายกฯ ทั้งหมดทำเพื่อต้องการให้รัฐบาลสามารถทำงานได้ รัฐบาลคงคิดถึงแต่ตัวเลขไม่ได้ เพราะการทำงานให้สำเร็จได้นั้นต้องได้รับการยอมรับด้วย มิฉะนั้นตนคงไม่พูดถึงมาตรฐาน 9 ข้อในการทำงานกับ ครม. นัดแรก

ส่วนกรณีนายวิฑูรย์ถูกสังคมมองว่าไม่น่าจะไว้วางใจแล้วนั้น นายกฯ ปฏิเสธว่า ไม่ ถ้าจะปรับหรือไม่ปรับ ผมก็ต้องเป็นคนชี้แจงเหตุผลว่าปรับเพราะอะไร หรือไม่ปรับเพราะอะไร และผมหวังว่าจะทำให้ประชาชนมีความมั่นใจในการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่าการตัดสินใจจะไปในทิศทางใด ซึ่งทุกทางออกจะมีคำตอบและผมจะเป็นคนให้คำตอบเอง ส่วนการปรับ ครม. จะต้องคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ หรือไม่นั้น ยอมรับว่าตนได้คุยกับหลาย ๆ คนแล้วแต่ยังไม่ครบทุกคน อุ้ม3รมต.โหวตงบกลางปีไม่ผิด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านประกาศว่ามีข้อมูลเด็ดในการอภิปรายไม่ไว้วาง ใจรัฐบาลว่า ต้องรอให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายมาก่อน เมื่อถามว่าการยื่นอภิปรายของฝ่ายค้านอาจจะรวมถึงตัวนายกฯ ด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ ซึ่งตนยอมรับการตรวจสอบและไม่รู้สึกกังวล เพราะ 1 เดือนที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างทุ่มเทเต็มที่มีความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไปมากก็ถือเป็นเรื่องดีที่มีระบบการตรวจสอบเผื่อตนมองข้ามอะไรไปแล้วฝ่ายค้านเสนอข้อมูลมาจะได้ดูและชี้แจงว่าสิ่งที่ทำมานั้นมีเหตุผลใด

นายกฯ ยังกล่าวถึงกรณี 3 รัฐมนตรีที่ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ว่า คิดว่า ไม่น่าเป็นประเด็น เพราะตอนที่เราเป็นฝ่ายค้าน เราก็เห็นอยู่ว่า ครม. ชุดก่อนได้ลงมติในเรื่องของงบประมาณ แต่เราก็ไม่ได้ไปยื่นร้องอะไร เพราะเราไม่ได้คิดว่าจะเป็นปัญหา แต่บังเอิญว่ารัฐมนตรีทั้งสามคนอาจจะไม่ทราบจึงได้ลงมติไป ซึ่งถือเป็นเรื่องความเห็นของกฎหมาย เทือกเสียงอ่อยต้องแก้ปัญหา

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ว่า นายกฯ บอกกับประชาชนไปแล้วว่าขอเวลา 3 วัน ที่จะได้ดูข้อมูลจากหลักฐานต่าง ๆ และตนไม่ทราบว่าข่าวการปรับนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พม. ออก จากตำแหน่งมาจากไหน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้ประชุมคณะกรรมการบริหาร แต่จะมีการประชุมในวันที่ 3 ก.พ. ทั้งนี้ปัญหาของนายวิฑูรย์ไม่เป็นปัญหากับพรรคและรัฐบาล แต่เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข และเป็นเรื่องที่เราต้องรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย

ต่อข้อถามว่า หากนายวิฑูรย์แสดงสปิริตจะเป็นการกดดันนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า กรณีของนายวิฑูรย์จะไปกดดันนายบุญจงเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามเวลานี้ยังไม่มีเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยมากดดันรัฐบาลทั้งสิ้น ไม่ใช้กระแส ปชช.ตัดสินใจ

ส่วนกรณีของนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ที่คนเสื้อแดงกล่าวหาว่ามีประวัติมัวหมองนั้น นายสุเทพ ชี้แจงว่า คุณสมบัติของคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีในกรณีของนายกษิตนั้น หากดูประวัติราชการแล้วก็ไม่มีอะไรมัวหมอง ส่วนที่ไปขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือเวทีไหน ๆ นั้น พวกตนก่อนเป็น ส.ส. ก็ขึ้นเวทีปราศรัยมากมาย เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ารัฐบาลไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เอามาเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณา

รองนายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการกับ 3 รัฐมนตรีที่ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ว่า เข้าใจว่ารัฐธรรมนูญห้ามรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. ยกมือเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่วันดังกล่าวรัฐมนตรี 3 คนลงมติเรื่องงบประมาณแผ่นดินที่มาช่วยประชาชน จึงไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา และขออภัยถ้าหากความเห็นของตนจะไปล่วงล้ำหน้าที่ของผู้ที่มีสิทธิตีความ ปชป.รอดูผิด 2 ข้อหรือไม่

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคพร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับจากรัฐมนตรีทุกคนให้ประชาชนรับทราบอย่างโปร่งใส ข้อสงสัยจากประชาชนมี 2 ส่วน คือ 1.ทำให้ผลประโยชน์ของส่วนรวมเสียไปหรือไม่ และ 2.คนบางคนได้รับประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่ ทั้งสองส่วนนี้จะมีการหารือหลังจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล โดยในการประชุม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 3 ก.พ. นี้ น่าจะได้ความกระจ่างในข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะให้ประชาชนรับทราบ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปราย ไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ทุกวันนี้พรรคเพื่อไทยยังหาผู้นำฝ่ายค้านไม่เจอแล้วจะหาผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกฯ ได้อย่างไร ดังนั้นฝ่ายค้านไม่ควรพูดอะไรเพื่อให้เป็นเกมการเมืองไปวัน ๆ แต่ควรทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ดีกว่า เผยมาร์คให้ชี้แจงครั้งสุดท้าย

แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันที่ 3 ก.พ. จะครบกำหนด 3 วันตามที่นายกฯ ประกาศไว้ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะใช้เวทีการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดโอกาสให้นายวิฑูรย์ ชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่ชี้แจงมาแล้ว 3 รอบ แต่ไม่เกิดความชัดเจน จากนั้นจะนำมาพิจารณาเพื่อเป็นคำตอบให้กับสังคมว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายวิฑูรย์ ยอมรับว่าได้รับกระแสกดดันอย่างมาก ทั้งนี้นายวิฑูรย์ได้มอบให้คนใกล้ชิดหาข้อมูล พร้อมประเมินถึงกระแสสังคมเพื่อประกอบการตัดสินใจ

นายอิสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่านายวิฑูรย์ ควรแสดงสปิริตลาออกหรือไม่ เนื่องจากตนเองมีรายชื่อเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีอยู่ แต่ก็ได้ยินมาบ้างเหมือนกันว่าสังคมไม่เชื่อคำชี้แจง ซึ่งนายกฯ น่าจะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำ ให้เกิดความเสียหายหรือไม่ ฉาวต่อเนื่องเก็บหัวคิว คนแก่

ที่ จ.อุบลราชธานี นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พม. เดินทางไปมอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการว่า ในฐานะที่เป็นลูกอุบลจะไม่ทำให้คนอุบลอับอาย หากคณะกรรมการสอบสวนชุดใดพบว่ามีการใช้งบประมาณจัดซื้อจัดจ้างปลากระ ป๋องที่เป็นปัญหาก็พร้อมลาออก และหากพบ ว่ามีการทุจริตก็จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต ส่วนกระแสข่าวการปรับ ครม. นั้น ตนอยู่ในพื้นที่ตลอดจึงยังไม่ได้ติดตามข่าว และไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งต้องรอดูกันต่อไป

รมว.พม. ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเริ่มมีการเรียกเก็บเงินใน อ.วารินชำราบ เพื่อขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุรายละ 50 บาทว่า ขณะนี้ยังไม่มีการสำรวจผู้สูงอายุ และหากมีการสำรวจก็ไม่มีการเรียกเก็บเงินแต่อย่างใด เด็กวิฑูรย์ลั่นพร้อมให้สอบ

นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เลขานุการ รมว.พม. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการกับ ส.ส.หญิงชื่อย่อ บ. ทำตัวเป็นเจ๊ใหญ่ในกระทรวง พม. ทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ในเรื่องผลประโยชน์ขัดกันระหว่างอำนาจหน้าที่ของ ส.ส. รวมถึงข้าราชการการเมืองชื่อ อ. ว่า เป็นเจตนาของฝ่ายค้านที่พยายามจะโยงเป็นประเด็นการเมือง แต่ไม่ทราบว่าอักษร อ. ที่ฝ่ายค้านระบุเป็นตนหรือไม่ ตนยืนยันในความบริสุทธิ์และพร้อมให้ตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์พยายามส่งสัญญาณให้นายวิฑูรย์พิจาร ณาตัวเอง เลขานุการ รมว.พม. กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องผู้ใหญ่ในพรรค และนายวิฑูรย์ไม่เคย เปรยเรื่องดังกล่าว ทั้งไม่คิดว่าจะทำให้นายวิฑูรย์เครียดหรือหนักใจ เพียงแต่เหนื่อยกับการให้สัมภาษณ์ขณะที่มีภารกิจมากมาย มท.1 จวกสื่อกดดันไล่ บุญจง

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. โดยเฉพาะนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กรณีแจกเงินสงเคราะห์ยังชีพและนามบัตรที่บ้านพักส่วนตัวว่า ถ้าจะมีการปรับนายบุญจงออกจาก ครม. แกนนำพรรคภูมิใจไทยต้องมีการหารือกัน ทั้งนี้นายบุญจงพร้อมชี้แจงเรื่องนี้หากฝ่ายค้านมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อถามว่า จะต้องมีความรับผิดชอบด้านการเมืองมากกว่าด้านกฎหมายหรือไม่ รมว. มหาดไทย ตอบว่า กฎหมายต้องสำคัญกว่า เมื่อถามต่อว่าการปรับ ครม. ต้องรอผลจากกฎหมายหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า สังคมกดดันหรือไม่กดดันก็อยู่ที่สื่อเขียน ถ้าเขียนไม่กดดันก็ไม่กดดัน ถ้าข้อเท็จจริงออกมาตรงกันข้ามกับที่สื่อเขียน สื่อจะลาออกหรือเปล่า เมื่อถามอีกว่า ถ้าทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วกระแสสังคมไม่ยอมรับจะทำอย่างไร นายชวรัตน์ กล่าวว่า กระแสสังคมอยู่ที่สื่อ อย่าเขียนให้มันหนักนัก

ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมนำหลักฐานมาเปิดเผยว่าในช่วงนายชวรัตน์เป็น รมว.พม. ได้อนุมัติเงินแจกประชาชนนั้น รมว.มหาดไทย ปฏิเสธว่า ไม่เคยทำ ถ้ามีหลักฐานจริงตนพร้อมลาออก แต่ถ้าไม่มีหลักฐานคนที่ออกมาแฉเรื่องนี้จะยอมลาออกจากการเป็น ส.ส. หรือไม่ หนั่นแนะ รบ. เดินให้มั่นคง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สนั่น ขจรประ ศาสน์ รองนายกฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์กรณีนายเรืองไกร ยื่นเรื่อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบ 3 รัฐมนตรีว่า จากที่พรรคได้พูดคุยกันเห็นว่าไม่น่าจะเป็นความผิด เพราะไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นเรื่องงบประมาณประเทศ เมื่อถามว่า คนเป็นถึง รมว.ยุติธรรม ทำไมไม่รู้กฎหมาย พล.ต. สนั่น กล่าวว่า อาจจะเผลอไป

ส่วนความเป็นไปได้ที่จะมีกับ ครม. ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้ วางใจนั้น ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ จะตัดสินใจซึ่งไม่จำเป็นต้องหารือกับพรรคร่วม แต่พรรคชาติไทยฯ จะ ไม่เปลี่ยนอะไร เมื่อถามว่า มีคำแนะนำอะไรให้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็เดินให้ช้าหน่อย ให้มั่นคง เหยียบพื้นให้เต็มเท้า อย่าไปแกว่งก็ไม่เตะขาตัวเองแล้ว อย่างไรก็ตามปลาก็มักตายน้ำตื้น เพราะนึกว่ายังมีน้ำอยู่ แต่ที่ไหนได้ พอน้ำลดก็ฮวบไปเลย ก็ค้างเติ่ง ดิ้นไปดิ้นมา เป็นธรรมดา สัมมนา พท. รวมดาวคึกคัก

อีกด้านหนึ่ง ที่โรงแรมกรีนเนอร์รี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยจัดสัมมนา ภายใต้หัวข้อ เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย เพื่อไทย ผูกพันร้อยประสบการณ์ โดยมี ส.ส. และแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส. สัดส่วน นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังมีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 เข้าร่วมด้วยจำนวนมาก อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายพายัพ ชินวัตร นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล อดีตรองนายกฯ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นต้น ลำไยยาหอมกลับมายิ่งใหญ่

นายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง บรรยาย หัวข้อ อุดมการณ์และแนวทางสู่ความสำเร็จของพรรค ตอนหนึ่งว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับเพื่อไทยที่ถือว่าพรรคนี้เป็นพรรคที่สาม ที่ผ่านมาพวกเราคิดยาว ดังนั้นให้ลองนึกภาพว่าอีก 3-5 ปี เราจะเดินทิศทางไหน เพราะอีกเพียง 3 ปี นาย ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน จะกลับมารวมกันในทีมอีกครั้ง ตอนนั้นจะไม่มีใครใหญ่เท่าเราแล้ว เราคุมทั้งประเทศ แต่ตอนนี้ให้คิดว่ากำลังฝึกงานอยู่ ซึ่งตอนทำอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้คิดถึงอนาคต มีการวางวิสัยทัศน์ตลอด แม้ขณะนี้จะเป็นฝ่ายค้านแต่ก็เป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นขอให้พวกเราใจเย็น ๆ อดทนอีกนิดเดียว น้าเหลิมอุบไต๋ซักฟอก ครม.

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน เพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลหลักฐานบางอย่างให้ชัดเจน แต่ขณะนี้มีพร้อมแล้วทั้งหลักฐานที่เป็นบุคคลและเป็นเอกสาร บอกได้เลยว่าครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่แบบที่ว่าเรื่องปลากระป๋องหรือเรื่องแจกของเป็นแค่น้ำจิ้ม และตนเป็นผู้เข้ามาดูแลด้วยตัวเอง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นเรื่องอะไรและรัฐมนตรีในส่วนของพรรคไหน เพราะเรื่องแบบนี้เมื่อถึงเวลาก็ต้องดำเนินการทันที

ครั้งนี้จะหนักกว่าเรื่อง ส.ป.ก. ที่เคยล้มพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว ถ้าเราอภิปรายแล้วทำให้พรรคร่วมเชื่อและยกมือสนับสนุนพวกเรา นายอภิสิทธิ์อาจไม่มีโอกาสยุบสภาเลยก็ได้ ขณะนี้กำลังดูเรื่องทีมอภิปรายอยู่ว่าจะต้องใช้ ส.ส. กี่คน และใครจะดูเรื่องอะไร จนถึงรูปแบบการอภิปรายจะเป็นรูปแบบใหม่ ไม่เร่งรัดสรุปแบบ กระชั้นชิด อาจจะสรุปหลังข่าวภาคค่ำเพื่อแข่งกับละคร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุ รอเฟ้นชื่อว่าที่นายกฯ ประกบ

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า น่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทันในสมัยประชุมนี้ และจะเป็น การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องถอดถอนนายกฯ โดยพรรคเพื่อไทยต้องเตรียมรายชื่อผู้ที่เหมาะสมจะเป็นนายกฯ คนใหม่ ยื่นไปพร้อมกันในครั้งเดียวด้วยตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม พร้อมที่จะเป็นนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯ ได้อยู่แล้ว ส่วนสูงก็ถึง แต่ในพรรคเพื่อไทยยังมีผู้อาวุโสอยู่หลายคน

ส.ส.สัดส่วน ยังกล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับ ครม. อย่างแน่นอนว่า ไม่ทราบว่านาย สุเทพเป็นคนกล่าวยืนยันว่าจะไม่มีการปรับ ครม. จริงหรือไม่ เพราะถ้านายสุเทพ พูดจริงก็เท่ากับ ว่านายสุเทพ จะมีอำนาจใหญ่กว่านายกฯ จะเท่ากับว่าพรรคเพื่อไทยงานเข้าทันที เพราะต้องนำเรื่องนี้ไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ส.ว.ยื่น ป.ป.ช. ฟัน 3 รมต.

วันเดียวกัน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว. ยุติธรรม นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม กรณีลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่าเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 177 วรรคสอง รวมถึงเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 270, 275 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายเรืองไกร กล่าวว่า รัฐมนตรีทั้งสามคนจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ และหากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลว่ามีความผิด ก็จะต้องถูกถอดถอนจากตำแหน่งด้วย และเรื่องดังกล่าวก็จะเป็นบรรทัดฐานให้กับนักการเมืองต่อไป วิชาพลิก ก.ม. ไม่ผิดอาญา

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า คาดว่า ป.ป.ช. จะพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 5 ก.พ. อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นว่าศาล รัฐธรรมนูญน่าจะมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องนี้ได้ดีที่สุด สำหรับ ป.ป.ช. คงดูว่าอยู่ในข่ายอำนาจหรือไม่ และดูว่าเข้าข่ายขัดกันของผลประโยชน์หรือไม่ ซึ่งเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์จะต้องดู 2-3 เรื่อง คือ ถ้ากฎหมายต้องการเอาผิดจะเขียนไว้ในมาตรา 100-103 ของกฎหมาย ป.ป.ช. แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องผิดอาญาก็จะเป็นเรื่องผิดจริยธรรมที่อาจนำไปสู่การตำหนิ การถูกถอดถอน

กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า ต้องไม่ลืมว่าอำนาจของ ป.ป.ช. จะพิจารณาได้ต้องเป็นเรื่องความผิดทางอาญาเนื่องในการกระทำผิดหรือประพฤติมิชอบ กรณีนี้ยังไม่เข้าข่ายความผิดทางอาญา แต่อาจจะผิดมารยาท ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนไว้เฉพาะในมาตรา 177 แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องพ้นตำแหน่งหรือมีความผิดอย่างไร เตือนมาร์คอย่าตั้งยี้ซ้ำซาก

ขณะเดียวกัน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง ให้สัมภาษณ์กรณีนายกฯ ระบุจะใช้เวลาไม่เกิน 3 วันพิจารณากรณีนายบุญจงและนายวิฑูรย์ว่า ก่อนหน้าที่จะมอบให้นายวิฑูรย์มาเป็น รมว.พม. เครือข่ายองค์กรผู้หญิงเคยทักท้วงมาแล้ว ดังนั้นคิดว่านายกฯ น่าจะมีสปิริตบอกคนในภาคหรือโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยหาคนที่เหมาะสมซื่อสัตย์ มาทำหน้าที่ด้วย

หากมาอยู่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ภาพลักษณ์ครอบครัวส่วนตัว เรื่องจริยธรรมสำคัญ เราเคยบอกแล้วว่าคนที่เอามาภาพลักษณ์ทางสังคมไม่ค่อยดี เอ่ยชื่อออกมาคนในพรรคก็ท้วงติงซึ่งคนในพรรคมีความรู้ความสามารถด้านสังคมมีมากมาย นายกฯ ก็รู้ใครทำงานด้านสังคมหากโหวตในพรรคแล้วหาคนเหมาะสมไม่ได้ ก็ให้ไปหาคนนอกพรรคหรือหากผู้ชายเป็นรัฐมนตรีเยอะแล้วก็ให้โอกาสผู้หญิงมาบริหารกระทรวงบ้าง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี เรียกร้อง รบ.ดาหน้าปัดข้อเสนอเสื้อแดง

อีกเรื่องหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กล่าวถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เตรียมเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันที่ 17 ก.พ. ว่า ถ้าเป็นการเคลื่อนไหวชุมนุมยืดเยื้อ แต่ไม่มีปัญหาเรื่องกฎหมายก็สามารถทำได้ ทั้งนี้คงไม่กลับมาสู่วังวนเก่า ๆ เหมือนที่กลุ่มพันธมิตรฯ ทำ เพราะแนวทางการทำงานของรัฐบาลไม่เหมือนกัน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคง กล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มเสื้อแดงว่า ยังไม่ได้คุยกัน โดยรวม ๆ เรื่องการดำเนินคดีกับผู้ทำผิดกฎหมายเราทำอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอื่น ๆ ทำไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องยุบสภาไม่มีทาง รัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาบ้านเมือง แล้วจะไปทำให้สะดุดหยุดลงได้อย่างไร แต่รัฐบาลก็ไม่ประมาทและไม่ได้ประเมินคนเสื้อแดงต่ำด้วย สำหรับร่างกฎหมายดูแลความปลอดภัย สนามบินนั้นก็ยังต้องเข้าสภา และแม้ว่ากฎหมาย จะออกมาวันนี้ก็ไม่มีผลย้อนหลัง โอดเร่งคดีพธม.ในศาลไม่ได้

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กล่าวถึงข้อเรียกร้องที่ให้นำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ว่า คงทำไม่ได้ ถ้าจะแก้ก็ต้องแก้เป็นเรื่อง ๆ ไป เช่นเดียวกับที่เรียกร้องให้รัฐบาลลาออกก็สุดวิสัยเหมือนกัน เพราะยังไม่ได้ทำผิดอะไร ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ทำไปบ้างแล้ว เราเร่งได้เฉพาะชั้นพนักงานสอบสวนเท่านั้น แต่คงไปเร่งในชั้นอัยการและศาลไม่ได้

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะมาทวงสัญญากับรั ฐบาลที่เรียกร้องให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ และการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันที่ 14 ก.พ. ว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงก็คงจะต้องช่วยกันดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ในส่วนทหารไม่ต้องเตรียมกำลัง เพราะตำรวจพยายามดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น ที่ผ่านมาปฏิบัติได้เรียบร้อยดี และไม่ทำให้เกิดความรุนแรง ไม่ใช่จะมาปะทะกันเองแล้วทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียหาย มันจะทำให้บ้านเมืองไม่เรียบร้อย ซึ่งต้องขอบคุณทั้งสองฝ่ายที่ทำให้สถานการณ์เรียบร้อยดี เสื้อแดงนัดระดมทุน 14 ก.พ.

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ในช่วงระยะเวลา 15 วันจากนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้อง และวันที่ 14 ก.พ. คนเสื้อแดงจะจัดงาน วันแห่งความรักประชาธิปไตย ที่วัดเวฬุวนาราม (วัดไผ่เขียว) เขตดอนเมือง เพื่อสังสรรค์ครั้งสุดท้ายก่อนออกรบ โดยงานดังกล่าวจะเปิดขายบัตรที่นั่งละ 1,000 บาท เพื่อระดมทุนก่อนเดินหน้าเต็มรูปแบบ

เมื่อครบ 15 วันคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมกันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะเป็นวันไหนนั้นยังไม่แน่ชัด แต่กำหนดไว้ที่วันอังคารใดอังคารหนึ่ง โดยจะนัดรวมตัวกันที่ท้องสนามหลวง ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลภายในเวลา 11.00 น. และผมยืนยันเราจะไม่ยอมให้ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นกฎหมายอัปยศเข้าสู่ที่ประชุมสภาอย่างแน่นอน แกนนำ นปช. ระบุ นักวิชาการชี้การต่อสู้อีกยาวไกล

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กล่าวในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ จ.นครราชสีมา ตอนหนึ่ง ว่า การยึดสนามบินนานาชาติได้สร้างต้นทุน ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ไม่ได้กระทบแค่ การท่องเที่ยว แต่พัวพันเศรษฐกิจภาคส่วนอื่น ๆ ก่อให้เกิดการว่างงานจำนวนมาก และต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาหนัก คือ รัฐประหาร 19 ก.ย. 49 หากปล่อยให้กลไกแก้ไขตามกติกาก็จะไม่เป็น เช่นนี้ และมองว่าในปี 53-54 มีโอกาสเกิดวิกฤติการคลังสูง ความยากลำบากของการแก้ไขปัญหาอีกประการหนึ่งคือ ประเทศไทยเกิดสภาวะ 2 มาตรฐาน กลุ่มชนชั้นกลางที่เป็นพวกอนุรักษ นิยม เป็นคนที่เสียงดัง กุมสื่อ กุมอำนาจ ไม่เอาพรรคที่เคยเป็นพรรคไทยรักไทย แต่ตรงกันข้ามคนรากหญ้ายังให้การสนับสนุน นอกจากนี้การเมืองไทยก็มี 2 มาตรฐานพอสมควร สังคมไหนไม่เป็นธรรม ไม่มีนิติธรรม นิติรัฐ ความขัดแย้งรุนแรงก็ไม่มีทางจบ ความขัดแย้งระหว่างอมาตยา ธิปไตย และประชาธิปไตยจะเป็นหนังม้วนยาว จะต่อสู้กันอีกยาว ตีนตบดักรอประท้วง มท.3

ที่ จ.ขอนแก่น นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เดินทางมาเป็นประธาน เปิดงาน มหกรรมนวัตกรรมท้องถิ่นไทย ครั้งที่ 1 และบรรยายพิเศษเรื่องนโยบายการปกครองท้องถิ่นไทย ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก ม.ขอนแก่น ปรากฏว่ามีกลุเสื้อแดง ประมาณ 10 คนนำโดย นายยงยุทธ คงปฏิมากร ถือตีนตบมายืนรออยู่ที่หน้าประตูทางเข้า พ.ต.อ.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ รอง ผบก.ภ.จว. ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุจินต์ นิชพานิชย์ ผกก. สภ.เมืองขอนแก่น นำตำรวจ 30 นาย มาคอยดูแลความเรียบร้อยและกันไม่ให้คนเสื้อแดงเข้าใกล้ กระทั่งการประชุมเสร็จสิ้นในช่วงบ่าย ตำรวจได้นำนายถาวร เดินทางไปขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ โดยไม่มีเหตุรุนแรง แดงเนวินโวพาแม้วกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า ในช่วงเย็นวันที่ 1 ก.พ. นายขวัญชัย สาราคำ หรือขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้ตั้งเวทีปราศรัยสัญจรที่สนามข้างที่ว่าการ อ.หนองหาน โดยปราศรัยสรุปว่า การที่ไม่ลงไปกรุงเทพฯ ร่วมกับรายการความจริงวันนี้ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ผล แค่ไปติดแผ่นป้ายขับไล่เท่านั้น ส่วนชมรมคนรักอุดรจะเคลื่อนไหวในพื้นที่เท่านั้น เพราะต้องใช้สติไม่ใช้อารมณ์ในการเคลื่อนไหวหรือการชุมนุม พวกเราเท่านั้นที่ไม่รับผลประโยชน์หรือเงินทอง ตัวเองได้ไปบอกกับ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าคนเสื้อแดงเท่านั้นที่จะเป็นคนพา อดีตนายกฯ ทักษิณ กลับประเทศไทยมาได้ ทำให้คนเสื้อแดงหลายจังหวัด เดินทางมาหาพูดคุยอยากให้ชมรมคนรักอุดรเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนทางการเมือง แฉคนใน ปชป.บีบวิฑูรย์

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีสื่อต่างประเทศวิจารณ์ว่ารัฐบาลอยู่ภายใต้กองทัพและกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า มีสื่อบางฉบับ และเป็นการอ้างอิงเหตุผลจากบางคนเท่านั้น ซึ่งเหตุผลก็น่าแปลก เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่านายกฯ เป็นตัวของตัวเองเต็มร้อย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แน่นอนครับ ทุกเรื่อง เรื่องที่ให้ไปมีการดำเนินการ ทั้งเรื่องภาคใต้ เรื่องโรฮิงยา ผมก็เป็นคนเริ่มต้น และไม่ได้มีปัญหาอะไรกับกองทัพ

นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พม. เปิดเผยว่า เท่าที่คุยกับนายวิฑูรย์ และวิเคราะห์กัน กระแสกดดันให้ออกก็มี โดยเป็นกระแสกดดันจากภายในพรรค มากกว่าภายนอกพรรค จึงกังวลใจ แต่ก็ต้องบอกเพื่อน ส.ส. ในที่ประชุมพรรควันที่ 3 ก.พ. ให้เข้าใจ และขอโทษประชาชนที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดี แต่จะให้เราตรวจสอบทุกกระป๋องคงเป็นไปไม่ได้ เพราะมีวันเวลา ผลิตและวันหมดอายุ ระบุไว้ข้างกระป๋องอยู่แล้ว ฝ่ายค้านโชว์รูปมัดเทพเทือก

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำ นปช. ได้นำภาพถ่ายมีรูปนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ นายชุมพล กาญจนะ และนายประพนธ์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ โดยทั้งสามสวมเสื้อโลโก้พรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดินทางไปแจกผ้าห่มให้ประชาชนบนเกาะสมุย มาแสดงพร้อมแถลงว่า ที่นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ว่าไปทำบุญตามประเพณีโดยไม่มีการแจกของนั้น ตนมีรูปภาพของนายสุเทพที่กำลังถวายสังฆทานให้แด่พระภิกษุ จากนั้นได้เดินไปพบผู้สูงอายุในพื้นที่เกาะสมุย และได้มอบสิ่งของตามที่มีการร้องเรียน หากนายสุเทพจะทำบุญทำไมต้องไปพร้อมผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์

ข้าวของที่แจกระบุชัดว่าเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนจะถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่นั้น ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย การอ้างว่า ไม่ใช่กรณีทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น จะต้องไม่ลืมว่ากฎหมายต้องเป็นกฎหมาย กรณีนายสมัคร ที่จัดรายการชิมไปบ่นไป ขณะเป็นนายกฯ ก็ไม่ใช่การ ทุจริตคอร์รัปชั่นก็ยังถูกพิพากษาว่าขัดต่อกฎหมาย ในกรณีของนายสุเทพจึงไม่สามารถกล่าวอ้างได้นอกจากนี้ยังจะเป็นการพิสูจน์กระบวนการความยุติธรรมในประเทศไทยอีกด้วย นายณัฐวุฒิ กล่าว กกต.ปัดดองคดีบุญจง

นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ให้สัมภาษณ์ กรณี กกต.สั่งดำเนินคดีอาญาแต่ไม่สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาด ไทย ว่า เรื่องนี้เกิดในช่วงที่มีการเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 23 ธ.ค. 50 ขณะนั้นนายพลพีร์ สุวรรณฉวี พรรคเพื่อแผ่นดิน ชนะเลือกตั้ง แต่ได้กระทำผิดกฎหมาย กกต. จึงสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 20 ม.ค. 51 สำหรับนายบุญจงแพ้เลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค. แต่มีเรื่องร้องเรียน ซึ่ง กกต. ได้นำมาพิจารณาหลังจากที่ได้มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ไปแล้ว โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง แต่ไม่สามารถเพิกถอนสิทธิได้ เนื่องจากว่าการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. ได้ยุติไปแล้วหลังจากที่ได้มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งในครั้งที่ 2

ผมต้องยอมรับว่ากระบวนการสอบสวนสำนวนของนายบุญจงล่าช้า เพราะเจ้าหน้าที่มีงานมาก แต่คงไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดไปตบทรัพย์เพื่อดึงเรื่องให้ช้าอย่างแน่นอน นายสมชัย ระบุและว่า ขณะนี้ได้ปรับแก้ถ้อยคำเรียบร้อยและอยู่ระหว่างการลงนามของ กกต. เพื่อส่งให้ กกต.จว. ใช้ประกอบการฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาต่อไป แม้วโฟนอินอ้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook