เปิดโฉมหน้า "แท็กซี่หื่น" ลวงผู้โดยสารสาวข่มขืน เมื่อวันสงกรานต์

เปิดโฉมหน้า "แท็กซี่หื่น" ลวงผู้โดยสารสาวข่มขืน เมื่อวันสงกรานต์

เปิดโฉมหน้า "แท็กซี่หื่น" ลวงผู้โดยสารสาวข่มขืน เมื่อวันสงกรานต์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจบางกรวยตามจับถึง จ.ระยอง โชเฟอร์แท็กซี่หน้าหื่น ลวงพยาบาลสาวเข้าซอยเปลี่ยว ไม่ไปส่งที่หมอชิตตามสั่ง ก่อนพาเข้าโรงแรม หวังข่มขืน แต่เหยื่อวิ่งหนีตายออกมาได้

(22 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสานนาม ผกก.สภ.บางกรวย พร้อมชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายปฏิวัติ หรือป๋อง บุญเสงี่ยม อายุ 30 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.229/2559 ลงวันที่ 14 เม.ย. 59

พร้อมกับยึดของกลาง เป็นเงินสดจำนวน 8,000 บาท พระเลี่ยมทอง 1 องค์ กุญแจรถยนต์ มีดคัตเตอร์ โดยกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยใช้พาหนะเพื่อกระทำความผิดเพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ, พาอาวุธไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร จับกุมได้ที่วัดปิปผลิวนาราม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย อายุ 39 ปี เป็นนางพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ได้เรียกรถแท็กซี่โตโยต้า รุ่นอัลติส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทร-6793 กทม. จากริมถนนเพชรเกษม เพื่อให้ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต

เมื่อขึ้นบนรถแท็กซี่ผู้เสียหายได้นั่งเบาะด้านหลัง เยื้องๆ กับคนขับ จากนั้นได้ขับไปเข้าถนนราชพฤกษ์ และใช้เส้นเปลี่ยว โดยอ้างว่าเป็นทางลัด ซึ่งผู้เสียหายจำไม่ได้ว่าเป็นจุดใด จากนั้นได้ขับเข้าไปในซอยเปลี่ยว ทราบภายหลังคือซอยหลังวัดสังฆทาน

หลังจากนั้นได้ใช้อาวุธมีดจี้ผู้เสียหายให้มอบเงินให้และบังคับให้ลงจากรถเดินเข้าไปในพงหญ้า ก่อนจะลงมือกระทำชำเราผู้เสียหายแต่ไม่สำเร็จ หลังจากนั้นได้พาขึ้นรถแท็กซี่ ใช้เสื้อเชิ้ตของผู้เสียหายมัดมือและเอาหมวกปิดตาไว้ ขับพาเข้าโรงแรมเพื่อกระทำชำเราอีกครั้ง

แต่ผู้เสียหายใช้อาศัยจังหวะที่ผู้ต้องหาลงไปชำระเงิน วิ่งหลบหนีออกไปขอความช่วยเหลือกับพนักงานโรงแรม ส่วนผู้ต้องหาได้ขับรถหนีไป โดยได้นำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปด้วย ทั้งโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กระเป๋าเงิน กระเป๋าเสือผ้าและสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท 1เส้น

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook