ลือทั้งเมือง! มือถือช่างสนบ.แม่ฮ่องสอนบึ้มจากไฟแรงสูง

ลือทั้งเมือง! มือถือช่างสนบ.แม่ฮ่องสอนบึ้มจากไฟแรงสูง

ลือทั้งเมือง! มือถือช่างสนบ.แม่ฮ่องสอนบึ้มจากไฟแรงสูง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (25 เม.ย.) หลังจากในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ข่าว โดยมีข้อความระบุว่า "เมื่อเวลา 14.30 น. (19 เม.ย.59) ขณะที่เจ้าหน้าที่วิทยุการบิน จำนวน 2 นาย คือ นายประเสริฐ และ นายทรงพจน์ ซึ่งเดินทางไปซ่อมเครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าที่สนามบินแม่ฮ่องสอน ประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติงาน

จากการใช้โทรศัพท์มือถือเปิดเป็นไฟส่องสว่างใกล้บริเวณที่มีกระแสไฟฟ้าแรงสูง ทำให้โทรศัพท์ระเบิดจากกระแสไฟแรงสูงวิ่งผ่านอากาศเข้าสู่โทรศัพท์ได้รับบาดเจ็บ บริเวณมือ-แขนและใบหน้าบางส่วน ถูกนำส่งรพ.ศรีสังวาลย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

อาการของ เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายขณะรายงานนี้อยู่ในขั้นปลอดภัย กระผมได้สั่งการในเบื้องต้นให้งดการนำโทรศัพท์มือเข้าไปใช้งานในบริเวณสุ่มเสี่ยง จากพื้นที่มีกระแสไฟฟ้าแรงสูงแล้วระวังครับ อย่าเอามือถือทำเป็นไฟฉายส่องตู้ไฟฟ้าที่บ้านหรือถังน้ำมัน"

โดยข้อความดังกล่าว ได้สร้างกระแสตระหนกตกใจอย่างรุนแรงของผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ และพากันโทรมาหาผู้สื่อข่าวเพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวอย่างหนาแน่น รวมไปถึงการโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ รพ.ศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน, ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน และ วิทยุการบินแม่ฮ่องสอน ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็ไม่สามารถให้คำตอบได้อย่างชัดเจน ยิ่งทำให้เกิดความตระหนกมากยิ่งขึ้น

จากการสอบถาม นายวีระวัฒน์ ทะดง ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ระบบไฟฟ้าของวิทยุการบินแม่ฮ่องสอน ที่พ่วงกับห้องควบคุมระบบไฟฟ้าของท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ได้เกิดขัดข้อง และได้มีเจ้าหน้าที่ช่างเทคนิคด้านระบบไฟฟ้าของบริษัทวิทยุการบิน เชียงใหม่ เดินทางมาตรวจซ่อมกล่องเบรกเกอร์จ่ายระบบไฟให้แก่ สถานีวิทยุการบินแม่ฮ่องสอน

และขณะที่กำลังตรวจสอบระบบไฟฟ้าอยู่นั้น ได้เกิดกล่องเบรกเกอร์ระเบิดขึ้น โดยจากการรายงานของช่างเทคนิคประจำท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ระบุว่า ขณะที่ช่างของวิทยุการบินตรวจสอบอยู่นั้น ได้เปิดไฟฉายจากมือถือเพื่อส่องสว่าง แต่ขณะนั้นอุปกรณ์ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ที่เรียกว่าแคลมป์มิเตอร์ ได้ไปแตะกับโลหะของเบรกเกอร์ทำให้เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งช่างของท่าอากาศยาน ได้ทำการเรียกหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินของ รพ.ศรีสังวาลย์ มารับตัว ภายหลังเกิดเหตุไม่กี่นาที

ด้าน นายแพทย์วิเชียร โยธาใหญ่ เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าว ทาง รพ.ศรีสังวาลย์ ได้รับตัวผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 คน คือนายประเสริฐ และ นายทรงพจน์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้บริเวณผิวหนังที่แขน ฝ่ามือ และใบหน้า โดยแผลของผู้ป่วย เป็นแผลเกิดจากไฟไหม้ในระดับ 2 และ 3 คือผิวชั้นนอกถูกความร้อนหลุดล่อน และ ผิวที่ถูกความร้อนและพุพองมีน้ำด้านใน

เบื้องต้น ได้ทำการรักษาพยาบาลและต่อมาทราบว่า ผู้ป่วยทั้งสองคนมีภูมิลำเนาที่เชียงใหม่ จึงได้แจ้งให้ย้ายตัวไปรักษาที่ รพ.เชียงใหม่ราม เนื่องจากบาดแผลของผู้ป่วยทั้งสองคนจะต้องรักษาแผลทุกวัน โดยในวันที่คนทั้งสองมารับการรักษา ได้แจ้งต่อแพทย์ผู้รักษาว่า ได้เกิดเหตุระเบิดในห้องเบรคเกอร์ตัดต่อไฟ และไม่ได้กล่าวถึงเหตุมือถือส่องสว่างแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในวันที่ผู้ป่วยมารักษาตัว ไม่พบว่ามีถุงมือหนังสวมติดมือมาแต่อย่างไร

ขณะที่ แหล่งข่าวในบริษัทวิทยุการบิน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เช้าวันนี้ (25 เม.ย.) ได้มีการโพสต์ข้อความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องภายในของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จนทำให้ผู้บริหารระดับสูง ต้องเอาเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมเป็นการด่วน สาเหตุมาจากการโพสต์ข้อความที่โยงไปว่า เหตุระเบิดห้องควบคุมไฟฟ้า (เบรกเกอร์) โดยสาเหตุมาจากช่างได้ใช้โทรศัพท์มือถือเปิดไฟส่องสว่างในห้องเบรกเกอร์ และทำให้ไฟฟ้าจากตัวเบรกเกอร์พุ่งเข้าหาโทรศัพท์มือถือของช่าง เป็นเหตุให้เกิดระเบิดขึ้นและช่างฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุมือถือระเบิด

ข้อเท็จจริงเกิดจากเครื่องมือวัดกระแสไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า แคลมป์มิเตอร์เสื่อมสภาพ เมื่อช่างนำแคลมป์มิเตอร์ไปตรวจเช็คกระแสไฟ ทำให้ขั้วของเครื่องมือดังกล่าว ไม่มีฉนวนหุ้มและเกิดไฟฟ้าลัดวงจรที่หม้อเบรคเกอร์ และเกิดระเบิดทำให้ไฟไหม้บริเวณแขนของช่างและใบหน้า

โดยในขณะปฏิบัติงานช่างไม่ได้ใส่ถุงมือที่เป็นฉนวนกันไฟฟ้า ทำให้ไฟได้ไหม้จนมือและแขนบาดเจ็บสาหัส นอกจากนั้น ระบบไฟฟ้าแรงดัน 380 โวลต์ ไม่ไช่ไฟฟ้าแรงสูง ไม่สามารถพุ่งหามือถือได้ ฉะนั้นกรณีการโพสต์ข้อความดังกล่าวที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว จึงไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook