แชร์คลิปวันเกิดเหตุ ยายร้องหาตา เรือชนกันที่เขื่อนเชี่ยวหลาน

แชร์คลิปวันเกิดเหตุ ยายร้องหาตา เรือชนกันที่เขื่อนเชี่ยวหลาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โลกออนไลน์สุดสะเทือนใจ แชร์ภาพเหตุการณ์วันเกิดเหตุ หลังเรือชนกันอับปางที่เขื่อนเชี่ยวหลาน พยุงช่วยยายขึ้นจากน้ำ ทำได้แค่ส่งเสียงร้องหาตาที่ยังหายสาบสูญ

จากกรณีเหตุเรือนำเที่ยวเฉี่ยวชนกับเรือหางยาวของชาวบ้านล่มลงที่เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา นายประจิตร สายเสมา อายุ 69 ปี ชาวบ้านที่สูญหายไปหลังเกิดเหตุ ยังไม่สามารถค้นพบร่างได้ ขณะที่ นายชยุตม์ อายุ 21 ปี นักประดาน้ำที่ลงไปค้นหาก็ยังหายตัวไปในสายน้ำเช่นเดียวกัน

ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอที่ระบุว่าเป็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ช่วงเวลาที่หลังเกิดเหตุ นักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือหญิงสูงวัยขึ้นมาจากน้ำ ในสภาพที่อิดโรย รอบข้างเป็นซากของกระจายกระจัด ที่เป็นผลจากเหตุเฉี่ยวชนกัน

คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ผู้ใช้เฟซบุ๊กคุณ Vi Sacup เหตุการณ์ความยาวประมาณ 2 นาที เผยให้เห็นหญิงสูงวัยกำลังลอยคออยู่ในน้ำ คนที่อยู่บนแพพยายามเข้าไปช่วยเหลือ กระโดดลงไปในน้ำและช่วยสวมเสื้อชูชีพให้กับหญิงสูงวัย ก่อนจะช่วยพยุงขึ้นมาอยู่บนแพได้สำเร็จ

ในช่วงท้ายของคลิป หญิงสูงวัยที่อยู่ในสภาพอิดโรยและเหนื่อยล้า ทำได้แค่ตะโกนร้องเรียกว่า "ตามหาตาก่อน... ตา...!!" ซึ่งน่าจะหมายถึง นายประจิตร ชาวบ้านที่ยังหายสาบสูญไปจากเหตุการณ์นี้ สร้างความสงสารเวทนาแก่ผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ผู้คนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการช่วยค้นหาร่างของผู้สูญหายทั้ง 2 คน และแสดงความรู้สงสารและสะเทือนใจแก่ภาพที่พบเห็น แม้ว่าส่วนหนึ่งจะตำหนิต่อว่าผู้ที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ว่า เหตุใดถึงไม่เข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เกิดประเด็นถกเถียงกันอีกเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม วันนี้ย่างเข้าสู่วันที่ 6 หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำทั้งชาวไทยและต่างชาติ พยายามดำน้ำค้นหาผู้สูญหายตลอดหลายวันติดกัน แต่ก็ยังไม่พบ เนื่องจากระดับน้ำที่ลึกมากเป็นอุปสรรคหลัก ทำให้ทีมค้นหาได้ยกเลิกภารกิจออกไปแล้วบางส่วน แต่ก็ยังคงมีปฏิบัติการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความหวังที่ริบหรี่ลงเรื่อยๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook