ตำรวจขี่รถตัดหน้าแท็กซี่ เบรกชนเปรี้ยง! ตายในเครื่องแบบ

ตำรวจขี่รถตัดหน้าแท็กซี่ เบรกชนเปรี้ยง! ตายในเครื่องแบบ

ตำรวจขี่รถตัดหน้าแท็กซี่ เบรกชนเปรี้ยง! ตายในเครื่องแบบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"หมวดลิง" รองสวป.ปทุมธานี ขับจักรยานยนต์อยู่ๆ ตัดหน้ารถแท็กซี่กำลังไปส่งผู้โดยสาร เบรกไม่ทันชนกระเด็น เสียชีวิตคาเครื่องแบบ พยานให้การเหมือนกับโชเฟอร์

เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) พ.ต.ท.วรุตน์ ไทยรัฐเทวินทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถแท็กซี่ชนกับจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้คนขับขี่จักรยานยนต์ ซึ่งเป็นตำรวจเสียชีวิตคาเครื่องแบบ บริเวณใกล้หน้า บ.ศูนย์บริการเทคนิคปูนอินทรี ถนนสายปทุมธานี-แยกไทด้อยซ์ หลังรับแจ้งจึงพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุ อยู่เลนขวาสุด ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้า อ.ลาดหลุมแก้ว พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีดำ ล้มคว่ำในสภาพเสียหาย ใกล้กันพบศพ ร.ต.ต.พีระพล ศิริคำหอม หรือที่ทุกคนรู้จัก "หมวดลิง" อายุ 54 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.(สภ.คลองห้า) ช่วยราชการ ฝ่ายธุรการกองกำลังบำรุง ภ.จว.ปทุมธานี

ขณะที่ห่างออกไปเล็กน้อย พบรถยนต์แท็กซี่มิเตอร์ สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มฎ-5967 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถฝากระโปรงยุบ กันชนหน้าแตก โดยมี นายเดชา วันประเสริฐ อายุ 61 ปี คนขับยืนรอให้การอยู่

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบหมวกกันน็อกสีดำตกอยู่ข้างล้อหน้าซ้ายรถแท็กซี่ และมีรอยเบรกของรถแท็กซี่เป็นทางยาวประมาณ 10 เมตร นายเดชา คนขับแท็กซี่ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุรับผู้โดยสารมาจากรังสิต เพื่อมาส่ง รพ.ปทุมธานี เมื่อลงจากสะพานแยกสันติสุข(ร้อยศพ) ไม่ถึง 150 เมตร เห็นรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุจอดอยู่เลนซ้ายสุด

แต่จู่ๆ ก็ขับพุ่งตัดหน้าอย่างกะทันหัน ตนพยายามเบรกแต่ไม่ทันและพุ่งชนอย่างจัง ก่อนจอดรถเพื่อลงมาช่วยเหลือแต่ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว เช่นเดียวกับที่ นายอนุชา พยานที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งขับขี่จักรยานยนต์ตามหลังมา ก็ให้การเช่นเดียวกับคนขับรถแท็กซี่

ทางด้าน พ.ต.ท.วรุตน์ ไทยรัฐเทวินทร์ กล่าวว่าเบื้องต้น ได้มีการสอบปากปากคำพยานและตรวจสอบในที่เกิดเหตุไว้แล้ว ซึ่งจะได้มีการสอบสวนคนขับแท็กซี่ และพยานอีกครั้ง โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนศพมอบให้มูลนิธิฯนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook