ตร.หัวหินชี้แจง คลิปฉาวไทยต่อยฝรั่งน็อค ตอนนี้จับแล้ว 3 คน

ตร.หัวหินชี้แจง คลิปฉาวไทยต่อยฝรั่งน็อค ตอนนี้จับแล้ว 3 คน

ตร.หัวหินชี้แจง คลิปฉาวไทยต่อยฝรั่งน็อค ตอนนี้จับแล้ว 3 คน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจหัวหินยืนยัน จับตัวมือชกพ่อแม่ลูกฝรั่งได้แล้ว 3 คน ยังตามตัวอีกคน ส่งขังคุกเรียบร้อยแล้ว ยอมรับกระทบต่อการท่องเที่ยว

(28 เม.ย.) พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน เปิดเผยว่า ความคืบหน้าเหตุทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 3 ราย นายลูอิส อายุ 68 ปี ได้รับบาดเจ็บที่หน้าผากเป็นแผลแตก นางโรสแมรี่ อายุ 68 ปี เป็นแผลฟกช้ำที่ใบหน้าและศีรษะ และ นายลูอิส จอห์น อายุ 43 ปี ลูกชายได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแตกที่ศีรษะ เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมานั้น

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ 2 คน ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา คือ นายสุภัททา อายุ 32 ปี และ นายยิ่งใหญ่ อายุ 32 ปี ก่อนที่ล่าสุดเพิ่งสามารถจับกุมตัว นายศิวะ อายุ 20 ปี ได้อีกคน พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดหัวหินแล้ว โดย นายสุภัททา มีญาติติดต่อขอประกันตัวออกไป

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 1 ราย ตอนนี้ทราบชื่อและที่อยู่แล้ว พร้อมกับขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเกรงว่าจะทำให้ผู้ก่อเหตุไหวตัวและหลบหนีไป คาดว่าน่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุเริ่มมาจาก นายลูอิส ได้เดินไปชนแขนของ นายสุภัททา ซึ่งขณะนั้นกำลังอยู่ในอาการมึนเมา ทำให้เซถลาชน นายสุภัททา เกิดไม่พอใจ จึงผลักหน้าอกนายลูอิส จนล้มคว่ำไป

เมื่อพ่อแม่ของนายนายลูอิสเห็นเหตุการณ์ จึงตรงเข้าช่วยเหลือ แต่ นายสุภัททา ไม่ฟังเสียง กลับเรียกพรรคพวกรวม 4 คน มารุมทำร้ายนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน ได้รับบาดเจ็บ ล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษทั้ง 3 คนนั้น นายลูอิส ได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว ส่วนพ่อแม่มีกำหนดการเดินทางกลับประเทศอังกฤษ ในวันที่ 3 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ นางโรสแมรี่ ยังมีอาการปวดศีรษะอยู่ และยังต้องให้แพทย์ตรวจรักษาอากาศบาดเจ็บอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปสอบปากคำเอาไว้แล้ว

ขณะที่พยานผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเป็นวันสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ซอยบิณฑบาตรนับหมื่นราย ก่อนเกิดเหตุตนยังยืนดูนักท่องเที่ยวอยู่หน้าร้านเช่ารถจักรยานยนต์ของตัวเอง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไม่เกิน 10 เมตร ก็เห็นว่ามีเหตุชนกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่อง เพราะจำนวนเยอะมาก ชนกันบ้างเป็นเรื่องปกติ

แต่อยู่ดีๆ ก็พบว่าเกิดเหตุชกต่อยและตะลุมบอลกัน แล้วก็เห็นว่านักท่องเที่ยวล้มลงไปนอนกองกับพื้นถนน ส่วนคนก่อเหตุก็วิ่งหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับร้านเช่ารถของตน ปกติจะให้เช่ารถได้วันละไม่ต่ำกว่า 10 คัน หลังสงกรานต์ยอดเช่าตกฮวบ เหลือเพียงแค่วันละ 1-2 คันเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook