คสช.ยันคิดเห็นผ่านโซเชียลได้แต่อย่าบิดเบือน

คสช.ยันคิดเห็นผ่านโซเชียลได้แต่อย่าบิดเบือน

คสช.ยันคิดเห็นผ่านโซเชียลได้แต่อย่าบิดเบือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โฆษก คสช. ยันแสดงความเห็นผ่านโซเชียลทำได้ แต่อย่าบิดเบือน เตรียมนำ 8 คน ผิด พ.ร.บ.คอมฯ ฝากขังศาลกรุงเทพฯ วันนี้

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการจับกุมผู้ที่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควบคุมตัวทั้ง 8 คนในฐานความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และกฎหมายอาญา ม.116 ฐานยุยงปลุกปั่น ว่าจากการสอบสวนของพนักงานสอบสวน พบหลักฐานการกระทำที่ลักษณะเผยแพร่โซเชียลมีเดีย เป็นขบวนการที่เข้าข่ายความผิด จำนวน 8 คน ซึ่งเป็นพฤติกรรมมีความเชื่อมโยงกันแน่นอน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และเตรียมนำตัวฝากขังที่ศาลกรุงเทพ ภายในวันนี้ ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นในทางคดียังไม่พบว่าผู้ต้องหามีการเชื่อมโยงกับกลุ่ม นปช. คือ คนเสื้อแดง แต่ในทางสังคมมีความเชื่อมโยงกับแกนนำ นปช.บางคนจึงมีความเป็นไปได้ว่า จะมีกลุ่มบุคคลอยู่เบื้องหลัง ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับพยาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะต้องสืบสวนขยายผลต่อไป

พร้อมกันนี้ โฆษก คสช. ยังยืนยันว่า การโพสต์แสดงความคิดเห็นบนสื่อโซเชียลมีเดีย ยังสามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปโดยสุจริต ไม่บิดเบือนข้อมูล และไม่กระทบกับองค์กรอื่นใด


พ.อ.วินธัย ยังกล่าวถึงกรณีที่ แอมเนสตี้ และองค์กรระหว่างประเทศอีก 6 แห่ง ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล และ คสช. ปล่อยตัวผู้ที่โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เป็นการปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมายบ้านเมือง ดำเนินการไปตามหลักฐานไม่อยากให้ใช้คำว่า เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตามอำเภอใจ เพราะเป็นการดูหมิ่นการทำหน้าที่และจะเหมือนจงใจทำลายความน่าเชื่อถือในตัวเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้น การจะให้ข้อมูลอะไรควรมีข้อมูลที่สมบูรณ์ครบถ้วนมิฉะนั้นสังคมจะสับสนและเคลือบแคลงต่อการทำหน้าที่ต่อองค์กรในภาคประชาสังคมเอง และส่วนตัวเชื่อว่ากฎหมายเป็นกลไกหลักในการปกป้องสิทธิมนุษยชนให้กับคนในสังคม ซึ่งการไม่ทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในแบบที่ควรจะเป็น อาจส่งผลให้บางบุคคลในสังคม มีการละเมิดสิทธิ์ซึ่งกันและกันได้

จึงขอความร่วมมือองค์กรทางสังคมต่าง ๆ ได้มีความเป็นธรรมต่อการแสดงออกเชิงความรู้สึกต่อเจ้าหน้าที่ด้วย


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook