นายกฯมอบประวิตรเร่งบูรณาการประชารัฐ

รองนายกประวิตร เผย นายกฯ มอบหมายบูรณาการ 33 หน่วยงาน ดำเนินการ 'ประชารัฐร่วมใจสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนมั่นคง ปลอดยาเสพติด' ยัน ปราบมาเฟียนครปฐมไม่เกี่ยวการเมือง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึง การประชุมพิจารณา "แผนงานประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้าน/ชุมชนมั่นคง ปลอดยาเสพติด พ.ศ.2559 - 2560" เมื่อวานที่ผ่านมา ว่า เป็นการเรียกประชุม 33 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเองเป็นประธานการประชุมเพื่อบูรณาการทั้ง 33 หน่วยงานในการดำเนินงานร่วมกัน ตั้งแต่แนวชายแดนจนถึงหมู่บ้าน ทั้งการบำบัดรักษา และปราบปรามยาเสพติด ซึ่งทุกหน่วยจะต้องรับทราบแผนที่ต้องดำเนินการร่วมกัน เบื้องต้นจะเริ่มในปี 2559 ถึง 2560 ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. และรัฐบาลยังคงอยู่ โดยในขณะนี้ยังไม่มีรายชื่อผู้กระทำความผิด และไม่อยากพาดพิงใคร แต่หน่วยงานจะต้องแบ่งหน้าที่การดูแล ขณะที่ในชุมชนต้องให้ความร่วมมือ ส่วนรูปแบบในการดำเนินงานมีขั้นตอนไว้ทั้งหมดแล้ว

พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่ปราบปรามผู้มีอิทธิพล จ.นครปฐม 12 จุด ซึ่งมีบ้านของ นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า เป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ ยืนยันว่าการจับกุมครั้งนี้ ไม่ใช่การปรามหรือขู่ไม่ให้นักการเมืองออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย 

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะทำงานพิจารณาถอนฟ้องคดีสลายการชุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง แต่เป็นการดำเนินการเนื่องจากมีคนร้องเรียนเข้ามา และได้มีการตั้งคณะทำงานฯ ขึ้น เพื่อตรวจสอบหลักฐานข้อมูลเก่าและใหม่และนำมาเปรียบเทียบกัน โดยไม่ใช่การรวบรัดหรือทำได้ทันทีและมีขั้นตอนเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ หลังผลการหารือที่ไทยต้องการให้มีการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยและกลุ่มมาราปาตานีต้องการให้มีการลงนามข้อตกลงร่วมก่อนการพูดคุย โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีความเห็นไม่ตรงกัน และการพูดคุยต้องเดินหน้าต่อไปโดยไม่สะดุด