รบ.ปัดซ้อมทรมานคนคิดต่างยันไม่กังวลแจงตปท.

รบ.ปัดซ้อมทรมานคนคิดต่างยันไม่กังวลแจงตปท.

รบ.ปัดซ้อมทรมานคนคิดต่างยันไม่กังวลแจงตปท.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.สรรเสริญ ยัน คสช. - รบ. มุ่งดูแลความสงบเรียบร้อย ไม่เคยซ้อม ทรมานผู้เห็นต่าง -รบ. ไม่กังวล ทำความเข้าใจองค์กรระหว่างประเทศ ติงเครือข่ายวิชาการ ดึง UN ตรวจสอบ ชักศึกเข้าบ้าน

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ยื่นเรื่องต่อ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ตรวจสอบและยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้ที่เห็นต่างจากรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า เป้าหมายของ รัฐบาล และ คสช. คือ การรักษาความสงบเรียบร้อย ในช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศ โดยยืนยันว่า นับตั้งแต่เข้ามาบริหารบ้านเมือง ไม่เคยมีเหตุการณ์จับกุม ซ้อม ทรมานประชาชน หรือกลุ่มผู้ที่เห็นต่าง ตามที่เครือข่ายอาจารย์ นำมากล่าวอ้าง

พร้อมกันนี้ พล.ต.สรรเสริญ ระบุว่า ผู้กระทำผิดกฎหมายทุกคน จะถูกควบคุมตัวและปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย โดยแม้แต่คนที่กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ไม่เคยถูกกระทำรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้น จึงอยากให้เครือข่ายอาจารย์ พิสูจน์ให้เห็นด้วยหลักฐาน ไม่ควรเชื่อข้อมูลจากการฟังตามกันมา หรืออ่านเพียงข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย

พล.ต.สรรเสริญ ยังกล่าวว่า การเรียกร้องให้ UN เข้ามาก้าวก่ายกิจการภายในประเทศไทย ของเครือข่ายอาจารย์นั้น เปรียบเหมือนการชักศึกเข้าบ้าน โดยนำประเด็นต่างกรรมต่างวาระมาผสมกัน เช่น การนำคำสั่ง คสช.ที่ 13/2559 มาเขียนรวมกับ พ.ร.บ.การลงประชามติ ว่า เป็นการใช้กฎหมายควบคุมผู้เห็นต่าง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน โดยคำสั่ง 13/2559 เป็นกฎหมายเพื่อกวาดล้างมาเฟีย เพื่อปกป้องสุจริตชน ขณะที่ พ.ร.บ.ประชามติ มีขึ้นเพื่อป้องกันการชี้นำ การบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจบนพื้นฐานข้อเท็จจริง

ขณะเดียวกัน พล.ต.สรรเสริญ ระบุว่า รัฐบาล และ คสช. ไม่กังวลในการทำความเข้าใจกับองค์กรระหว่างประเทศ เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีและกระทรวงการต่างประเทศ ได้อธิบายความก้าวหน้าของแนวทางการปฏิรูปประเทศมาโดยตลอด และหากองค์กรใดต้องการข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทย สามารถติดต่อได้ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีความเหมาะสมมากกว่า การรับฟังข้อมูลจากกลุ่มคนหรือหน่วยงานอื่น ที่อาจมีข้อมูลไม่ถูกต้องหรือบิดเบือน

พล.ต.สรรเสริญ ยังเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุโต๊ะแดง จ.นราธิวาส อย่างใกล้ชิด โดยฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติการดับไฟให้ทุกคนปลอดภัย ขอให้ผนึกกำลังร่วมใจกันเพื่อคลี่คลายปัญหาให้สำเร็จลงได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ให้ถือเป็นบทเรียนสำคัญ โดยจะต้องไม่จุดหรือก่อกองไฟพื้นที่ป่า ทั้งที่เกิดจากความตั้งใจ เช่น เข้าป่าเพื่อล่าสัตว์หรือหาของป่า หรือจากความประมาท สะเพร่า สูบบุหรี่และจุดไฟเล่น เพราะเพียงสะเก็ดไฟเล็ก ๆ อาจเป็นชนวนให้เกิดไฟไหม้ สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเป็นห่วงเรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ใน อ.สุไหงปาดี และ อ.สุไหงโก-ลก และบริเวณใกล้เคียงเป็นพิเศษ เนื่องจากเริ่มได้รับผลกระทบจากควันไฟป่าแล้ว จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงพื้นที่ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือประชาชน เช่น ขอความร่วมมือไม่ให้ออกนอกบ้านหากไม่จำเป็น หรือแจกจ่ายหน้ากากอนามัย และยารักษาโรคอย่างเพียงพอ


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook