Exclusive 5 เรื่องราวน่ารักเมื่อ "แอฟ ทักษอร" ได้เป็นแม่

Exclusive 5 เรื่องราวน่ารักเมื่อ "แอฟ ทักษอร" ได้เป็นแม่

Exclusive 5 เรื่องราวน่ารักเมื่อ "แอฟ ทักษอร" ได้เป็นแม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ลูกคือสิ่งที่เราจะพยายามและยอมเขาได้ทุกอย่างเขาเหมือนเป็นเป้าหมายในชีวิตให้เราชัดเจน ที่ผ่านมาตัวแอฟก็ทำงานที่เรารักเรามีความสุขเราก็ทำไป แต่ไม่เคยมีเป้าหมายว่าจะต้องเก็บเงินทำอะไร แต่พอมีลูกเขาก็ทำให้เรายิ่งรู้ว่าเป้าหมายชีวิตเราต่อจากนี้คืออะไร"

ทันทีที่ทีมข่าว Sanook News! เรายิงคำถามความรู้สึกของการเป็นแม่ "แอฟ ทักษอร" นางเอกหน้าสวยที่หลายปีหลังนี้มานั้นเธอยอมวางมือจากการแสดงไปทำหน้าที่แม่แบบสมบูรณ์เต็มตัวกับลูกสาวตัวน้อย "น้องปีใหม่" ในวัยกำลังน่ารักและมีความโดดเด่นกับการเป็นเด็กอารมณ์ดีจนได้ฉายาเป็น "หมวยสายฮา" ที่นำความสุขและเสียงหัวเราะมาเติมเต็มให้ทุกคนในครอบครัว

ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการสะท้อนถึงการเลี้ยงดูของครอบครัวที่พยายามปลูกฝังและเติมเต็มโดยเฉพาะคนเป็นแม่อย่าง "แอฟ ทักษอร" เธอมีการเลี้ยงลูกของเธออย่างไรให้เป็นสาวน้อยอารมณ์ดีและชอบเอ็นเตอร์เทนผู้คนตั้งแต่วัยเด็ก รวมถึงประเด็นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 5 เรื่องราวความน่ารักเมื่อ "แอฟ ทักษอร" ได้เป็นแม่ ที่หากได้รู้แล้วคุณจะเข้าใจหัวอกแม่มากขึ้นอย่างแน่นอน

เมื่อ "แอฟ ทักษอร" รับบท "แม่" ในชีวิตจริง

"แอฟก็เข้าแล้วว่าการเป็นแม่คือความเสียสละจริงๆ และความเสียสละตรงนี้คือความเสียสละมากๆ ที่มันไม่ใช่รูปแบบของเงินทองที่ต้องสละ แต่มันคือเวลาและความสำคัญก็คือเวลาเราต้องให้ลูกมากที่สุด ความสำคัญลูกต้องมาก่อน แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนแน่นอนเราสำคัญสุดและก็ส่วนตัวเราทำงานแบบนี้มามันจะเคยชิน เช่น ทุกคนรอเรารอได้ที่บ้านก็ต้องรอเรา ที่ทำงานก็เป็นปกติที่ต้องรอนักแสดง แต่ลูกไม่ใช่แล้วแอฟจะต้องรอต้องพร้อมสำหรับเขาตลอดเวลา การเป็นแม่คือการได้มาอยู่จุดที่คนๆ นึงที่สำคัญกว่าเราเสมอแล้ว และก็ทำเห็นว่าเราก็มีความอดทนและเสียสละได้ขนาดนี้จริง" แอฟเล่าถึงความรู้สึกของตนเองเมื่อวันนึงต้องเสียสละชีวิตนักแสดงของตัวเองเพื่อทำหน้าที่ในบทบาทแม่

นอกเหนือจากความเสียสละในเรื่องของหน้าที่การงานแสดงงานที่แอฟเอ่ยปากว่าเป็นงานที่รักและผูกพันแล้วนั้น "ความเปลี่ยนแปลง" ของร่างกายก็คือสิ่งที่เธอเองก็เจอ

"แอฟอยากจะบอกว่าไม่ว่าอะไรที่เราจะบำรุงลูกในช่วงตั้งท้องสุดท้ายแล้วมากเกินไปมันจะไม่ดีลูกจะแพ้เพราะร่างกายเราได้รับอะไรที่ซ้ำๆ เยอะเกินไปร่างกายเราจะต่อต้าน อย่างแอฟการเปลี่ยนแปลงที่เจอตอนตั้งท้องคือเรื่องของการหายใจคือกายใจไม่ออกมันจะจุกตอนนั้น 90% คิดว่าลูกเป็นผู้ชายท้องใหญ่มากและแอฟไม่ได้ตัวใหญ่ และยิ่งช่วงหลังตอนท้องปลายๆ แล้วทานอะไรก็จุกเจ็บเสียด เป็นตะคริว ปัญหาความอ้วน ความโทรมสิวขึ้น และมันไม่ใช่แค่ว่าคลอดลูกแล้วเสร็จฉันจะเริ่มกลับสู่สภาพเดิมหลังจากคลอด 3-4 เดือน ฮอร์โมนมันเริ่มตีกลับผิวก็เริ่มเปลี่ยน ผมเริ่มร่วงเยอะมากและจะร่วงไปเรื่อยๆ จนลูกขวบนึงผมแอฟปัจจุบันเหลือครึ่งนึงทีเคยมีคิดว่าถ้าทีอีกคนก็คงหมดหัวแน่ นี่ลูกแค่หนึ่งคนเอาไปเยอะมาก บางคนก็ปวดกระดูกเพราะว่าลูกดึงแคลเซียมไปหมดก็มีค่ะ"

เป็น "แม่" ใครว่าเป็นแค่เรื่องกล้วยๆ

อย่างไรก็ดีแม้ว่า "แอฟ ทักษอร" จะได้สัมผัสการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมากมายเมื่อต้องเป็นแม่แล้วนั้นการรับบท "แม่" ในชีวิตจริงเธอยังบอกอีกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าไม่เจอกับตัวเอง

"การเป็นแม่ยากมากค่ะ เพราะแอฟรู้สึกว่ามันไม่ได้มีสูตรตายตัวว่าเราจะต้องเลี้ยงเขาอย่างไง มันขึ้นอยู่กับนิสัยส่วนตัวของเด็กแต่ละคนว่าเป็นยังไงด้วย บางทีแอฟอยากจะเลี้ยงเหมือนที่พ่อแม่เลี้ยงแอฟมาแต่มันใช้ทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะว่าปีใหม่ก็ไม่ได้แบบนิสัยแบบแอฟก็คงต้องลองกันไปลองผิดลองถูกหาวิธีที่จูนกันเข้าใจ ซึ่งแอฟก็เอาวิธีการเลี้ยงมาจากทุกคนเพราะว่ามีคนแนะนำเยอะรวมทั้งครอบครัวแอฟเองและครอบครัวสงกรานต์ก็จะช่วยตลอดช่วยให้คำแนะนำ ทุกท่านก็ให้คำแนะนำในลิมิตที่เราสบายใจ อย่างเห็นเพื่อนบางคนอาจจะรู้สึกกดดันเวลาที่แบบใครแนะนำช่วงแรกๆ แอฟก็เป็นตอนที่ปีใหม่ยังแบบแบเบาะอยู่ก็จะมีเรื่องที่กังวลเยอะ และจะมีเสียงเยอะแยะว่าทำไมไม่อย่างนั้นไม่อย่างนี้ ทำไมไม่ให้กินน้ำ ทำไมไม่ให้กินกล้วย ซึ่งจริงๆ แล้วแอฟว่าขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแม่ทำไปเลยไม่ต้องเครียด"

การเลี้ยงลูกในแบบคุณแม่ "แอฟ ทักษอร"

ส่วนเรื่องรูปแบบการเลี้ยงลูกของเธอนั้น "แอฟ ทักษอร" เธอบอกไว้อย่างน่าสนใจว่าการเลี้ยงลูกแม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยแต่แค่ได้เห็นลูกมีความสุขนั่นก็คือความสุขของคนเป็นแม่

"คือบอกกับตัวเองเลยว่าอยากจะเลี้ยงเขาในแบบที่เราถูกเลี้ยงมา พยายามทำให้เขาดูเป็นตัวอย่างจะพยายามไม่ดุไม่ตีแต่ก็เกือบโดนหลายทีละน่าตีจริงๆ เลย (ลากเสียงยาว) ซึ่งเขาเป็นเด็กที่ซนไม่อยู่นิ่งเลยถ้านิ่งก็คือหลับ เวลาไปข้างนอกเห็นลูกคนอื่นเขาแบบนั่งยิ้มนั่งหัวเราะ ปีใหม่ลองนั่งดูบ้างมั้ยลูก (หัวเราะ) คือช่วงคลานเขาก็คลาน ยิ่งเดินได้ก็จะไม่ยอมนั่ง นั่งคือนั่งคลานๆ เสร็จเขาก็อยากจะเดินซึ่งก็ดีไปคนละอย่างอาจจะเหนื่อยกายเราแต่ว่าใจเราก็ไม่ต้องกังวลว่าลูกยังไม่พูดลูกแฮปปี้หรือเปล่า เขาเป็นคนชัดเจนแฮปปี้เขาก็ตลกสนุกคึกคักอะไรของเขาไป พอเราเห็นเขาคึกคักตลอกเวลาถึงแม้เราจะเหนื่อยวิ่งไล่ตามจับกันทั้งวันแต่เราก็มั่นใจว่าเขามีความสุข"

ความดื้อของลูกสาวที่ "คุณแม่" แอบปวดหัว

เมื่อถามถึงเรื่องราวความแสบความซนของ "น้องปีใหม่" ในวัย 1 ปี 4 เดือน ที่ทำให้คุณแม่แอฟถึงกับต้องกุมขยับเลยนั้นคือ "ความใจร้อน" ที่ทำเอาคุณแม่ผู้แสนจะเรียบร้อยแอบโมโหได้เหมือนกัน

"เขาก็เริ่มดื้อและมีความใจร้อน ถ้าเห็นแล้วจะเอาอันนี้ก็จะเอาแอฟก็เลยปรึกษาคุณหมอ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วจะทำอย่างไรบางทีก็แอบโมโหนะ คือแอฟเป็นคนไม่ได้รักเด็กโดยพื้นฐานถ้าเด็กมาปรี๊ดๆ แอฟจะไม่ชอบเสียงกรี๊ด และต้องการให้ลูกหยุดกรี๊ดไม่อยากให้ลูกเป็นคนที่ไม่พอใจแล้วกรี๊ดแต่จะทำอย่างไรให้หยุด ถ้าเป็นลักษณะแอฟดุเขาไป พูดไปเถอะเขาไม่รู้เรื่องหรอก หรือถ้าตีก็จะทำให้เขามีความทรงจำที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำคือทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้เขารู้สึกว่าการที่เขากรี๊ดไม่มีผลอะไรเลยกรี๊ดแล้วก็ไม่ได้อยู่ดีทำบ่อยๆ เข้าเขาก็จะไม่ทำเองมันไม่เวิร์ค แต่ระหว่างที่แม่ทำเป็นว่าลูกกรี๊ดไม่ได้ผลแต่ในใจเรานี่นะเมื่อไหร่จะหยุดซะที อย่ากรี๊ดเลยลูกแม่ก็ปวดหัวเหลือเกิน ซึ่งอาจจะด้วยความที่เขาเหมือนคุณพ่อในความคึกคักทำอะไรเร็วเขาก็อาจจะขาดตรงนี้ไปคือความใจเย็น"

คำว่า "แม่" เปลี่ยนชีวิตนางเอก

"เปลี่ยนค่ะ ลูกมาก่อนเสมอเพราะด้วยความที่ว่าตอนนี้ลูกยังเด็กอยู่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ลูกต้องมาก่อนเพราะตอนนี้ลูกยังเด็กเราไม่สามารถจะไปเปลี่ยนเวลาของลูกได้ ทุกสามชั่วโมงเขาต้องดื่มนมถึงเวลาเขาต้องนอน เราจะต้องปรับตารางตัวเราเองให้เข้ากันถ้าเราไม่อยากให้เขางอแง แต่ถ้าเกิดว่าฝืนไปถ้าเขาต้องนอนแล้วเอาเขาออกไปทำงานด้วยแล้วเขางอแงเราต้องยอมรับนะ เพราะเขายังไม่โตพอที่เขาจะแบบอดทนไว้ลูกอีกชั่วโมงจะได้ทานข้าวแล้ว ปีใหม่เขาไม่ค่อยเท่าไหร่เรื่องนอนแต่ถ้าเรื่องหิวโวย และยิ่งกลางคืนนี่ยิ่งคึกมาก แอฟนี่อยากจะให้ลูกปิดสวิตซ์เร็วๆ ปุ่มอยู่ตรงไหนอยากจะปิดมากยิ่ง"

นอกจากนั้นคุณแม่แอฟยังเล่าเสริมปิดท้ายอีกว่าเป็นเด็ก ร่าเริง สนุกสนาน ขี้เล่น ตั้งแต่เด็กจนได้ฉายา "หมวยสายฮา" นั้นนำมาซึ่งความแปลกใจของทุกคนในครอบครัวแต่กลับกลายเป็นผลดีที่ทำให้เกิดความสนุกในการเลี้ยงดู

"ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยค่ะ ตอนแรกแบบว่าไม่ได้คิดว่าลูกเราจะเป็นแบบนี้ คิดว่าเป็นลูกสาวออกมาคงงุ้งงิ้ง วันๆ คงจะเล่นตุ๊กตาจับแต่งตัว ปรากฏว่าลูกเราออกมาแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดเลย เขาเป็นเด็กสนุกมากคึกมาก ตลกเอ็นเตอร์เทน คือเป็นอะไรที่เราไม่คาดคิดว่ากลายเป็นเขาเป็นคนเอ็นเตอร์เทนเรา มันก็ดีและสนุกไปอีกแบบกับการเลี้ยงลูก ซึ่งแอฟกับสงกรานต์ก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะเป็นเด็กตลก เพราะพ่อเขาก็พูดน้อย ยิ่งแม่ก็พูดน้อย ส่วนนึงแอฟเชื่อว่ามันเป็นตัวตนของเขาเองเพราะว่าเขาก็จะค่อนข้างอารมณ์ดี ตั้งแต่ตอนที่ยังพูดไม่ได้ ถ้าตรงนี้จะบอกงว่าเกิดจากการเลี้ยงดูทั้งหมดก็คงไม่ใช่ ตอนเด็กๆ เขาก็แค่นอนอยู่เฉยๆ หมายถึงว่าก็ยังไม่ได้มีการสื่อสารกับคนอื่นมากนัก แอฟก็ว่าพื้นฐานต้องมาแบบนี้ส่วนนึง และก็อีกส่วนนึงก็เป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่เขาโตขึ้นมาในครอบครัว และยิ่งตอนนี้ยิ่งสื่อสารรู้เรื่องเขาก็เริ่มมีรีแอ็คชั่นกับผู้คนได้มันก็ยิ่งสนุกยิ่งบวกเข้าไปอีก เขาจะเป็นคนที่ทำอะไรเขาจะอยากให้ทุกคนรีแอ็คกับเขาค่ะ"

เรียกว่าเต็มอิ่มและครบถ้วนกับบทสัมภาษณ์เปิดใจของคุณแม่แสนสวย "แอฟ ทักษอร" ที่มาเล่าเรื่องราวความน่ารักในการเลี้ยงลูก รวมถึงบทบาทการเป็นแม่ที่แม้ว่าจะรักงานการแสดงในวงการมากแค่ไหน แต่เมื่อชีวิตจริงต้องเป็นแม่ลูกก็คือสิ่งมีชีวิตที่สอนให้รู้จักคำว่าอดทนและเสียสละนั่นเอง

เครดิตภาพ IG : แอฟ ทักษอร

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ Exclusive 5 เรื่องราวน่ารักเมื่อ "แอฟ ทักษอร" ได้เป็นแม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook