คนสุรินทร์เฮ แห่ส่องเลข ต้นตะเคียนยักษ์ เชื่ออายุ 1,300 ปี

ชาวบ้านแห่ตามไปดู ต้นตะเคียนยักษ์โบราณ อายุกว่า 1,300 ปี เก็บกู้ได้ก่อนวันหวยออก หลังชาวบ้านนอนฝันดลใจ ขุดพบตามที่เห็นในฝัน

(15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณข้างคลองห้วยเสน บ.ขามน้อย ม.2 ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พบชาวบ้านทั้งในพื้นที่และใกล้เคียง ทยอยเดินทางมากราบไหว้ เพื่อขอโชคลาภกับต้นตะเคียนยักษ์โบราณ ที่เชื่อว่ามีอายุกว่า 1,300 ปี

บรรยากาศตลอดทั้งวันเป็นไปอย่างคึกคัก แม้ว่าฝนจะตกลงมาก็ตาม โดยต้นตะเตียนโบราณวัดรอบต้นได้ 3 เมตร 60 เซนติเมตร ความยาว 14 เมตร 30 เซนติเมตร หลังขุดพบเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา และในคืนนี้ จะมีร่างทรงมาทำพิธี เพื่อขอโชคลาภเลขเด็ดอีกด้วย เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) เป็นวันออกสลากกินแบ่งฯ

นายสุข อายุ 59 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ตนเป็นผู้พบต้นตะเคียนคนแรก ก่อนหน้านี้ตนเคยอธิษฐานขอพร อยากได้ต้นตะเคียนไปทำเสาโบสถ์วัดขามน้อย แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตนมางมหาหอย ตอนจะขึ้นฝั่งและกลับบ้าน บังเอิญไปเหยียบกับปลายต้นตะเคียน แต่ไม่ทราบว่ามีขนาดใหญ่แค่ไหน

ต่อมาจึงจ้างวานรถแบ็คโฮมาช่วยขุด เมื่อเย็นวันที่ 10 พฤษภามที่ผ่านมา แต่รถคันเดียวไม่สามารถนำต้นตะเคียนขึ้นมาได้ ต้องจ้างรถแบ็คโฮมาเพิ่มอีกคัน จึงสามารถช่วยกันขุดขึ้นมาได้ และพบว่าต้นตะเคียนมีขนาดใหญ่มาก ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน

จากนั้นได้มีชาวบ้านฝันว่า ถัดไปจากจุดที่พบต้นตะเคียนอีก 100 เมตร มีเสาตะเคียน ซึ่งเป็นเสาบ้านโบราณจมอยู่ ให้ช่วยนำขึ้นมาไว้คู่กับต้นตะเคียนด้วย เมื่อชาวบ้านไปค้นหาตามที่ชาวบ้านฝันก็พบอย่างน่าอัศจรรย์ จึงนำขึ้นมาและตั้งศาลเจ้าแม่ตะเคียนไว้ข้างห้วยเสนให้ชาวบ้านกราบไหว้

ส่วนต้นตะเตียนยักษ์ ได้ถูกนำขึ้นมาไว้ข้างคลองห้วนเสนชั่วคราว ก่อนหาวิธีบรรทุกไปไว้ที่วัดขามน้อย และความคิดที่จะนำต้นตะเคียนไปตัดเป็นเสาโบสถ์นั้นจึงล้มเลิกไป ชาวบ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านต่างลงความเห็นว่า จะนำต้นตะเคียนไปไว้ที่วัดเพื่อให้ชาวบ้านบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลต่อไป

ทั้งนี้ หลังจากพบต้นตะเคียน ได้นำร่างทรงมาทำพิธีเข้าทรงดู จึงทราบว่า ต้นตะเคียนมีอายุ 1,300 ปีแล้ว จมอยู่ในพื้นดินลึกลงไปจากก้นคลอง 3-5 เมตร ลำต้นมีลักษณะสวยงาม บางคนบอกว่าลักษณะรูปร่างโค้งเหมือนเรือสุพรรณหงษ์ บางคนบอกเหมือนพญานาค ส่วนเลขเด็ดที่ร่างทรงเข้าทรงดูบอกว่าได้เลข 204 อีกด้วย นายสุข สมทอง กล่าว