หนุ่มอุดรฯ ถูกหวย 30 ล้าน เตรียมฟ้อง นสพ.เสนอข่าวรับถุงยังชีพ

หนุ่มอุดรฯ ถูกหวย 30 ล้าน เตรียมฟ้อง นสพ.เสนอข่าวรับถุงยังชีพ

หนุ่มอุดรฯ ถูกหวย 30 ล้าน เตรียมฟ้อง นสพ.เสนอข่าวรับถุงยังชีพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มอุดรถูกหวย 30 ล้าน เตรียมฟ้องเฟซบุ๊กของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่นำเสนอข่าวว่ามีเงินแล้วยังไปรับถุงยังชีพผู้ประสบภัย โดยเจ้าตัวยืนยันบ้านได้รับความเสียหายจากพายุจริง

วันที่ 16 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมสมาชิกเหล่ากาชาดอุดรธานี นำถุงยังชีพ 240 ถุง มามอบเพื่อเยียวยาปลอบขวัญ ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยในปีนี้บ้านเรือนราษฎรอุดรธานี ได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 8,000 หลังคาเรือนแล้ว ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมากว่า 3 เท่าตัว

ทั้งนี้ นายยงยุทธ แก้วสวนจิก หนุ่มใหญ่ รปภ. ที่เคยตกเป็นข่าวถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท แต่ต้องแยกทางกับภรรยา ได้เดินทางมารับถุงยังชีพในครั้งนี้ด้วย ซึ่งหลังจากมีข่าวแพร่สะพัดไปในโลกโซเชียล มีคนโพสต์ทั้งให้กำลังใจ และมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าไปรับถุงยังชีพ เพราะว่าเป็นคนมีเงิน

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านของนายยงยุทธ ที่กำลังทำการก่อสร้างในพื้นที่กว่า 30 ไร่ แต่มีบ้านอีกหลังที่อยู่เยื้องกับบ้านหลังใหม่ ถูกพายุพัดเสียหายหลังคาปลิวหายไปครึ่งหลัง

โดย นายยงยุทธ ชี้แจงว่า บ้านของตนถูกพายุพัดพังเสียหายจริง ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ตนเคยอยู่อาศัยมาก่อนตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนตนมาซื้อบ้านและที่ดินเก็บไว้ หลังจากถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งขณะนี้บ้านที่ตนตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่บ้านหลังนี้ โดยคาดว่าจะเสร็จประมาณเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนบ้านที่เสียหายตนตั้งใจจะเก็บเอาไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า เราเคยเป็นอย่างไรมาก่อน จนคนมีโทรศัพท์มาแจ้งให้ตนไปรับถุงยังชีพ ตนจึงออกไปรับตามสิทธิ

ทั้งนี้ เมื่อมีข่าวออกไปในเฟซบุ๊กของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่า ไม่น่าไปรับถุงยังชีพ เพราะถูกรางวัลที่ 1 นั้น ตนกำลังจะไปปรึกษาทนายความว่าจะดำเนินการฟ้องร้องเฟสบุ๊คดังกล่าว ซึ่งถุงยังชีพที่ได้มา ตนไม่ได้เอาไปเก็บไว้เอง นำไปมอบให้น้าชายที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์มาได้ 5 ปี และส่งเงินให้เดือนละ 5,000 บาท รวมกับเบี้ยคนพิการที่น้าได้รับ แต่พาดหัวข่าวที่ออกมา ทำให้ตนเสียหาย

นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนจ่ายค่าเลี้ยงดูลูกเดือนละ 7,000 บาท และได้ทำพินัยกรรมเก็บไว้แล้ว โดยทรัพย์สินที่มีอยู่รวมทั้งที่ดิน เหลือประมาณ 22 ล้านบาท โดยจะมอบให้ลูกชายเมื่ออายุครบ 23 ปี ให้ 70 เปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะยกให้ญาติพี่น้อง จากนั้นนายยงยุทธพาผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของนายธุระ แต่นานรัมย์ น้าชาย พบป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก พร้อมนำถุงยังชีพที่ไปรับมามาให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อยืนยันว่าได้นำถุงยังชีพมามอบให้กับน้าชายจริง ไม่ได้นำไปใช้เอง

ด้าน นายโชคชัย วัฒนกุล นายอำเภอหนองหาน เปิดเผยว่า การที่นายยงยุทธไปรับมอบถุงยังชีพจากผู้ว่าราชการจังหวัดถือว่าไม่ผิด เป็นการใช้สิทธิเพราะบ้านประสบภัยพายุจริง ส่วนเขาจะไปมอบให้ใครก็เป็นเรื่องของคนๆ นั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook